“บิ๊กโจ๊ก” ยันบริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวเว็บพนัน มั่นใจกระบวนการยุติธรรม ปัดตอบถูกกลั่นแกล้งสกัดเส้นทาง “พิทักษ์ 1” โยนทนายความอธิบาย ขอลุยเดินหน้าทำงาน ขณะเดียวกันส่งทีมทนายยื่นฟ้อง “หลวงตาเต่า” รอง ผบช.ก. หมิ่นประมาทให้ความเห็นในสำนวนคดีผ่านสื่อ พร้อมเตรียมแถลงเส้นทางการเงินเพื่อความเป็นธรรมของ “รองโจ๊ก” เป็นสิ่งที่ประชาชนควรรับทราบ บอกได้เลยสะเทือนแน่ ส่วนคดีเว็บพนัน BNK 2 ตำรวจชั้นประทวนลูกน้องบิ๊กโจ๊กโร่มอบตัวหลังศาลออกหมายจับปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ด้าน “บิ๊กเจ้า” ผบช.น. ทำหนังสือถึง “บิ๊กต่อ” ผบ.ตร. ขอ พล.ต.อ. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน จะได้สมน้ำสมเนื้อสอบปากคำนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่

กรณีข่าวสะเทือนยุทธจักรสีกากี เมื่อ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. เดินทางมาศาลอาญา เมื่อวันที่ 12 มี.ค.67 ขอศาลอาญาออกหมายจับ 3 ตำรวจ 1 พลเรือน ประกอบด้วย พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รอง ผบก.ภ.จ.สงขลา หมายจับที่ 1063/2567 ข้อหา “สมคบฯ ฟอกเงิน, เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน” ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว หมายจับศาลอาญาที่ 1064/2567 ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร หมายจับที่ 1065/2567 และนายณพรรษกร แหเกิด หรืออู๊ด หาดใหญ่ หมายจับที่ 1066/2567 ลง 12 มี.ค.67 ข้อหา “สมคบฯ ฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงิน” เป็นผู้ต้องหาพัวพันเว็บพนัน BNK Master และ 1 หมายเรียกนายพลคนดัง แต่ตกเย็นวันเดียวกันทนายความ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ออกมาแถลง ศาลยังไม่ออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อีกทั้งอำนาจสอบสวนคดีนี้เป็นของ ป.ป.ช.แล้ว ก่อนที่กลางดึกวันที่ 12 มี.ค. ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว และ ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร ผบ.หมู่งานสายตรวจ 1 กก. 1 บก.จร. 2 ลูกน้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.คชภพ บุญอินทร์ สว.(สอบสวน) สน.เตาปูน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและได้รับการประกันตัวชั่วคราวใช้เงินสดเป็นหลักทรัพย์คนละ 1 แสนบาท

...

ความคืบหน้าในคดีที่ตำรวจลูกน้องใกล้ชิดรอง ผบ.ตร. ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 มี.ค. ที่ สน.เตาปูน พ.ต.อ.สุรเดช ฉัตรไทย ผกก.สน.เตาปูน เผยว่ามี 2 ผู้ต้องหาเข้ามามอบตัวเมื่อคืนนี้ คือ ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว และ ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร ทั้งคู่ให้การปฏิเสธ ข้อหา “สมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน” ก่อนปล่อยตัวไปในชั้นพนักงานสอบสวน หลักทรัพย์คนละ 100,000 บาท ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 ราย คือ พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รอง ผบก.ภ.จ.สงขลา และนายณพรรษกร แหเกิด หรืออู๊ด หาดใหญ่ ยังไม่ได้ประสานเข้ามามอบตัว สำหรับคดีเว็บพนันออนไลน์ “BNKMaster” พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับบัญชีม้าที่ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ลูกน้องคนสนิทของบิ๊กโจ๊ก เป็นคนถืออยู่ พบเงินหมุนเวียนประมาณ 15 ล้านบาท แต่เป็นคนละสำนวนกับคดีเว็บพนันออนไลน์มินนี่ ที่มีผู้ต้องหาเป็นคนเดียวกัน

กระทั่งเวลา 13.00 น. ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว และ ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร 2 ผู้ต้องหาลูกน้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ชุดคดีเว็บพนันออนไลน์ โดย ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า วันนี้ที่มาเพราะต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหายืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันทั้ง 2 เว็บที่ถูกออกหมาย ไม่ได้รู้สึกเครียดเพราะไม่ได้ทำผิด สำหรับอาการป่วยในตอนนี้ต้องไปหาหมอทุกวัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาแม้จะมีเรื่องนี้เข้ามา เกี่ยวข้อง นายยังดูแลทุกอย่าง เมื่อถามว่า การมีชื่อเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะทำให้นายเดือดร้อนหรือไม่ ส.ต.อ.ณัฐวุฒิกล่าวว่า “ไม่กลัว” ขณะที่ ส.ต.อ.ณัฐนันท์กล่าวเพียงสั้นๆว่า ไม่เครียดและปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร และนายณพรรษกร แหเกิด อีกสองคนที่ถูกออกหมายจับ จะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ในเวลา 17.00 น.

วันเดียวกันเวลา 14.00 น. ระหว่างที่สื่อมวลชนกำลังรอ 2 ผู้ต้องหาลูกน้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์สอบปากคำอยู่ทางเดินชั้น 3 ห่างจากห้องสอบปากคำ ราว 10 เมตร มีตำรวจ สน.เตาปูน ใช้เครื่องขยายเสียงควบคุมฝูงชนประกาศแจ้งสื่อมวลชน “ขอคืนพื้นที่ชั้น 3 ให้ตำรวจทำงานและได้ปฏิบัติหน้าที่ในการสอบสวน ให้ไปรอทำข่าวที่ชั้น 1 เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวคับแคบ ร้อน และชั้น 1 เป็นห้องแอร์” ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินกระชับพื้นที่ให้สื่อมวลชนลงข้างล่าง จากนั้นได้นำกรวยมาตั้งบริเวณชั้นบันได ชั้น 1 และปิดประตูเหล็กชั้น 3 ทันที ส่วนบริเวณชั้น 2 กับชั้น 3 ตำรวจ ได้นำเอา Police line มากั้นทางขึ้นลงเอาไว้ ก่อนที่จะติดป้าย “พื้นที่สอบสวน ผู้ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้า”

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เผยถึงกรณีนี้ว่า มอบหมายทีมทนายความแถลงข่าวไปแล้ว เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมเพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ศาลได้เพิกถอนหมายจับ และไม่ได้ออกหมายเรียกใดๆ กระบวนการยุติธรรมต่างๆกำลังทำงานอยู่ ขอยืนยันเชื่อมั่นและจะไม่ก้าวก่ายหรือเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม การทำงานของตนยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ขอเอาเวลามาคิดมาทำงานเพื่อตำรวจเพื่อองค์กรเพื่อพี่น้องประชาชนดีกว่า และยืนยันชัดเจนว่าการทำงานของตนไม่เกี่ยวข้องพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์

...

รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีคำสั่ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ให้ทุกฝ่ายยุติการให้ข่าวเพื่อไม่ให้เป็นการโต้แย้งกันภายในองค์กร เมื่อฝ่ายหนึ่งยุติในเรื่องคดีแล้วนั้น ยืนยันไม่กังวล เพราะเชื่อมั่นและศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม และ ป.ป.ช.มีมติรับคดีดังกล่าวไปแล้ว ทุกอย่างดำเนินการตามกระบวนการ ตนมีหน้าที่ทำงานให้ประชาชน จะเห็นได้ว่าวันนี้ตำรวจทำงานอย่างหนักหน่วง ที่ทำทุกวันนี้คือการให้ขวัญกำลังใจ ขอเอาเวลาและสมองมาคิดเรื่องงาน เหลือเวลาทำงานอีกแค่คนละไม่กี่ปี วันนี้องค์กรรอไม่ได้ ผู้บังคับบัญชาต้องหันหน้าเข้าหากัน ทำงานแข่งกันเพื่อประชาชน ส่วนเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ทนายความอธิบาย ขอให้กระบวนการยุติธรรมทำหน้าที่ ถ้ายังไม่ได้รับความยุติธรรมตนจะนำความยุติธรรมให้ประชาชนได้อย่างไร และไม่ขอตอบคำถามว่าเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ ส่วนเรื่องแต่งตั้ง ผบ.ตร.เป็นเรื่องผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปอย่างนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่เครียด ส่วนกรณีผู้ต้องหาอีก 4 คน ที่เป็นนายตำรวจ 3 คน และพลเรือนอีก 1 คน ยังไม่ทราบข่าวยังไม่ได้ดูเอกสารรายละเอียดทั้งหมด เนื่องจากเมื่อวานมีผู้โทร.เข้ามาหาเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ได้รับสายใครจึงไม่ทราบถึงรายชื่อของบุคคลที่เหลืออยู่

