ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยถึงการเปิดรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปี 2567 ว่า สพฐ.อยู่ระหว่างการเตรียมแผนงานเรื่องดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ปฏิทินการรับสมัครครูผู้ช่วยกรณีพิเศษได้ดำเนินการวางกรอบวันเวลาไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ที่ยังรอการประกาศปฏิทินการรับสมัครนั้น เนื่องจากหลักเกณฑ์การสอบบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ เราได้ปรับหลักเกณฑ์ใหม่ โดยให้ส่วนกลางเป็นผู้ดำเนินการออกข้อสอบทั้งภาค ก ความรู้และความสามารถทั่วไป ภาค ข มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ และภาค ค ที่ได้ปรับให้มีการกำหนดตัวชี้วัดใหม่ โดยในส่วนของข้อสอบภาค ค ที่ได้กำหนดตัวชี้วัดใหม่ เราได้ส่งเรื่องไปให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) พิจารณาให้ความเห็นชอบแล้วซึ่งต้องรอให้สำนักงาน ก.ค.ศ.เห็นชอบเกณฑ์สอบภาค ค ที่กำหนดตัวชี้วัดใหม่ออกมาก่อน หลังจากนั้นถึงจะประกาศปฏิทินรับสมัครได้อย่างเป็นทางการต่อไป
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวอีกว่า สำหรับการสอบครูผู้ช่วยกรณีพิเศษในครั้งนี้ จะต้องดำเนินการจัดสอบให้เสร็จสิ้นก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ในเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งในการสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้ รวมถึงไม่ว่าการจัดสอบกรณีใดๆก็ตาม พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ ในฐานะที่กำกับดูแลหน่วยงาน สพฐ. ได้กำชับว่าการสอบจะต้องดำเนินการเป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้ ซึ่งตนได้กำชับเรื่องนี้ไปยังทุกเขตพื้นที่การศึกษาแล้วว่าอย่าให้มีเรื่องการทุจริตหรือวิ่งเต้นเพื่อแลกการสอบได้อย่างเด็ดขาด เพราะไม่เช่นนั้นจะมีโทษทางวินัยอย่างแน่นอน รวมถึงการที่ส่วนกลางเป็นผู้ดำเนินการออกข้อสอบ ซึ่ง สพฐ.ได้จ้างมหาวิทยาลัยที่มีความน่าเชื่อถือในการออกข้อสอบให้มีมาตรฐานเดียวกัน เพราะข้อสอบจะใช้ข้อสอบชุดเดียวกันทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เขตพื้นที่อยู่ระหว่างการสำรวจจำนวนอัตราว่างและสาขาวิชาต่างๆที่ขาดแคลน เพื่อวางแผนการจัดสอบต่อไป.
...
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม