วันนี้เราย่างเข้าสู่เดือนเมษายน ซึ่งเป็นเดือนที่อาจจะร้อนที่สุด แต่ก็สนุกที่สุดของแต่ละปี...มาได้ 2 วันแล้วนะครับ และก็คงได้เวลาที่จะต้องเขียนถึงเทศกาลสงกรานต์ที่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนร่วมกันจัดขึ้น และเริ่มแถลงข่าวออกมาบ้างแล้ว เพื่อเตรียมตัวล่วงหน้าไว้

ผมขอเริ่มจากงานของภาคเอกชนงานหนึ่งเสียก่อน เพราะเป็นงานที่ผมติดตามและให้กำลังใจมาหลายปีแล้ว รวมทั้งปีนี้ด้วยก็เป็น 9 ปี พอดิบพอดี

เขามิได้ใช้คำว่า “งานสงกรานต์” โดยตรงแบบงานทั่วไป แต่ใช้คำว่า “Water Festival เทศกาลวิถีนํ้า วิถีไทย” เป็นของปีไหนก็ใส่ตัวเลขของปีนั้นๆกำกับไว้

อย่างเช่น ปีนี้พุทธศักราช 2567 และเป็นปีสากลหรือปีคริสต์ศักราชที่ 2024 เขาก็จะใช้คำว่า “เทศกาลวิถีนํ้า วิถีไทย 2567” ในภาษาไทย และ “Water Festival 2024” ในภาษาอังกฤษควบคู่กันไป

โดยในแต่ละปีคนไทยจะมีงานเกี่ยวกับนํ้า 2 ครั้ง และใช้ “นํ้า” เป็นสื่อกลางที่ไม่เหมือนกัน ในทั้ง 2 เทศกาลที่ว่า

งานแรกช่วง สงกรานต์ ที่จะเริ่มขึ้นในกลางเดือนเมษายน คนไทยจะใช้ “นํ้า” เพื่อ “สรง” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือพระภิกษุที่คนไทยเคารพ ไปพร้อมๆกับการ “ดำหัว” ผู้หลักผู้ใหญ่ และการ “สาด” สู่กันและกันเพื่อส่งมอบความเย็นและความสุขให้แก่กันในเทศกาลฉลองปีใหม่แบบไทยๆ

แต่ในช่วงใกล้ๆปลายปี วันเพ็ญเดือนสิบสอง นับตามปฏิทินไทยซึ่งมักจะอยู่ปลายๆพฤศจิกายนเป็นส่วนใหญ่ คนไทยก็จะจัดเทศกาลวิถีนํ้าขึ้นอีกครั้ง

คราวนี้ไม่สรง ไม่รด ไม่สาด แต่จะเดินไปสู่ริมแม่นํ้าหรือไม่ก็นั่งเรือลอยไปตามลำนํ้าเพื่อ “ลอยกระทง” ขอบพระคุณแม่นํ้าทุกสายที่ให้คนไทยได้ใช้ดื่ม ใช้กิน ใช้ทำการเกษตรต่างๆ

...

ขณะเดียวกันก็เพื่อขอขมาลาโทษต่อแม่คงคา ในกรณีที่บางครั้งบางหนเราอาจล่วงเกินท่าน นำความสกปรกทิ้งขยะมูลฝอยใส่ท่านโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เข้าบ้าง

ครับ! เทศกาลวิถีนํ้า วิถีไทย ที่มีรายละเอียดพิธีกรรม และการเฉลิมฉลองต่างกันไป ปีละ 2 เทศกาลที่ว่านี้จะมีภาคเอกชนอยู่บริษัทหนึ่งออกมาเป็นผู้สนับสนุนหลัก ร่วมกับภาคราชการอีกหลายๆหน่วย จัดงานขึ้น จนเป็นที่รับรู้และรอคอยของพี่น้องชาวไทยในพื้นที่ที่มีการจัดงานมาโดยตลอด

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจฯ เจ้าเก่านั่นแหละครับ ซึ่งในปีนี้ก็ได้ดำเนินการร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม กองทัพเรือ และกรุงเทพมหานครอีกเช่นเคย ภายใต้แนวคิด “เย็นฉ่ำชื่นใจ” ในเทศกาลสงกรานต์ที่จะจัดขึ้นระหว่าง 13-15 เมษายนนี้

ในส่วนกลางหรือใน กทม.นั้นจะจัดขึ้น ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ, วัดอรุณราชวราราม, วัดกัลยาณมิตร, วัดระฆังโฆสิตาราม, วัดประยุรวงศาวาส, เอเชียทีค, ท่ามหาราช, ท่ายอดพิมาน, ท่าสุขสยาม (ไอคอนสยาม), ท่าศาลเจ้ากวนอู และ คลองโอ่งอ่าง ซึ่งจัดเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ

ณ วัดและท่าเรือดั้งเดิมที่เคยจัด นอกจากจะมีกิจกรรมที่เกี่ยวกับสงกรานต์ในแต่ละวัดหรือแต่ละสถานที่แล้ว จะมี เรือด่วน บริการฟรีจากท่าถึงท่าเหมือนเช่นเคย

ส่วนที่ คลองโอ่งอ่าง จะมีกิจกรรมพิเศษต่างๆ รวมทั้งเรื่องเล่าเกี่ยวกับความเป็นมาของคลองนี้ นับตั้งแต่รัชสมัยรัชกาลที่ 1 มาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน

ขณะเดียวกันที่ต่างจังหวัดนั้น ภาคเหนือจะจัดที่เชียงใหม่ และลำพูน ภาคใต้ที่จังหวัดภูเก็ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อุดรธานี และขอนแก่น ซึ่งจะมีอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันไป

นี่คือ 1 ในงานเฉลิมฉลองสงกรานต์ 2567 หรือ Water Festival 2024 จากภาคเอกชนที่เห็นความสำคัญของความเป็นไทย ประกาศตนเป็นผู้สนับสนุนมาโดยตลอด...ส่วนงานอื่นๆโดยเฉพาะของภาครัฐ ซึ่งก็จะจัดยิ่งใหญ่เช่นกัน ค่อยทยอยเขียนถึงเป็นระยะๆไปก็แล้วกัน

สนุกแน่สงกรานต์ปีนี้ อย่างที่รัฐบาลท่านโหมโรงเอาไว้แหละครับ.

“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม