ช่วงนี้หลายหน่วยงานลุยจับอาชญากรรมทางออนไลน์กันแหลก! หลัง “นายกฯเศรษฐา” ไปอาละวาด บช.สอท. คาดโทษให้จับ “ผู้บงการ” ไม่ใช่ปลาซิวปลาสร้อย

ตำรวจหลายหน่วยเลยสะดุ้งโหยง ไล่ล่าไล่จับแก๊งอาชญากรทางเทคโนโลยีกันใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนันออนไลน์ฯ ผลดีตกอยู่กับเหยื่อที่เป็นชาวบ้านตาดำๆ?

แต่มีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอีกอย่าง ที่เราเห็นจับกันบ่อยคือ เหมืองขุดเงินสกุลดิจิทัล ที่หลายคนสงสัยว่า ผิดอะไร?

ล่าสุด พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พาลูกน้องลุยจับเหมืองขุดเงินดิจิทัล ต้องสงสัยว่า หลอกลวงลงทุนซื้อหรือให้เช่าเครื่องขุด ทั้งรับวาง ค่าดูแล และค่าไฟฟ้า คิดราคาต่ำกว่า ท้องตลาด?

ขอหมายศาลลุยตรวจค้นจุดแรก โรงเจไท้เอ็กตั๊ว ศาลเจ้าพ่อสำเร็จ เลขที่ 182 หมู่ 2 ต.หนองสองห้อง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร พบชั้นวางเครื่องขุดเงินดิจิทัลสกุลบิตคอยน์เรียงราย 187 เครื่อง จับกุมผู้ดูแล 1 คน

จุดที่สองบริเวณเขาแก่นจันทร์ ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี อลังการกว่า พบเหมืองขุดสกุลเงินบิตคอยน์พร้อมเครื่องขุดเรียงรายบนชั้นอย่างเป็นระเบียบถึง 465 เครื่อง จับกุมผู้ดูแล 2 คน!

ผู้ต้องหาทั้งหมดรับว่า เปิดเหมืองขุดเงินดิจิทัลหลายสกุล แต่นำเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ขุดจากประเทศจีนอย่างถูกต้อง ขายเครื่องให้ผู้สนใจราคาตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท แล้วแต่คุณภาพและความเร็วในการขุด

คิดค่าวาง ค่าไฟ และค่าดูแลเดือนละ 6,200 บาทเท่านั้น?!

ทั้งที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่ร่วมตรวจสอบ คำนวณค่าไฟคร่าวๆว่า แต่ละเครื่องจะใช้ไฟไม่ต่ำกว่าเดือนละ 9,000 บาท ไปตรวจสอบที่มิเตอร์ไฟพบว่าถูกดัดแปลงจริง!

...

ความเสียหายเฉพาะค่าไฟหลังเหมืองทั้ง 2 แห่งเปิดมา 2 เดือนอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาท!

เลยถูกพาตัวไปดำเนินคดีข้อหาขโมยไฟหลวงไปก่อน ส่วนเรื่องเครื่องขุดถ้าตรวจสอบแล้วนำเข้าอย่างถูกต้องก็รอดไป เพราะข้อหาตามกฎหมายไทยมีแค่นี้?

แต่ที่เลวจริงคือ ขโมยไฟหลวงใช้ฟรี ขณะที่ชาวบ้านจ่ายค่าไฟ กันอ่วมอรทัย!


สหบาท

คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม