มีข่าวอยู่ข่าวหนึ่งที่ผมเห็นว่า มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศชาติของเราให้ก้าวไกลไปข้างหน้าทั้งด้านเศรษฐกิจและ สังคมคือ ข่าวการจัดงานเผยแพร่ผลงานด้านวิจัย และการประดิษฐ์ คิดค้นต่างๆของคนไทย โดยสำนักงานวิจัยแห่งชาติ (วช.) รวม 2 งานด้วยกัน

งานแรกจะจัดขึ้นต้นๆเดือนกุมภาพันธ์ของแต่ละปี และอีกงานน่าจะจัดขึ้นประมาณเดือนสิงหาคมของแต่ละปี

ได้แก่งาน “วันนักประดิษฐ์” หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า Thailand Inventors’ Day ตามมาด้วยตัวเลขบอกปีที่จัดขึ้น...และงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ” หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า “Thailand Research Expo” ซึ่งจะมีตัวเลขปีที่จัดห้อยท้ายเช่นกัน

ผมมีความเชื่อเช่นเดียวกับนักคิดและนักพัฒนาทั่วโลกที่ว่า “การวิจัย” และ “การประดิษฐ์คิดค้น” คือกุญแจแห่งความสำเร็จในการพัฒนาทั้งด้านเกษตร อุตสาหกรรม และเทคโนโลยี เพื่อยกระดับรายได้ และความเป็นอยู่ของประชาชนในแต่ละชาติให้สูงขึ้น

จนเป็นนโยบายเกิดขึ้นทั่วโลกว่าทุกๆประเทศจะต้องจัดเงินงบประมาณส่วนหนึ่งไว้สำหรับงานวิจัยและพัฒนา โดยเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้ว หรือประเทศรํ่ารวยทั้งหลายจะให้ความสำคัญต่องานวิจัยมากเป็นพิเศษ และมีการจัดงบประมาณให้มากเป็นพิเศษ

ของไทยเราในยุคก่อนๆมักจัดเงินงบประมาณด้านการวิจัยให้แก่ หน่วยงานต่างๆค่อนข้างน้อย ในขณะที่ภาคเอกชนเองก็ไม่ค่อยสนับสนุนงานวิจัยในบริษัทของตนเท่าไรนัก ทำให้การพัฒนาของเราค่อนข้างช้าไปกว่าที่ควรจะเป็น

จนกระทั่งในยุคหลังๆ จึงค่อยๆตื่นตัว มีการเพิ่มยอดการใช้เงินเพื่อการวิจัยทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนคิดเป็นเปอร์เซ็นต์มากขึ้นในระดับหนึ่งเมื่อเทียบกับจีดีพีของประเทศ

ผมเองด้วยความเชื่อที่ว่า งานวิจัยและการประดิษฐ์คิดค้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศดังได้กล่าวไว้ข้างต้น จึงมักจะเขียนกระตุ้นรัฐบาลอยู่เสมอๆขอให้เพิ่มงบประมาณเพื่อการวิจัยมากขึ้น

...

เคยเอาตัวเลขว่าเราใช้งบน้อยกว่าเขาอย่างไร? แค่ไหน มาลงคอลัมน์นี้หลายๆครั้ง

ขณะเดียวกันก็จะเขียนแนะนำการจัดงานเพื่อแสดงผลงานวิจัยทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอยู่เสมอๆเช่นกัน เพื่อสร้างความรู้สึกร่วมกันของทุกๆภาคส่วนในสังคมไทยให้ตระหนักถึงความสำคัญของงานวิจัยเพื่อการพัฒนาและการประดิษฐ์คิดค้นอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น

แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง ผมกลับลืมงานสำคัญงานแรกแห่งปีของสำนักงานวิจัยแห่งชาติไปเสียสนิท จนไม่ได้เขียนแนะนำหรือประชาสัมพันธ์ให้ดังเช่นทุกปี

ได้แก่งาน “วันนักประดิษฐ์” ที่มีการจัดขึ้นที่ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา

เผอิญว่างานเขายังไม่จบ ยังมีมาจนถึงวันนี้ (5 กุมภาพันธ์) และพรุ่งนี้ (6 กุมภาพันธ์) อีก 2 วัน ผมจึงขอถือโอกาสนี้แซงคิวเขียนให้ เพื่อชักชวนท่านที่สนใจในการประดิษฐ์คิดค้นและผลงานวิจัยต่างๆไปร่วมงานนี้เท่าที่จะสามารถไปกันได้

จากรายงานข่าวที่ผมได้รับล่าสุดระบุว่า จะมีผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมมากกว่า 1,000 ผลงาน มาแสดงให้ดูชมในฮอลล์ 100-102 ของศูนย์ไบเทคบางนาปีนี้

เช่น นิทรรศการ “พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย” นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ, นิทรรศการรางวัลวิจัยแห่งชาติ, นิทรรศการประกวดสิ่งประดิษฐ์นานาชาติ, นิทรรศการประกวดสิ่งประดิษฐ์ระดับเยาวชน ฯลฯ รวมทั้งการอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการประดิษฐ์คิดค้นและการเสวนาที่น่าสนใจมากกว่า 100 หัวข้อ

ขอเชิญน้องๆหนูๆเยาวชนและเด็กนักเรียนแวะไปด้วยนะครับผมยังเสียดายที่ตกข่าวนี้ เพราะมิฉะนั้นก็จะเขียนให้ล่วงหน้า น้องๆหนูๆจะได้ไปเสียตั้งแต่เมื่อวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา

แต่ก็ช่างเถอะ...ผ่านไปแล้วก็แล้วไป...เอาเป็นว่าหากโรงเรียนไหนไม่ติดสอบไม่ติดการเรียนการสอนที่สำคัญมากนัก...ขอเชิญชวนให้คุณครูยอมงดการเรียนการสอนชวนเด็กๆไปงานนี้...อย่างน้อยสักครึ่งวันจะขอบคุณยิ่ง

จะได้ปลูกฝังความคิดเยาวชนไทยเอาไว้ตั้งแต่เป็นนักเรียนนี่เลยว่าการวิจัยเพื่อการพัฒนาและการประดิษฐ์คิดค้นต่างๆจะเป็นหนทางหนึ่งของการเดินไปสู่ “อนาคตที่ยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น” (FUTURE PERFECT) ดังที่ไทยรัฐกรุ๊ปของเรากำลังรณรงค์อยู่ในขณะนี้.

“ซูม”

คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม