คนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติยังสนุกสุดเหวี่ยงกับการสาดน้ำในเทศกาลสงกรานต์ 2567 ทั้งภาครัฐ-เอกชนทั่วประเทศพร้อมใจจัดอย่างใหญ่ ขณะที่ สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนยังไม่แผ่ว 3 วัน ยอดตายสะสมทะลุไป 116 ศพ เจ็บเฉียด 1 พันคน โดย กทม.ครองแชมป์ตายสะสม ควบคดีเมาแล้วขับ ส่วนภาพรวมทั้งประเทศจับกุมเมาแล้วขับ 11,854 ราย ด้านรองปลัด ก.คมนาคม บี้เจ้าหน้าที่ขยายผลเอาผิดคนขายน้ำเมาให้เยาวชน

เข้าสู่ครึ่งหลังของช่วงเฝ้าระวังอันตรายจากอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2567 ที่ยอดผู้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางถนนยังพุ่งไม่หยุด รวมถึงผู้ขับขี่ยวดยานที่ถูกจับฐานเมาแล้วขับมีแต่เพิ่มขึ้น

3 วันตายรวม 116 ศพ

ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 13 เม.ย.2567 เกิดอุบัติเหตุ 392 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 411 คน ผู้เสียชีวิต 48 ราย สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 3 วันของการรณรงค์ (11-13 เม.ย.2567) เกิดอุบัติเหตุรวม 936 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 968 คน ผู้เสียชีวิต รวม 116 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 28 จังหวัด

...

กทม.แชมป์ตายสะสม

นายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานแถลงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 40.05 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 27.81 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 16.84 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 85.50 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 81.63 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 35.97 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 30.10 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 18.01-19.00 น. ร้อยละ 9.18 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 30-39 ปี ร้อยละ 18.52 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราชและสงขลา 19 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สงขลา 23 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (4 ราย) สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 3 วันของการรณรงค์ (11-13 เม.ย.2567) เกิดอุบัติเหตุรวม 936 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 968 คน ผู้เสียชีวิต รวม 116 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 28 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราชและสงขลา 39 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สงขลา 45 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 8 ราย

เอาผิดขายน้ำเมาให้เยาวชน

นายวิทยากล่าวว่า วันที่ 14 เม.ย.ถือเป็นวันครอบครัว ประชาชนมีการรวมตัวกันรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุและผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ทำให้มีการเดินทางบนถนนระหว่างจังหวัด อำเภอ หมู่บ้าน ชุมชน มากขึ้น รวมถึงมีการสังสรรค์ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเล่นน้ำสงกรานต์ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ศปถ.ประสานจังหวัดกำชับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจและด่านชุมชนให้กวดขันพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว การใช้อุปกรณ์นิรภัย การขับขี่ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตราย และการบรรทุกผู้โดยสารท้ายรถกระบะเล่นน้ำสงกรานต์ รวมถึงคุมเข้มการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น และห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี หากพบเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ดื่มแล้วขับจนทำให้เกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสืบสวนและขยายผลไปยังผู้ที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ตลอดจนพิจารณาใช้บทลงโทษสูงสุดตามกฎหมายกับผู้ขับขี่ที่กระความผิดซ้ำ

ภาพรวมสาดน้ำเรียบร้อยดี

ต่อมาที่ ศปก.ตร. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวถึงเทศกาลสงกรานต์ในวันแรกที่ทุกพื้นที่มีการเปิดให้เล่นน้ำว่า ภาพรวมด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วประเทศ เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ส่วนภาพรวมการติดตามสถานการณ์อุบัติเหตุและการจราจร ช่วงเทศ กาลสงกรานต์ 2567 ช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้น สามวันแรก ระหว่างวันที่ 11-13 เม.ย.สถิติการเกิดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตของเทศกาลสงกรานต์ลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะการเข้มงวดของการบังคับใช้กฎหมายและประชาชนให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมาย เพิ่มวินัยจราจร

จับเมาขับกว่า 1.1 หมื่นราย

สำหรับสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์สะสมระหว่างวัน 11-13 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุทั้งหมด 936 ครั้ง ลดลงร้อยละ 12.61 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตสะสม 116 ราย ลดลงร้อยละ 10.77 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ผู้บาดเจ็บสะสม 968 คน ลดลงร้อยละ 9.19 ส่วนการจับกุมในคดีเมาแล้วขับสะสม 3 วัน รวม 11,854 ราย สถิติสูงสุดอยู่ในภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 3 จำนวน 3,266 คน รองลงมาในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 2,651 ราย

...

กทม.แชมป์คดีเมาแล้วขับ

ด้านนายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติวันที่สามของ 7 วันอันตราย วันที่ 13 เม.ย.ว่า มีคดีทั้งสิ้น 249 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 242 คดี และคดีขับเสพ 7 คดี สถิติคดีเมาขับยอดสะสม 3 วัน ได้แก่ อันดับหนึ่ง กรุงเทพมหานคร 222 คดี อันดับ 2 จ.เชียงใหม่ 125 คดี และอันดับ 3 จ.นนทบุรี 120 คดี เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีในวันที่ 3 ของ 7 วันอันตรายปี 2566 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 1,845 คดี และปี 2567 จำนวน 242 คดี ลดลง 1,603 คดี คิดเป็นร้อยละ 86.88 สำหรับยอดสะสม 3 วันของ 7 วันอันตราย ตั้งแต่วันที่ 11-13 เม.ย. จำนวน 1,745 คดี แยกเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 1,631 คดี คิดเป็นร้อยละ 92.99 คดีขับรถประมาท 3 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.17 คดีขับเสพ 120 คดี คิดเป็นร้อยละ 6.84

ทำบุญไหว้พระก่อนสาดน้ำ

ส่วนบรรยากาศสงกรานต์ตลอดวันที่ 14 เม.ย.ที่เป็นวันครอบครัวด้วย ทำให้ตลอดช่วงเช้าตามวัดวา อารามมีพุทธศาสนิกชนเดินทางกันเป็นครอบครัวมาทำบุญใส่บาตร กราบสักการะขอพรจากพระพุทธรูปสำคัญประจำท้องถิ่นเพื่อความเป็นสิริมงคล อาทิ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ ประชาชนพาครอบครัวมากราบไหว้ขอพรพระพุทธชินราช พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลก พร้อมถวายสังฆทาน และสรงน้ำพระพุทธชินราชจำลอง รวมถึงมีการรวมตัวกันรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุและผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ก่อนที่จะไปเล่นน้ำสงกรานต์คลายร้อนที่มีการจัดพื้นที่ถนนเอกาทศรถและถนนบรมไตรโลกนารถ ให้เป็นถนนรดน้ำสองแคว เช่นเดียวกับที่ลานพญานาค องค์พญาศรีสัตตนาคราช อ.เมืองนครพนม คึกคักไปด้วยประชาชน นักท่องเที่ยว ทั้งคนไทยและชาวลาว ต่างเดินทางมากราบไหว้ขอพร ก่อนจะเข้าเล่นสาดน้ำสงกรานต์ทั้งที่ถนนข้าวปุ้น ถนนเลียบโขง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม รวมถึงตามอำเภอต่างๆ ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด อุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส

...

ทั่วประเทศยังเล่นน้ำชุ่มฉ่ำ

จากนั้นตั้งแต่บ่ายยันค่ำทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นถนนที่จัดให้เล่นสาดน้ำ อาทิ ถนนข้าวเหนียว อ.เมืองขอนแก่น ถนนข้าวตอก อ.เมืองสุโขทัย ถนนข้าวโพด อ.เมืองชัยนาท ถนนลอดช่อง อ.เมืองยโสธร ฯลฯ ยังมีนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ออกมาเล่นสาดน้ำ รวมถึงร่วมปาร์ตี้โฟมกันอย่างสนุกสนาน รวมทั้งที่ จ.เชียงใหม่ จัดให้เล่นสาดน้ำเป็นวันที่สาม นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติออกมาสาดน้ำที่บริเวณริมคูเมืองกันสุดเหวี่ยง โดยก่อนหน้านั้น สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมฉลองประเพณีสงกรานต์ที่ขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ด้วยการจัดริ้วขบวน 19 ขบวน เปิดเทศกาลสงกรานต์ล้านนาจังหวัดเชียงใหม่ ณ เวทีหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนา การฟ้อนต้อนรับ จากคณะช่างฟ้อน 400 คน ภายในงานมีลานกาดหมั้ว การจัดแสดงนิทรรศการ สาธิตวิถีชีวิตภูมิปัญญา และการแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนา การสาธิตการละเล่นบ่าเก่าล้านนา สาธิตอาหารมงคลปีใหม่เมืองล้านนา บริเวณข่วงตุงล้านนา มีกิจกรรมขนทรายก่อเจดีย์ทรายและอื่นๆอีกมากมาย ณ พุทธสถานจังหวัดเชียงใหม่

...

