“ศาลไทยในอดีต” (สร้างสรรค์บุ๊คส์ พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ.2551) หนึ่งใน 100 เล่ม หนังสือดีที่คนไทยควรอ่านของ สกว.ครับ...ชื่อเรื่อง นายสังข์มหาดเล็ก และลีลา คุณประยุทธ สิทธิพันธ์ เล่าไว้เรียบๆ แต่เมื่ออ่านเข้าเนื้อหา โลดโผนน่าสนใจมาก

สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมื่อสมเด็จพระเจ้าบรมโกศเสด็จสวรรคต เจ้าอุทุมพรโอรสพระองค์น้อย ซึ่งเป็นพระมหาอุปราช ได้รับรัชทายาท

แต่เสด็จขึ้นครองราชสมบัติอยู่เพียง 3 เดือนเท่านั้น ก็ถวายราชสมบัติแก่เจ้าฟ้าเอกทัศน์ผู้เป็นพระเชษฐา ส่วนพระองค์ก็เสด็จออกทรงผนวช

พระเจ้าเอกทัศน์ จึงได้ขึ้นครองแผ่นดินแต่ปีขาล พ.ศ.2301

ในหนังสือพงศาวดารฉบับหนึ่งกล่าวว่า เมื่อในรัชกาลพระเจ้าเอกทัศน์นั้น นายสังข์มหาดเล็ก ซึ่งเป็นชาวบ้านคูจานรับผูกภาษีผักบุ้งนั้น

นายสังข์จะได้รับอนุญาตอย่างไร หาปรากฏในหนังสือไม่

ในหนังสือได้กล่าวแต่เพียงว่า นายสังข์มีความกำเริบเสิบสาน ด้วยถือตัวว่าเป็นพี่เจ้าจอมฟักพระสนมเอก และน้องสาวอีกคนหนึ่ง ก็ได้เป็นพระสนม

จึงบังอาจตั้งข้อบังคับว่า ใครเก็บผักผุ้งขาย ต้องเอามาขายแก่เจ้าภาษีแต่ผู้เดียว ถ้าไปขายให้ผู้อื่นจะต้องปรับเงิน 20 บาท

นายสังข์ตั้งหน้าตั้งตากดราคาซื้อผักบุ้งราษฎรในราคาถูก แล้วขายขึ้นราคาตามความพอใจของท้องตลาด

ราษฎรที่เคยซื้อและขายผักบุ้งมาแต่ก่อน ต่างได้รับความเดือดร้อนเป็นอันมาก

มีผู้คนไปร้องทุกข์ต่อข้าราชการผู้ใหญ่ ก็ไม่มีใครนำขึ้นกราบทูล เพราะเกรงอิทธิพลของพี่ชายพระสนมเอก

ทั้งนายสังข์อ้างว่าตนทำภาษีเก็บเงินเข้าพระคลังหลวง

ครั้นอยู่มาวันหนึ่ง สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ทรงไม่สบายพระทัย บรรทมไม่หลับสนิทมาหลายราตรี จึงมีรับสั่งให้หาละครเข้าไปเล่น จะทอดพระเนตรแก้รำคาญพระราชหฤทัย

...

ครั้งนั้น นายแทน กับนายมี แสดงเป็นตัวจำอวดละครเข้าไปเล่น เป็นตัวผู้ชายคนหนึ่ง เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง

ในเรื่องแสดงว่า จะเร่งเอาเงินค่าผูกคอ นายมีแสดงเป็นจำอวดหญิงจึงว่า

“จะเอาเงินทองมาแต่ไหนกันพ่อคุณ จนจะตายอยู่แล้ว แม้แต่เก็บผักบุ้งขายก็ยังมีภาษี”

แสร้งว่าอย่างนี้ หลายครั้งหลายครา จนสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ทรงฟังหลากพระทัย จึงโปรดให้ถามจำอวด “การเมือง” ทั้งสองคนดู

ครั้นทรงทราบที่เป็นมา ก็ทรงพระพิโรธนายสังข์มาก จึงรับสั่งให้เสนาบดีชำระ เร่งเงินคืนให้แก่ราษฎรลงไป

ส่วนตัวนายสังข์พี่เขยนั้น เดิมมีรับสั่งให้เอาไปประหารชีวิตเสีย

ต่อมาคลายพระพิโรธลง หรือจะแรงลมปากของพระสนมเอก ก็อาจเป็นได้ จึงโปรดให้งดโทษประหารชีวิตไว้

จบเรื่องนายสังข์มหาดเล็ก สำนวน คุณประยุทธ สิทธิพันธ์ แค่นี้...ทิ้งประเด็นให้คนอ่านช่วยกันคิดต่อ...

สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ทรงถูกตราว่าเป็นกษัตริย์ต้นเหตุของการเสียกรุงให้พม่า ไม่ว่ามีเรื่องอะไร ก็ไม่ดีไปเสียหมด...อย่างน้อย ท่านก็ยังพอมีแง่มุมดีๆ อย่างเช่น ท่านก็เป็นเจ้าชีวิตที่รู้ดีรู้ชั่ว ไว้ให้พวกเราคุยกันบ้าง

ส่วนเรื่องภาษีผักบุ้งสมัยเสียกรุง ก็เป็นเรื่องเล่าให้นึกถึงสมัยเรา ไม่ว่าเกิดสมัยไหน ก็จนแสนจน...เหมือนๆกัน

จะดีกว่า ก็ตรงผู้นำสมัยใหม่...ท่านขยันทำมาค้าขาย ทั้งไม่วุ่นเว้อเรื่องผู้หญิง คนไทยเขารู้กัน ท่านรักเดียวใจเดียว.

กิเลน ประลองเชิง

คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม