แม่โวยโรงเรียนชื่อดังใน จ.เพชรบูรณ์ พาลูกชายไปปัจฉิมนิเทศถึง จ.ชลบุรี ระหว่างเล่นกับเพื่อนคอหักเสียชีวิต ถูกเกลี้ยกล่อมเชิงข่มขู่ไม่ให้แจ้งความ แต่ช่วยเรี่ยไรเงินมาช่วยแค่หมื่นกว่าบาท ต้องเป็นหนี้เป็นสินกู้ยืมเงินมาเป็นค่าทำศพลูกหลายหมื่น หลังเข้าปรึกษาเพจสายไหมต้องรอดตัดสินใจจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีผู้รับผิดชอบที่ สภ.สัตหีบ และประสานกระทรวง ศธ.ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
แม่ร้องโรงเรียนพาลูกไปปัจฉิมนิเทศแล้วเสียชีวิตแต่ไม่รับผิดชอบ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 เม.ย. ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด น.ส.พัชรี สามา อายุ 44 ปี แม่ของนายรัชวัต มั่นทุ่ง อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าพบนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังมองว่าการเสียชีวิตของลูกชายมีข้อสงสัยและไม่ได้รับความเป็นธรรม เหตุเกิดระหว่างโรงเรียนพาไปทำกิจกรรมปัจฉิมนิเทศที่หาดนางรำ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา
น.ส.พัชรี สามา เผยว่า หลังเกิดเรื่องโรงเรียนชี้แจงว่า ก่อนเหตุการณ์เกิดขึ้นลูกชายร่วมเล่นฟุตบอลชายหาดกับเพื่อนนักเรียน แต่ระหว่างทำกิจกรรมในกลุ่มนักเรียนตั้งกฎลงโทษกันโดยทำท่าสมอบก เอาหัวปักพื้นทราย ทำให้ลูกชายหมดสติและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ครอบครัวต้องยืมเงินและกู้เงินมาจัดงานศพเป็นเงินจำนวนหลายหมื่นบาท เมื่อทวงถามความรับผิดชอบจากโรงเรียนกลับได้รับเงินช่วยเหลือจากการเรี่ยไรจำนวนหมื่นกว่าบาท ซึ่งไม่เพียงพอ ทำให้ต้องรับภาระหนี้สินจำนวนมาก
“ทางครอบครัวไม่ได้ติดใจสาเหตุการตาย เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่เมื่อเข้ามาปรึกษากับทางเพจสายไหมต้องรอดแล้ว มองว่าสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายมีหลายข้อสงสัย อีกทั้งก่อนหน้านี้ตนไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับด้านกฎหมาย และถูกทางบุคลากรของโรงเรียนพูดในทำนองข่มขู่ ทำให้ไม่ได้เข้าไปแจ้งความเอาผิดกับใคร” แม่ผู้สูญเสียกล่าว
...
น.ส.พัชรีกล่าวด้วยว่า วันพรุ่งนี้เพจสายไหมต้องรอดจะพาครอบครัวตนเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.สัตหีบ ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมจะประสานงานกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย สำหรับลูกชายตนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.90 ถือว่าเป็นเด็กนักเรียนเรียนดี ใฝ่ฝันอยากเป็นข้าราชการ เป็นอนาคตที่ดีของครอบครัว ทางครอบครัวจึงอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่