ที่ผ่านมาพบว่ามีบุคคลบางกลุ่มปลอมแปลงเอกสารหรือปลอมบัตรประชาชนในการจดทะเบียนซิมการ์ดโดยมิชอบ ใช้บัตรประชาชนของผู้อื่นหรือลงทะเบียนด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย

เป็นต้นตอปัญหา “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ต้องถูกดำเนินคดีและกำจัดให้หมดไป โดยเฉพาะระบบเติมเงิน ที่ไม่มีการลงทะเบียนผู้ใช้งานจริงหรือลงทะเบียนข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ปลอมแปลงเอกสารจดทะเบียนซิม

แนวคิด พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช.ด้านกฎหมาย และประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ พล.ต.ท.ดร.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดูแลงานด้านป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี

จัดระเบียบซิมการ์ด

พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร ประสานการทำงานกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกค่ายอย่างใกล้ชิด ส่งข้อมูลตำรวจดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดฐานปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ปลอมบัตรและใช้หรือแสดงบัตรปลอม ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

กสทช.ออกมาตรการยืนยันตัวตนและข้อมูลผู้ใช้บริการที่ถือครองซิมการ์ด มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่ม คือผู้ถือครองซิมการ์ดตั้งแต่ 6-100 หมายเลข ยืนยันตัวตนภายใน 180 วัน ผู้ที่ถือครองซิมการ์ด 101 หมายเลขขึ้นไป ยืนยันตัวตนภายใน 30 วัน

ขณะนี้กลุ่มที่สองผู้ที่ถือครองซิมการ์ด 101 หมายเลขขึ้นไปครบกำหนดวันที่ 14 ก.พ. กสทช.ประชุมเร่งรัดให้ผู้ประกอบการทุกค่ายดำเนินการระงับบริการตามเงื่อนไข ทั้งการโทร.ออก ส่งข้อความ SMS และการใช้งานอินเตอร์เน็ตจะอนุญาตเพียงโทร.เบอร์ฉุกเฉินเท่านั้น

ตรวจสอบพบว่า หมายเลขบางส่วนยังไม่ได้ยืนยันตัวตน เป็นซิมที่ติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์ต่างๆที่ไม่ได้รับข้อความแจ้งเตือน บางส่วนเชื่อได้ว่าเป็น “ซิมเถื่อน” ที่อยู่ในมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรออนไลน์อื่นๆ

...

ไม่กล้ามาแสดงยืนยันตน

กลุ่มนี้เป็นเป้าหมายจับกุม พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร ประสานความร่วมมือระหว่าง กสทช. ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขยายผลเอาผิดกับผู้ปลอมแปลงเอกสารในการจดทะเบียนซิม

พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร และ พล.ต.ท.ดร.ธัชชัย กำชับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกค่าย เริ่มระงับการใช้ การโทร.ออกและการใช้อินเตอร์เน็ตตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. ก่อนเพิกถอนการใช้ซิมการ์ดออกจากระบบ

ป้องกันมิจฉาชีพใช้ก่อคดีออนไลน์.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม