รศ.ดร.ปิติวัฒน์ วัฒนชัย ผอ.อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เปิดเผยว่า อุทยานฯลงนามความร่วมมือกับบริษัทยนต์ผลดี จำกัด จ.นครสวรรค์ เรื่อง “การสนับสนุนส่งเสริมศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวข้าว” เพื่อต่อยอดงานวิจัยเทคโนโลยีกำจัดมอดและไข่มอดด้วยเทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุ UTD RF (Uniform Thermal Distri bution Radio Frequency) เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมข้าวไทย โดยมีเป้าหมายจะผลักดันให้เกิดการใช้งาน UTD RF ในโรงสีข้าวกว่า 70 ราย ภายใน 5 ปี รวมถึงการร่วมส่งเสริมศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยวข้าวเพื่อเป็นสถานที่สำหรับให้ความรู้ในการบริหารจัดการโรงสีข้าวแก่ผู้ประกอบการและชุมชนที่สนใจและในปี 2567 ได้ร่วมทุนสนับสนุนงบประมาณวิจัยแก่บริษัทผ่านโครงการ Co-research กว่า 1.65 ล้านบาท เพื่อขยายขนาดเทคโนโลยีให้ตอบโจทย์การใช้งานของโรงสีขนาดใหญ่ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ส่งออกข้าวของประเทศ
“เทคโนโลยี UTD RF สามารถใช้กำจัดมอดและไข่มอดได้อย่างสมบูรณ์ในเมล็ดข้าวสารด้วยการสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเหนี่ยวนำโมเลกุลน้ำภายในเมล็ดข้าวสารที่มีคุณสมบัติไดอิเล็กตริกให้เกิดการหมุนและการสั่นสะเทือนของไอออนหลายล้านครั้งต่อวินาที จนเกิดเป็นความร้อนในระดับโมเลกุลอย่างสม่ำเสมอในเวลาอันสั้นด้วยอุณหภูมิระหว่าง 55-60 องศาเซลเซียส โดยไม่ทำให้คุณภาพข้าวสารเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ดังนั้น ข้าวทุกเมล็ดที่ผ่านกระบวนการ UTD RF ในการทำหมันมอด มั่นใจได้ว่าข้าวสารมีความปลอดภัยกับผู้บริโภค ปลอดจากสารเคมีกำจัดมอดที่ก่อมะเร็งตกค้างอยู่ในข้าวสาร 100%” รศ.ดร.ปิติวัฒน์กล่าว
ด้าน ดร.กานต์ จิตสุทธิภากร ผู้จัดการทั่วไปบริษัทยนต์ผลดี จำกัด กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าใน 5 ปี จะนำเทคโนโลยี UTD RF ไปใช้ในการกำจัดมอด อย่างน้อย 60 เครื่อง จะช่วยลดการนำเข้าสารเคมีรมกำจัดมอดในข้าวสารเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในต่างประเทศและเกิดมูลค่าเพิ่มให้ข้าวสาร รวมมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยี UTD RF อย่างน้อย 1,080 ล้านบาท ที่สำคัญเทคโนโลยี UTD RF จะทำให้ข้าวไทยสามารถทวงแชมป์การส่งออกข้าวให้กลับมายังประเทศไทย เพราะขณะนี้เรามีเครือข่ายโรงสีสมัยใหม่เกิดขึ้นทั่วประเทศกว่า 500 คนที่สามารถนำไปต่อยอดในการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของโรงสีข้าวไทยเกี่ยวกับข้าวสารปลอดสารมากำจัดมอดที่ก่อให้เกิดมะเร็ง.
...
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่