วันเดียวกันที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มีรายงานว่า พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.สั่งการให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีทำเป็นหนังสือถึง ผบ.ตร. เพื่อขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ตั้งคณะทำงานมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ พล.ต.อ.เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน เพื่อความเหมาะสมในการสอบปากคำในตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอการพิจารณา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. จะแต่งตั้งรอง ผบ.ตร. คนใดเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนในคดีนี้

อีกด้านหนึ่งที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว จำเลย ในคดีหมายเลขดำ อ.558/2567 ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 รับไว้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ วันที่ 24 มิ.ย.67 เวลา 09.00 น.

...

นายณัฐกร โตสกุล ทนายความโจทก์เผยสาเหตุที่ฟ้อง คือเมื่อวันที่ 21 ก.พ.67 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ที่ ป.ป.ช. จากนั้นวันที่ 22 ก.พ.ได้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์ชื่อดัง (ช่อง 3) นำข้อมูลสำนวนการสอบสวนของ สน.ทุ่งมหาเมฆและ สน.เตาปูน ไปเปิดเผยโดยข้อมูลที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติให้สัมภาษณ์ติดตามได้จากข่าว ซึ่งมีข้อความที่ไม่ควรจะนำมาพูด เพราะเป็นถ้อยคำในสำนวนเกินเลยออกมามาก ทำให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เสียหาย มอบหมายให้ตนในฐานะทีมทนายความ มายื่นฟ้องต่อศาล ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณารวม 2 ครั้ง เป็นฟ้อง 2 กรรม ฝ่ายกฎหมายพิจารณาดูแล้วถ้อยคำดังกล่าวเป็นการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

นายณัฐกรกล่าวต่อว่า ในส่วนของสำนวนของ สน.เตาปูนและพื้นที่อื่นๆ ความจริงแล้วเป็นเรื่องเดียว ที่มาจากเส้นทางการเงินซึ่งทีมทนายความได้แถลงข่าวไปเมื่อวานแล้ว มองว่าเมื่อศาลไม่มีการออกหมายจับ หมายเรียกก็เป็นอำนาจของพนักงานสอบสวน หากพนักงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติคิดว่ามีอำนาจออกหมายเรียก ก็สามารถออกได้ตามอำนาจหน้าที่ แต่คิดว่าไม่มีอำนาจแล้วเนื่องจากเป็นอำนาจ ป.ป.ช. หากออกหมายเรียกจะต้องโต้แย้งไป เพราะอำนาจหน้าที่ใครก็เป็นอำนาจหน้าที่มัน

ทนายความ รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ข้อกฎหมายตามพ.ร.บ.ป.ป.ช.ที่ได้แถลงข่าวไปเมื่อวาน ตามมาตรา 30 ประกอบมาตรา 28 ตรงนี้มีความชัดเจน พบเส้นทางการเงินเส้นเดียวเป็นเรื่องเดียวกันหมด ไม่ว่าจะในส่วนของ สน.เตาปูน และ สน.ทุ่งมหาเมฆ มาจากเส้นเงินเส้นเดียว ที่ขอออกหมายจับเมื่อวานเป็นเรื่องของการฟอกเงิน แต่เมื่อเส้นทางการเงินมาเส้นเดียว คดีจึงอยู่ในอำนาจ ป.ป.ช.ตั้งแต่แรก แต่เรื่องคดีฟอกเงินที่ขอออกหมายจับเมื่อวาน มีการพยายามที่จะทำให้เป็นเรื่องการฟอกเงิน เพื่อให้มีการแยกทำสำนวน ที่ทางทนายความมั่นใจว่าเส้นทางการเงินมีเพียงเส้นเดียว เพราะทีม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีพยานหลักฐานและได้รวบรวมเอาไว้

...