สาดสนุกกลางแม่น้ำเมย

ส่วนที่ท่าธรรมชาติบ้านแม่กุท่าซุง หมู่ที่ 9 ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก แนวชายแดนไทย-เมียนมา ริมแม่น้ำเมย แม่น้ำสายใหญ่ที่กั้นกลางระหว่างพรมแดนไทย-เมียนมา มีการจัดงานสงกรานต์ภายใต้สโลแกน “แม่น้ำเมยสงกรานต์สองแผ่นดิน มิตรภาพแห่งสายน้ำบ้านพี่เมืองน้อง” โดยตั้งแต่เช้า คลื่นมหาชนทั้งคนไทยและชาวเมียนมาหลายพันคนจากฝั่งชายแดนอำเภอแม่สอด และจากฝั่งชายแดนจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา เข้ามาร่วมกิจกรรมสงกรานต์สองแผ่นดินฯอย่างสนุกสนาน โดยบริเวณแนวตลิ่งริมแม่น้ำเมยฝั่งไทยมีการตั้งร้านอาหารพื้นเมือง ส่วนริมตลิ่งแม่น้ำเมยฝั่งประเทศเมียนมา สีสันไม่แพ้กัน มีตั้งซุ้มอาหารพื้นเมืองเมียนมา พร้อมตั้งเวทีตั้งเครื่องเสียงริมแม่น้ำเมย เปิดเพลงเต้นรำกันอย่างสนุกสนานแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 3 ปี หลังประเทศเมียนมาเกิดความไม่สงบภายในประเทศ และสถานการณ์ความตึงเครียดได้ผ่อนคลายลงในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ส่วนที่จุดกึ่งกลางแม่น้ำเมย คนไทยและคนเมียนมาที่ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวต่างสวมใส่เสื้อผ้าลายดอกสีสันสดใสพาคนในครอบครัวมาร้องรำทำเพลงและลงเล่นสาดน้ำใส่กันอย่างมีความสุข

พัทยาสาดน้ำยาวถึงวันไหล

ที่ถนนวอล์กกิ้งสตรีท เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่พากันถือปืนฉีดน้ำหลั่งไหลเข้ามารวมตัวกันเล่นน้ำตลอดทั้งคืนวันที่ 13 เม.ย. ที่มีการเปิดเทศกาลสงกรานต์ 2567 เป็นวันแรก โดยสถานประกอบการสถานบันเทิงในเขตโซนเมืองพัทยา อาทิ ซอยบัวขาว ซอย 6-8 ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา และถนนคนเดินวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จะมีนักท่องเที่ยวออกมาเล่นน้ำกันตลอดทั้งวัน ทำให้เมืองพัทยาดูครึกครื้นอย่างเห็นได้ชัด นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ เมืองพัทยาจะมีการเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันอย่างจริงจังในช่วงเทศกาลวันไหล แบ่งเป็น 2 ช่วง คือในวันที่ 18 เม.ย. เป็นวันไหลนาเกลือ ส่วนวันที่ 19 เม.ย.เป็นวันไหลของเมืองพัทยา ซึ่งจะมีคนออกมาเล่นน้ำกันทั่วทั้งเมือง

