"สมศักดิ์" ปิ๊งไอเดียขอให้หน่วยปราบทุจริต ทบทวนการประมูลงานใหม่ แนะให้แข่งกันด้วยเวลาสร้าง ไม่ต้องแข่งด้วยเงิน ป้องกันเรียกรับสินบน หวังช่วยเพิ่มคะแนน CPI ให้ดีขึ้น ชี้การแก้ปัญหาต้องคิดนอกกรอบ เพราะกรอบที่มีคือกับดัก
เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 67 ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเกี่ยวกับมาตรการในการแก้ไขปัญหาการทุจริตแบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมี นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และผู้แทนกระทรวงต่างๆ เข้าร่วมประชุม
โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. จึงขอเน้นย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริต โดยเฉพาะการยกระดับดัชนีรับรู้การทุจริต CPI (Corruption Perceptions Index) ซึ่งประเมินโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International-TI) เช่น เวิลด์ จัสติส โปรเจกต์ และ เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม โดยประเทศไทยในปี 2566 ได้คะแนนรวมลดลงจากปี 65 จำนวน 1 คะแนน จาก 36 คะแนน เป็น 35 คะแนน และมีอันดับลดลงจากอันดับที่ 101 ในปี 2565 เป็น 108 ในปี 2566 จาก 180 ประเทศ ทำให้การประชุมวันนี้ จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการ ในการแก้ไขปัญหาการทุจริตแบบบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ 2568
"มาตรการฯ ฉบับนี้ คือ กรอบการดำเนินงานของหน่วยงานที่มีสาระสำคัญ คือ การให้ความสำคัญกับการผลักดันการแก้ไขปัญหาทุจริตเรื่องสินบนอย่างจริงจัง พร้อมการพัฒนาคนและระบบความร่วมมือเพื่อต่อต้านการทุจริต ได้แก่ สอนเด็กเยาวชนเรื่องการต่อต้านการทุจริต พัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเบาะแส เครื่องมือการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในภาครัฐ เน้นการออกมาตรการและข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต เน้นการดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม โดยการแก้ไขปัญหาการทุจริตและการยกระดับค่าคะแนน CPI ไม่สามารถดำเนินการให้สำเร็จได้ด้วยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง จึงจำเป็นต้องบูรณาการร่วมกัน และที่สำคัญเพื่อให้การขับเคลื่อนเป็นไปอย่างมีเอกภาพ จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันหารือ และพูดคุยหาข้อสรุปร่วมกันในวันนี้" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
...
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้อธิบายคะแนน CPI โดยมาจากการสำรวจข้อมูล 9 แหล่งข้อมูล ซึ่งที่ประเทศไทยมีคะแนนต่ำ คือ ประเด็นเรียกรับสินบน และเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจหน้าที่ไม่ถูกต้อง ตนจึงเสนอให้มีการทบทวนวิธีการประมูลแบบใหม่ โดยไม่ต้องต่อสู้ด้วยราคา จะได้ไม่ต้องมีการเรียกรับสินบน แต่ให้ต่อสู้กันด้วยระยะเวลา หากใครทำได้น้อยกว่าก็ให้ชนะการประมูลงาน ซึ่งตนมองว่าหากปรับเปลี่ยนวิธีประมูลใหม่ ไม่มีการใช้เงินก็มั่นใจว่า คะแนน CPI จะดีขึ้นอย่างแน่นอน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำข้อเสนอของตนไปทบทวน พร้อมแนะนำขอให้คิดนอกกรอบ เพราะกรอบที่มีต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งคือกับดักด้วย