ส่วน พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ที่เป็นคนทำการเงินให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีการบันทึกเอกสาร ข้อเท็จจริงทุกอย่างไว้เป็นหลักฐานว่า มีเงินเข้าเงินออกอย่างไร เงินไปที่ไหน จึงกล้ายืนยัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ก็ได้รับข้อมูลเช่นกัน และอาจทราบข้อมูลดีกว่าทีมทนายด้วยซ้ำ กังวลว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากเป็นเรื่องภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบเอง อาจไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ ป.ป.ช.เป็นองค์กรอิสระก็จะให้ความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้ดีกว่า ส่วนถ้าหาก ป.ป.ช.ไต่สวนแล้ว มีความเห็นให้อัยการสั่งฟ้อง คดีก็ยังถูกฟ้องอยู่ดี ส่วนรายต่อไปจะฟ้องใครหรือไม่นั้น ถ้าหากที่ผ่านมามีการทำให้เกิดความเสียหายกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทีมทนายความก็ได้รับมอบหมายให้เข้าไปดูทุกเรื่อง ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะฟ้องใครเพิ่ม ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ไปขอหมายจับจะถูกฟ้องด้วยหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้

นายณัฐกรกล่าวย้ำว่า เรื่องเส้นทางการเงิน เร็วๆนี้จะแถลงข่าวให้สื่อมวลชนทราบ อาจเป็นทีมทนายความแถลงรายละเอียดถึงเส้นทางการเงินทั้งหมด ความจริงเส้นทางการเงินที่มาทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มีจำนวนไม่มาก เท่ากับเส้นทางการเงินที่ไปทางอื่นควรต้องโดนสอบเช่นกัน เรื่องเส้นทางการเงินไปที่ไหนเป็นเรื่องที่ประชาชนควรรับทราบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ส่วนเรื่องมีเส้นทางการเงินเอาไปทำบุญ หรือเอาไปจ่ายค่ากรมธรรม์ของคนรอบตัว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มีข้อมูลทุกอย่างสามารถอธิบายได้หมด การแถลงข่าวครั้งหน้าจะชี้แจงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน รวมถึงค่าเครื่องบินของ ป.ป.ช. ส่วนแฟนของ ป.ป.ช.หญิงได้บรรจุตำรวจจริงหรือไม่นั้น ไม่ทราบ เช่นเดียวกับเรื่องจำนวนเงินขอไปแถลงครั้งหน้าทีเดียว ตอนนี้กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ เส้นทางการเงินไปถึงข้าราชการหลายคน หลายส่วนบอกเลยว่า มีจำนวนมาก บอกได้ว่า สะเทือนแน่

เมื่อถามว่า ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เคยพูดว่าถ้าแฉออกมาตายหมู่จริงหรือไม่ ทนายพยักหน้ากล่าวว่า ประมาณนั้น พร้อมกล่าวต่อว่า มองว่าเส้นทางการเงินที่ไปถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องแล้วเส้นทางการเงินที่ไปที่อื่นก็ไม่ถูกต้องเหมือนกัน ส่วนการยื่นฟ้องวันนี้ได้มีการเตรียมเอกสารพยานหลักฐานแนบมาด้วย

ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. ที่ สน. เตาปูน นายณพรรษกร แหเกิด หรือเสี่ยอู๊ด สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน คดีเว็บพนันออนไลน์ “BNKMaster” เข้าพบ พ.ต.ท.คชภพ บุญอินทร์ สว. (สอบสวน) สน.เตาปูน และ พ.ต.ท.สราวุฒิ บุตรดี รอง ผกก. (สอบสวน) สน.สายไหม มาช่วยเรื่องสำนวนการสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยนายณพรรษกรกล่าวว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขอให้การกับทางตำรวจก่อน ตอนนี้ไม่เครียด และยังงงอยู่หลังถูกออกหมายจับ ที่มาวันนี้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ส่วนบิ๊กโจ๊ก ยอมรับว่ารู้จักแต่ชื่อ รู้ว่าเคยเป็น ผกก.สภ.หาดใหญ่ มาก่อน แต่ไม่เคยคุยกัน ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันแน่นอน แต่ยอมรับว่า รู้จักกับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ และรู้จักหมดคนที่เคยเป็น ผกก.สภ.หาดใหญ่

จากนั้นอีกครึ่งชั่วโมง พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รอง ผบก.ภ.จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในข้อหา สมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาเช่นกัน โดยมี พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ นายกสมาคมพนักงานสอบสวน เดินทางมาด้วย โดย พ.ต.อ.กิตติชัยสวมใส่เสื้อแจ็กเกตสีดำ กางเกงสีดำ และสวมใส่แมสก์ ปิดบังใบหน้า เดินหลบเลี่ยงกลุ่มสื่อมวลชน อย่างไรก็ตาม คณะพนักงานสอบสวนได้สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธพร้อมยื่นหลักทรัพย์เงินสดคนละ 100,000 บาท ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน พร้อมนัดฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางในวันที่ 14 มี.ค.ต่อไป

 

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่