ศาลอาญาออกหมายจับนายตำรวจคนดัง “บิ๊กโจ๊ก-สุรเชษฐ์ หักพาล” รอง ผบ.ตร. หลังพิจารณาอย่างละเอียดมีรอง ผบช.น.เข้ารายงานผลการสืบสวนถึง 3 รอบ เชื่อได้ว่าเส้นทางการเงินพัวพันเว็บ BNK Master ประกอบกับมีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงหมายเรียกของพนักงานสอบสวน ขณะที่เจ้าตัวพอทราบรีบเดินทางเข้ามอบตัวที่ สน.เตาปูนทันที เพื่อยืนยันในความบริสุทธิ์ มีทีมงานตามมาให้กำลังใจ ถูกสอบร่วม 2 ชั่วโมง ก่อนประกันตัวเองโดยใช้เงินสด 1 แสนบาท

ศาลออกหมายจับ “บิ๊กโจ๊ก” หลังเส้นทางการเงินพัวพันเว็บพนัน BNK Master เปิดเผยที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 เม.ย.พนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เดินทางมายื่นคำร้องขอศาลออกหมายจับบิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิด ฐานฟอกเงินและ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงินตามที่สมคบกันตาม ม.5 ม.9 และ ม.10 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

ทั้งนี้ในคำร้องขอออกหมายจับระบุว่า จากการสืบสวนสอบสวนเส้นทางการเงินที่เชื่อมจากคดีที่ สน.เตาปูน ได้เคยขออนุมัติหมายจับในคดีเว็บการพนัน ที่ 4543-4547/2566 ของศาลอาญาไว้แล้ว ต่อมาจับกุมตัวผู้ต้องหาบางคนได้รวมทั้ง น.ส.พิมพ์วิไล หรือแหม่ม เป็นผู้บริหารจัดการเว็บ BNK Master ก่อนหน้านี้มีการยื่นขอออกหมายจับไปเมื่อวันที่ 12 มี.ค.67 ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 4 คน เเบ่งเป็นตำรวจ 3 นาย เเละพลเรือน 1 คน ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ศาลให้ออกหมายเรียก จนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทั้งหมด 3 ครั้ง เเต่ยังไม่สามารถส่งหมายเรียกได้ตามกฎหมายประกอบ กับมีพฤติการณ์หลบเลี่ยง พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ จึงนำหลักฐานเดินทางมาขอศาลออกหมายจับครั้งนี้

...

มีรายงานว่า ก่อนหน้าที่จะยื่นขอศาลออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยื่นหนังสือถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ขอชี้เเจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมหากมีการยื่นคำร้องขอออกหมายจับ มีใจความโดยสรุปว่า จากกรณี พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ อดีตรอง ผกก.สส.สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ทำหนังสือขอความเป็นธรรมต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ช่วยรับคดีอาญาที่ 391/2566 ของ สน.เตาปูน เป็นคดีพิเศษตาม พ.ร.บ.สืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวข้องกับเว็บพนันและมีเงินหมุนเวียนเกิน 300 ล้านบาท

ถือเป็นอำนาจการสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ อีกทั้งยังเป็นการดำเนินคดีอาญาซ้ำกับคดีอาญาที่ 724/ 2566 ที่ถูกดำเนินคดีไปแล้วและเชื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการดำเนินคดีของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนและกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับไว้ดำเนินการเป็นเรื่องสืบสวนที่ 37/2567 มีกองคดีการฟอกเงินทางอาญารับผิดชอบ ทั้งนี้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาได้รับคำชี้เเจงดังกล่าวไว้พิจารณา

ต่อมาเวลา 14.30 น. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น.เดินทางมายังศาลอาญา ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เเต่ยังไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ มีรายงานว่าคณะผู้พิพากษาศาลอาญาเรียก พล.ต.ต.ทินกร เข้ารายงานผลการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดถึง 3 รอบ ก่อนพิจารณาออกหมายจับนายตำรวจคนดัง

กระทั่งเวลา 16.00 น. ศาลอนุมัติหมายจับเลขที่ 1396/2567 ลงวันที่ 2 เม.ย.67 ข้อหาสมคบฟอกเงินฯ ร่วมกันฟอกเงิน โดยศาลให้เหตุผลว่า คดีมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าเป็นความผิด ตาม ป.วิ อาญา ม.66 ผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงหมายเรียกของพนักงานสอบสวนและคดีนี้เป็นอำนาจของศาลอาญา จากนั้นพนักงานสอบสวนรับหมายจับไปปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไป ขณะที่ความคืบหน้าด้านการเคลื่อนไหวของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ที่ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับครั้งนี้ มีรายงานว่าเจ้าตัวต้องเดินทางไปเป็นประธานงานกล่าวถวายพระพร ที่สมาคมชาวปักษ์ใต้ ฝั่งธนฯ แต่ได้ยกเลิกภารกิจอย่างกะทันหัน นอกจากนี้เจ้าตัวปิดโทรศัพท์มือถือไม่สามารถติดต่อได้

