นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชนตั้งข้อสังเกตว่า พม.ทำงานในลักษณะทางใครทางมัน ด้วยความซับซ้อนความเปราะบางของปัญหาสังคม หน่วยงานราชการไม่สามารถทำงานแบบแยกส่วน แต่ต้องบูรณาการทำงานบนความร่วมมือจากทุกฝ่าย และการที่เราจะไปขอความร่วมมือข้ามกระทรวงนั้น ภายในหน่วยงานเราเองต้องรวมกันเป็นหนึ่งให้ได้เสียก่อน จึงเป็นที่มาของนโยบาย “พม.หนึ่งเดียว” โดยให้ทุกหน่วยงานเข้ามาทำงานร่วมกัน ซึ่งศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) เป็นหน่วยตัวอย่างที่ดีในการทำงานร่วมกันของทุกองค์กรใน พม. เพราะเมื่อได้รับการร้องเรียนทุกปัญหา สามารถโทร.แจ้ง 1300 เพราะทุกองคาพยพของ พม.รวมอยู่ใน ศรส. ในการประสานแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที
รมว.พม.กล่าวว่า นอกจากนี้ ต้องเปลี่ยนแนวคิดการทำงานเชิงตั้งรับเป็นทำงานเชิงรุกป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นมา เพื่อลดภาระงานของ พม.ในระยะยาว โดยเฉพาะปัญหาความรุนแรงในครอบครัวต้องสกัดวงจรปัญหาตั้งแต่ต้นทาง แนวนโยบายที่จะเป็นรากฐานสำคัญในการป้องกันปัญหาคือ การสร้างสถาบันครอบครัวให้เข้มแข็ง ถือเป็นภารกิจของทุกองคาพยพที่จะต้องช่วยกันสร้าง หากเราสามารถทำตรงนี้ได้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวและสืบทอดไปถึงปัญหาความรุนแรงในสังคมก็จะลดระดับไปเรื่อยๆ
เมื่อถามถึงการประเมินผลงานอธิบดีแต่ละกรมเป็นอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า จะพิจารณาอีกสักระยะ หากยังไม่ดีก็คงต้องปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม
“ผมบอกตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา พม.แล้วว่าให้ทุกคนเปลี่ยนใส่รองเท้าผ้าใบ วิ่งตามผมให้ทัน ผมไปเร็ว เพราะงานไม่รอท่า เวลาผมมีแค่ไหนไม่รู้ แต่ผมต้องทำให้เต็มที่ต้องให้เห็นผลงาน พม.ทั้งในและต่างประเทศ” นายวราวุธกล่าว.
...
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่