เมื่อวันที่ 11 มี.ค. นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ในช่วงปิดภาคเรียนนี้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ และว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ได้มีความห่วงใยถึงความปลอดภัยของนักเรียนในช่วงระหว่างปิดภาคเรียนเดือน เม.ย.และ พ.ค. ซึ่งตนในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากเลขาธิการ กพฐ.ให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยของนักเรียนนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะมีข้อสั่งการให้สถานศึกษาทุกแห่งได้กำชับให้นักเรียนระมัดระวังเรื่องการออกไปเล่นตามแหล่งน้ำในชุมชน เนื่องจากสถิติในช่วงปิดภาคเรียน ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตเกือบทุกปี ซึ่ง สพฐ.ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกต่อไป โดยเราจะต้องลดการสูญเสียเหล่านี้ให้ได้
รองเลขาธิการ กพฐ.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ขอให้สถานศึกษากวดขันและกำชับเรื่องความปลอดภัยของนักเรียนอย่างเคร่งครัดด้วย โดยในส่วนของการป้องกันการจมน้ำเสียชีวิตของนักเรียนในช่วงปิดภาคเรียนนั้น ซึ่งสถานศึกษาส่วนใหญ่ก็มีการสอนทักษะการว่ายน้ำให้แก่นักเรียน แต่ขณะนี้ยังมีเด็กอีกกลุ่มซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่มีทักษะการว่ายน้ำเท่า
ที่ควร ดังนั้น สพฐ.ขอแชร์ข้อมูลความรู้เทคนิคการเอาตัวรอดจากการจมน้ำให้แก่ผู้ปกครองและนักเรียนได้รับทราบข้อมูล
โดยเมื่อเด็กนักเรียนรวมตัวกันไปเที่ยวเล่นตามแหล่งน้ำต่างๆในพื้นที่ที่อยู่อาศัยของตัวเองก็ขอให้พกขวดน้ำดื่มพลาสติกหรือขวดน้ำอัดลมพลาสติกขนาดใหญ่ที่มีการใช้งานแล้ว ซึ่งให้เติมน้ำลงไปเต็มขวดและหาเชือกยาวมัดไว้ปลายขวด หรือผูกกับแขนหรือลำตัว เพื่อที่จะเป็นอุปกรณ์ในการพยุงตัวไม่ให้เราจมน้ำได้ นอกจากนี้ขอให้ผู้ปกครองช่วยกวดขันดูแลบุตรหลานของตัวเองอย่างเข้มงวด ไม่ให้ออกไปแหล่งมั่วสุมในยามวิกาล เพราะหากมีการกระทำผิดเกิดขึ้น กฎหมายได้ปรับโทษใหม่ โดยเด็กที่มีอายุ 14 ปีจะถือว่าต้องมีความผิดได้รับโทษตามกฎหมายอาญาด้วย.
...
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่