LGBTQ+สร้างสีสันสีลม

สำหรับการเล่นสาดน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ในจุดหลักคือถนนสีลมและถนนข้าวสารนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการปิดถนนสีลมตั้งแต่เวลา 12.00 น.ตามกำหนด เพื่อให้มีการเล่นน้ำสงกรานต์เป็นวันสุดท้าย โดยมีกลุ่มชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเริ่มทยอยเข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์ จากนั้นมีขบวนพาเหรดของกลุ่ม LGBTQ+ ที่เดินขบวนพาเหรดสนับสนุนสมรสเท่าเทียม พร้อมกับมีการเปิดเพลงเต้นรำตามจังหวะดนตรีกันอย่างสนุกสนาน มีการแต่งกายสร้างสีสันแนวแฟนตาซี ทั้งกุมารทอง แม่มด สัตว์นานาชนิด ต่างร่วมเล่นน้ำร่วมกับนักท่องเที่ยวอย่างสนุกสุดเหวี่ยง ซึ่งหลังปิดถนนสีลมทั้ง 2 ฝั่งตั้งแต่ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ไปจนถึงถนนพระราม 4 ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร และมีการตั้งเวทีให้ศิลปินชื่อดังมาให้ความบันเทิงกันอย่างต่อเนื่อง ก็มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาเล่นน้ำในพื้นที่นับหมื่นคนจนแน่นขนัด ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ยานนาวา สน.บางรัก และเจ้าหน้าที่เขตบางรัก

สุดเหวี่ยงจัดที่ถนนข้าวสาร

ขณะที่บรรยากาศในถนนข้าวสาร นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติยังคงปักหมุดเข้าร่วมในแลนด์มาร์กสำคัญของงานสงกรานต์ไทย สำหรับในวันที่ 2 ของการจัดงาน วันที่ 14 เม.ย.ช่วงเย็น-ค่ำ ทั้งถนนข้าวสารและพื้นที่รอบนอกเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวจนเต็มทุกพื้นที่ ท่ามกลางเสียงเพลงในจังหวะเร้าใจที่ทุกร้านรวงเปิดแข่งกันอย่างกระหึ่ม และแม้เจ้าหน้าที่พยายามป่าวประกาศประชาสัมพันธ์ห้ามเล่นแป้ง แต่ยังมีการประแป้งกันอย่างเสรีบริเวณรอบๆถนนข้าวสาร ส่วนข้อห้ามแต่งกายโป๊เปลือยก็เช่นกัน เพราะหญิงสาววัยรุ่นส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อสายเดี่ยวรัดรูปเข้ามาเล่นสาดน้ำ เมื่อเปียกน้ำก็โชว์ร่างกายทุกสัดส่วน โดยเฉพาะชาวต่างชาติบางรายถึงกับสวมชุดบิกินีทูพีซมาเล่นน้ำ โยกย้ายส่ายสะโพกตามเสียงเพลงเร้าใจแบบสุดเหวี่ยง

คน ตจว.ทยอยกลับกรุง

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังผ่านช่วงหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์มาได้หลายวัน ทำให้ในช่วงค่ำของวันที่ 14 เม.ย.ผู้คนที่ออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอีสาน เริ่มเก็บข้าวของสัมภาระทยอยกลับเข้ากรุง เพื่อหนีสภาพการจราจรที่คาดว่าจะติดขัดอย่างหนักหลังจากนี้ ส่งผลให้ถนนมิตรภาพ จาก ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ขาเข้ามาถึง อ.มวกเหล็ก อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เริ่มมีปริมาณยวดยานเพิ่มขึ้น แต่ยังสามารถใช้ความเร็วได้ดี ถึงแม้ว่าในพื้นที่ดังกล่าวจะเป็นทางลงเนินเขากลางดง เนินเขาจัน เนินเขาวัดซับบอน ทั้ง 3 ลูกก็ตาม ขณะเดียวกัน เมื่อรถวิ่งเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนพหลโยธินเพื่อมุ่งหน้าเข้าเส้นทาง อ.หนองแค จ.สระบุรี อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา สภาพการจราจรมีชะลอตัวเป็นบางช่วง

สนามหลวงยังคึกคัก

ส่วนงาน Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 ที่จัดต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 3 บริเวณท้องสนามหลวง ยังคงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทุกเพศ ทุกวัยเดินทางเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก โดยเฉพาะกลุ่มที่มาแบบครอบครัวและกลุ่มวัยรุ่นที่เสร็จจากการเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนข้าวสารจนเนื้อตัวเปียกปอน มาร่วมสัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแบบงานสงกรานต์ไทยๆ ที่มีการแสดงทางวัฒนธรรมจากสงกรานต์สู่ชุดไทยและมวยไทยไปยูเนสโก การแสดงหุ่นศิลป์ทักษิณ (ภาคใต้) นาฏศิลป์หุ่นคนและหุ่นละครเล็ก ฯลฯ รวมถึงการแสดงดนตรีจากศิลปินชั้นนำของประเทศ และการออกร้านจำหน่ายข้าวของต่างๆ

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่