โอม อมฤต เข้าเวรคอลัมน์ ยำตำรวจ ประจำฉบับวันอาทิตย์ที่ 28 เม.ย.2567
ดุเดือดเลือดพล่านสำหรับการต่อสู้ของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล นรต.47 รอง ผบ.ตร. แมวเก้าชีวิตตัวจริงเสียงจริง หลังถูกให้ออกจากราชการจากคดีที่ สน.เตาปูนขอให้ศาลอาญาออกหมายจับคดีฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินโยงเว็บพนันบีเอ็นเคมาสเตอร์ จนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยต้องคดีอาญาและที่สุดนายกรัฐมนตรีส่งตัวกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. นรต.41 เซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตาม โดยตั้ง พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร.นรต. 40 เป็นประธานการสอบสวนวินัย
หลายฝ่ายสงสัย “ฉากจบ” กรณีบิ๊กโจ๊กจะเป็นเช่นไรและการออกมาต่อสู้ครั้งนี้ถูกต้องมั้ย โอม อมฤต เห็นด้วยที่บิ๊กโจ๊กต้องออกมาสู้ขอคืนความเป็นธรรมให้ตัวเองเพราะยังมีอนาคตอีกนานถึง 7 ปีจะเกษียณ การต่อสู้ทางคดีอาญานั้นน่าจะใช้เวลานานหลายปี แต่กับการสอบสวนทางวินัยนี่สิสำคัญมากและน่าจะไม่เกิน 1-2 ปี จึงน่าจะต้อง “โฟกัส” ไปที่การสอบสวนทางวินัยเพราะมีทางออกเพียงแค่ 3 ประการเท่านั้นคือ 1.ไม่ผิดพ้นมลทิน 2.ให้ออกมีบำเหน็จบำนาญ และ 3.ปลดออก งดบำเหน็จบำนาญ
การต่อสู้ของบิ๊กโจ๊กครั้งสำคัญนี้กองเชียร์ก็คงต้องเอาใจช่วยสุดกำลังละครับ
เปิดไปดูเว็บไซต์สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำงานฉับไว ผู้บังคับบัญชาสูงสุดมีเพียง 4 ท่านเท่านั้น คือ 1.พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. 2.พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จตช. 3.พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร.และ 4.พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. มันดูวังเวงยังไงไม่รู้ครับท่าน
...
“พิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้” สโลแกนของ พล.ต.ท.ฐากูร นัทธีศรี ผบช.ภ.3 ปลุกตำรวจภาค 3 เข้าต่อกรกับยาเสพติดเส้นทางลำเลียงจากประเทศเพื่อนบ้านสู่ภาคกลาง มอบหมายให้ พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.3 ตัวจักรสำคัญสกัดจับได้ท้องที่ สภ.หนองสาหร่าย จ.นครราชสีมา 1,266,000 เม็ด และท้องที่ อ.สตึกต่อแดน อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์อีก 922,000 เม็ด
ไม่เอาไว้ พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จ.นครปฐม เซ็นให้ออกจากราชการทันที 8 ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.สามควายเผือก จ.นครปฐม ชั้นยศ ร.ต.อ.ถึง ส.ต.ต. ถูกแม่ค้าโรงงานไก่ร้องเรียนรีดทรัพย์หลักฐานชัดเจนจากคลิปที่ตำรวจน้ำดีส่งให้ ยุคนี้สีกากียังไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมีหวังติดคุกกันระนาว.
โอม อมฤต