จากนั้นเวลา 16.40 น. พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี รอง ผกก. (สอบสวน) สน.สายไหม ในฐานะคณะพนักงานสอบสวนคดีเว็บพนัน BNK Master เดินลงมาจากศาล ก่อนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่มาดักรอว่า ศาลอาญาออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์จริง นับตั้งแต่เวลานี้หมายจับจะมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย หากพบตัว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เมื่อใดที่ไหนสามารถจับกุมได้ทันที ส่วนรายละเอียดทั้งหมดต้องให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงเป็นผู้เปิดเผย

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ถูกออกหมายจับว่า เรื่องนี้ผู้เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามกฎหมาย เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนทำเรื่องเสนอไปยังศาล ทั้งหมดเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการ ส่วนกรณีที่ทนายของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุได้ส่งพยานหลักฐานมาให้รักษาการ ผบ.ตร.แล้วนั้น เป็นเรื่องที่ร้องเรียนเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ฝ่ายกฎหมายอยู่ระหว่างพิจารณา

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจจะพิจารณาคดีนี้เองหรือส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง ชาติ (ป.ป.ช.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐตอบว่า ประเด็นดังกล่าวขอให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ดูในรายละเอียดข้อเท็จจริงทางกฎหมายและเสนอกลับมาให้พิจารณา ขณะนี้อำนาจหน้าที่อยู่ที่พนักงานสืบสวนสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจ นครบาล (บช.น.) ขอเวลาดำเนินการไปตามกระบวนการ แต่หากคดีเป็นอำนาจของ ป.ป.ช. พนักงานสอบสวนมีเวลาส่งสำนวนทั้งหมด 30 วัน เชื่อว่าทันอยู่แล้ว

ที่ สน.เตาปูน เวลา 17.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่เพิ่งถูกออกหมายจับไม่ถึง 2 ชั่วโมงเดินทางมาด้วยรถโตโยต้าอัลพาร์ด ทะเบียน งค 51 สงขลา มาจอดอยู่ที่หน้า สน.เตาปูน เมื่อพบผู้สื่อข่าวทีมตำรวจติดตามได้เคลื่อนรถไปจอดด้านหลัง สน.เตาปูน พร้อมขอความร่วมมืองดบันทึกภาพ คาดว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่ระหว่างพบพนักงานสอบสวนอยู่บริเวณชั้น 1 ของอาคาร สน.เตาปูน มีนายตำรวจประมาณเกือบ 10 คน ยืนวางกำลังดูความเรียบร้อยบริเวณรอบห้องพนักงานสอบสวนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพแต่อย่างใด จากนั้นไม่นาน พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ อดีต ผบก.ศฝร.บช.น. พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย อดีตรอง ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ นายตำรวจใกล้ชิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาสมทบทั้งหมดมีสีหน้าเคร่งเครียดไม่ตอบคำถามใดๆกับสื่อมวลชน คาด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่ในขั้นตอนการเข้ามอบตัว

...

วันเดียวกัน ทนายตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เดินทางเข้าเเจ้งความดำเนินคดีต่อเพจเฟซบุ๊กชื่อ “พระจันทร์ลายกระต่าย v2 และ v3” ในความผิดนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยการปลอมแปลง ทนายตั้ม เปิดเผยว่า นำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเพจพระจันทร์ลายกระต่าย v2 และ v3 หลังเอาคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นของ 1 ในบัญชีม้าชื่อนายณัฐพงศ์ นาโสม มากล่าวหาว่าตนนำนายณัฐพงศ์ไปเก็บซ่อนตัวอยู่ที่เซฟเฮาส์ ถือเป็นการพาดพิงทำให้ตนเสียหาย ต้องมาแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้

ต่อมาเวลา 20.00 น. ภายหลังชุดพนักงานสอบสวนคดีเว็บพนัน BNK Master สอบปากคำ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. นานเกือบ 2 ชั่วโมง เจ้าตัวได้ใช้เงินสด 1 แสนบาท ประกันตัวก่อนเดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของอาคาร สน.เตาปูน เจ้าตัวเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ขอพูดรายละเอียด ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้วได้ประกันตัวตามปกติ คดีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการกล่าวหาตามหลักกระบวนการยุติธรรมไทย ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษา ตนยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ก่อนหน้านี้ถูกออกหมายเรียกมาหลายครั้ง วันนี้ถูกศาลออกหมายจับก็ต้องยอมรับและต่อสู้ตามกระบวนการ ส่วนเรื่องพิมพ์ลายนิ้วมือก็ยืนยันว่าทำตามขั้นตอนปกติ ไม่ได้ปฏิเสธการพิมพ์ลายนิ้วมือรวมทั้งไม่มีความกังวลว่าเรื่องนี้จะกระทบต่อตำแหน่งแต่อย่างใด

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้จะต้องรายงานนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ตามกระบวนการแล้วต้องรายงานตามขั้นตอน แต่ยังไม่ระบุว่าวันไหน จะแจ้งให้ทราบอีกที เมื่อถามว่าการออกหมายจับครั้งนี้เชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ เจ้าตัวระบุว่า ไม่ขอตอบตรงนี้ ขอให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมและได้ใช้สิทธิประกันตัวออกมา รายละเอียดทั้งหมดอยู่ในสำนวนไม่ขอเปิดเผย

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่