ผวจ.ชลบุรีสั่งปิดโรงน้ำแข็งเมืองพัทยา หลังเกิดเหตุระทึกสารแอมโมเนียรั่วไหลกลางดึก ทำคนงานและชาวบ้านละแวกใกล้เคียงสูดควันพิษเจ็บระนาว 155 คน บางรายโคม่าอาเจียนเป็นเลือดต้องหามส่งโรงพยาบาลโกลาหล แฉต้นเหตุมาจากท่อส่งสารทำความเย็นรั่ว คนงานพากันแตกตื่นวิ่งหนีตายไม่มีใครเข้าไปปิดวาล์วเกิดควันลอยฟุ้งกระจายรัศมีกว่า 1 กม. กู้ภัยต้องสวมชุดอับอากาศเข้าไปปิดจนควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ แต่ยังพบสารในอากาศเกินค่ามาตรฐาน ห้ามโรงงานนำน้ำแข็งและน้ำดื่มที่เหลือออกขายเด็ดขาด

เหตุแอมโมเนียโรงน้ำแข็งรั่ว ทำคนงานและชาวบ้านหายใจไม่ออกอาเจียนเป็นเลือด ถูกหามส่งโรงพยาบาลเกือบ 160 คน เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 17 เม.ย. เจ้าหน้าที่ศูนย์งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองหนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุสารแอมโมเนียรั่วไหลและผู้บาดเจ็บหลายรายภายในโรงงานน้ำแข็งราชา เลขที่ 54 ถนนชัยพรวิถี ซอยหนองปรือ หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง หลังรับแจ้งประสานเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา และหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ใกล้เคียงเข้าช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุพบกลุ่มควันสีขาวลอยฟุ้งในอากาศสูงจากพื้นดิน 3-4 เมตร พร้อมกลิ่นสารแอมโมเนียกระจายไปในรัศมีกว่า 1 กม. มีคนงานในโรงน้ำแข็งและชาวบ้านในละแวกดังกล่าวได้รับบาดเจ็บเบื้องต้นกว่า 60 คน ส่วนใหญ่มีอาการแสบคอ หายใจไม่ออก และแสบตาอย่างมาก บางรายอาเจียนออกมาเป็นเลือด น้ำลายฟูมปาก ทีมกู้ภัยต้องรีบลำเลียงส่งโรงพยาบาลในพื้นเมืองพัทยา อ.บางละมุง และ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ขณะที่ทีมนักผจญเพลิงต้องสวมใส่ชุด SCBA หรือชุดกู้ภัยพื้นที่อับอากาศ พร้อมช่างประจำโรงงานเข้าไปปิดวาล์วถังแอมโมเนียภายในถึง 2 จุด

ต่อมานายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง เดินทางมาอำนวยความสะดวกในการควบคุม สถานการณ์กระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถปิดวาล์วถังแอมโมเนียได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ในเวลา 00.40 น. วันที่ 18 เม.ย. และระดมฉีดน้ำ เจือจางสารแอมโมเนียที่ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ พร้อมกับเปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ห่างจากโรงงานน้ำแข็งประมาณ 1 กม. และอพยพชาวบ้านที่อยู่ใกล้โรงงานน้ำแข็งมาอยู่ในที่ปลอดภัย โดยเฉพาะชาวบ้านในหมู่บ้านเอื้ออาทรด้านหน้าโรงงานน้ำแข็ง พร้อมเปิดหอศาลาประชาคมเป็นที่พักชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ขณะเดียวกันมีผู้ประสบภัยเกิดอาเจียนเพิ่มขึ้นอีกกว่า 100 คน เจ้าหน้าที่ต้องแยกลำเลียงส่งโรงพยาบาลต่างๆอย่างโกลาหล

...

สอบสวนชาวบ้านที่อยู่ด้านหน้าโรงงานน้ำแข็งเล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวจนพื้นสั่นสะเทือนนานเกือบ 1 นาที จากนั้นเห็นกลุ่มควันสีขาวโพยพุ่งออกมาจำนวนมาก พอสูดกลิ่นเข้าไปก็รู้ทันทีว่า เป็นสารแอมโมเนียรีบวิ่งหนีออกจากพื้นที่แบบไม่คิดชีวิต อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์สารแอมโมเนียรั่วลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน แต่ครั้งนี้ถือว่าหนักกว่าครั้งที่แล้ว

นายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง กล่าวว่า เบื้องต้นควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว อยู่ระหว่างการฉีดพรมน้ำให้สารแอมโมเนียจางหายเร็วที่สุด ส่วนเรื่องโรงงานต้องให้อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรีมาตรวจสอบว่าโรงงานมีความผิดหรือไม่ สำหรับคนเจ็บเบื้องต้นมีประมาณ 100 ราย ส่วนใหญ่หายใจไม่ออก ตอนนี้ได้อพยพคนที่ยังไม่กล้ากลับเข้าบ้านไปอยู่ในศาลาประชาคม ยืนยันว่ามีการปิดวาล์ว 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ขอให้ประชาชนไม่ต้องวิตกกังวล

ขณะที่นายบุญอนันต์ พัฒนสิน ผู้บริหารโรงงานน้ำแข็งราชา เปิดเผยว่า ขอยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การระเบิดตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้ แต่เป็นการรั่วไหลของสารแอมโมเนียที่ใช้ในทำความเย็น ผลิตน้ำแข็ง ตอนเกิดเหตุมีคนงานทำงานอยู่ประมาณ 10 คน หลังเกิดการรั่วไหลของสารแอมโมเนียคนงานต่างตื่นตระหนกพากันวิ่งหนี ไม่ทันได้ปิดวาล์วระบบ ทำให้เกิดผลกระทบในวงกว้างต้องขออภัย ผู้บริหารโรงงานยืนยันจะดูแลผู้ประสบภัยทุกคนอย่างดีสุด และจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ส่วนสาเหตุน่ามาจากอุปกรณ์ท่อสารแอมโมเนียเกิดการชำรุด

ช่วงสายวันที่ 18 เม.ย. นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร รอง ผวจ.ลพบุรี พร้อมด้วย นพ.อภิรัตน์ กตัญญุตานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และนายวินัย อินทร์พิทักษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือ นำเจ้าหน้าทีี่ตรวจสอบค่าสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งรั่ว นายปราชญาเปิดเผยภายหลังว่า เบื้องต้นสั่งให้ปิดสถานที่โรงงานน้ำแข็งห้ามคนเข้าออกเป็นเวลา 3-7 วัน พร้อมให้เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดตรวจสอบน้ำแข็งและน้ำดื่มในโรงงาน ห้ามนำออกไปจำหน่าย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนว่าไม่มีสินค้าปนเปื้อนสารแอมโมเนียรั่วไหลไปสู่ท้องตลาด ส่วนสารแอมโมเนียในเวลานี้พบว่าค่าที่ตรวจพบในอากาศยังเกิน 3 DPM จากปกติต้องไม่เกิน 1 DPM ส่วนน้ำอยู่ระหว่างตรวจวัด ทั้งนี้ อยากฝากให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกเกินควร หากมีอาการให้รีบไปพบแพทย์จังหวัดพร้อมดูแลอย่างเต็มที่

จากนั้นในช่วงบ่าย นายธวัชชัย ศรีทอง ผวจ.ชลบุรี เดินทางไปตรวจโรงงานน้ำแข็งด้วยตัวเอง พร้อมกับเดินทางไปเยี่ยมผู้ป่วยตามโรงพยาบาลต่างๆ ผวจ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ตอนนี้สามารถควบคุม สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ แต่ยังคงมีกลิ่นแอมโมเนียหลงเหลืออยู่บ้าง กำชับให้ฝ่ายงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเร่งฉีดน้ำเพื่อให้กลิ่นเจือจางลงและหายไป เชื่อว่ากลิ่นมาจากพื้นและท่อระบายน้ำ ส่วนผู้บาดเจ็บยืนยันว่ามีทั้งหมด 155 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยสีเขียวถูกปล่อยกลับบ้านไปหมดแล้ว เหลือสีเหลือง 9 คน และสีแดงผู้ป่วยหนักอีก 3 คน ที่ยังคง รักษาตัวอยู่ ส่วนเรื่องของโรงงานเน้นย้ำผู้ประกอบการว่าช่วงนี้ต้องปิดทำการ 7 วัน เพื่อเร่งทำความสะอาด แต่โรงงานขอเคลียร์พื้นที่ 30 วัน เพื่อตรวจเช็กระบบทั้งหมดให้เรียบร้อย

ส่วน พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ นำพนักงานสอบสวนและตำรวจพิสูจน์หลักฐานชลบุรีเข้าตรวจจุดเกิดเหตุและสอบปากคำพยานและชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อหาสาเหตุการรั่วไหลสารเคมีครั้งนี้ เบื้องต้นได้หลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดพบว่า ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 17 เม.ย. เกิดการรั่วไหลของสารแอมโนเนียออกมาทางด้านขวาก่อนฟุ้งกระจายเป็นบริเวณกว้าง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อสรุปสาเหตุการรั่วไหลอีกครั้ง

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กำชับให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) ชลบุรี เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด ล่าสุดรับรายงานว่ามีคำสั่งให้โรงน้ำแข็งหยุดประกอบกิจการทั้งหมดแล้ว เนื่องจากมีผู้ได้รับผลกระทบจากการสูดดมแอมโมเนีย สำหรับข้อสันนิษฐานเบื้องต้นเกิดจากท่อน้ำยาแอมโมเนียรั่วไหล จึงต้องออกคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการพร้อมกับเร่งแก้ไขปรับปรุงท่อและอุปกรณ์บริเวณที่ก่อให้เกิดการรั่วไหลของสารแอมโมเนียโดยให้อยู่ภายใต้การซ่อมแซมและการควบคุมของวิศวกร ให้จัดทำรายงานการตรวจสอบและทดสอบก่อนปฏิบัติงานจริงโดยวิศวกรควบคุม รวมทั้งต้องรายงานการตรวจสอบความปลอดภัยระบบทำความเย็นต่อ สอจ.ชลบุรี ก่อนเริ่มประกอบกิจการ และขอให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 20 พ.ค.นี้

...

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลผู้รับผลกระทบจากเหตุสารแอมโมเนียรั่วในโรงงานน้ำแข็งใน อ.บางละมุง ว่ามอบหมายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข บูรณาการร่วมกับพื้นที่ มีทั้ง ผวจ.และท้องถิ่น ส่วนการรักษาพยาบาลจะมี รพ.ชลบุรี และ รพ.บางละมุง เป็นโรงพยาบาลหลักร่วมกับ รพ.เอกชนหลายแห่ง

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่