“โควิด” และ “วัคซีน”...ผลกระทบแบบ ยาว ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หรือ “หมอดื้อ” หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ย้ำว่า โควิดนี้มีได้แบบชนิดตอนเดียวจบคือแบบสั้น นั่นก็คือ...
“ติดเชื้อแบบไม่มีอาการแพร่ไปให้คนอื่นเสร็จแล้วเชื้อก็หายไปจากตัว หรือติดเชื้อและเกิดอาการเบา กลาง หนัก จนถึงเสียชีวิต...หรือแบบต่อเป็นซีรีส์ สั้นก็คือหายจากอาการทางปอดและอวัยวะอื่นๆ แต่ตามต่อด้วยเส้นประสาทอักเสบแขนขาอ่อนแรงอัมพาตหายใจไม่ได้หรือมีสมองอักเสบต่างๆ”
ซีรีส์สั้นแบบนี้อยู่ในระยะเวลาสามเดือน...ทั้งนี้ไม่จำกัดอยู่แต่เพียงว่าอาการในครั้งแรกต้องหนักมากเสมอไป แม้แต่กลุ่มที่อาการน้อย ส่วน “ซีรีส์ยาว”... ก็มีความผิดปกติทอดยาวออกไปอีก และตั้งชื่อว่าเป็นหนังยาวของโควิด หรือ “ลองโควิด (long Covid)”
...
รูปแบบลักษณะดังกล่าวนี้ทับซ้อนกับปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Myalgic Encephalomyelitis (ME)/Chronic fatigue syndrome (CFS) โดยลักษณะประกอบไปด้วยอาการปวดกล้ามเนื้อที่มีส่วนเกี่ยวโยงกับกระบวนการอักเสบที่เกิดขึ้นในสมองและระบบประสาทส่วนกลาง รวมทั้งมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ตลอดเวลา
...มีอาการเหนื่อยล้ามหาศาล ทำงานไม่ได้ ขาดสมาธิ มีความผิดปกติทางระบบประสาทอัตโนมัติและไม่สามารถออกกำลังได้เลย
“โควิดแบบยาว” อาจมีได้สูงถึง 30-50% ของผู้ที่หายจากโควิดฉบับสั้นไปแล้ว และอาการที่เกิดขึ้นมีได้เป็น 100 อย่าง และครอบคลุมแทบจะทุกอวัยวะของร่างกาย โดยมีตัวร่วมโดยเฉพาะความแปรปรวนทางสมอง จิตและอารมณ์ แต่ขณะเดียวกันก็มีความคล้องจองเหมือนกับ ME/CFS ที่กล่าวมาแล้วแต่ต้น
ทั้งนี้ โควิดเก่งกว่ารุ่นแรกๆ เพราะกระทบในคนมากมายกว่า...อาการดูเหมือนจะรุนแรงมากกว่าที่เคยปรากฏมาก่อนในรุ่นแรกๆ...จากหลักฐานของ ME/CFS ที่ได้จากรุ่นแรกๆ ซึ่งอาจจะนำมาใช้อธิบายในโควิดนั้น โดยเป็นไปได้ว่า “การอักเสบ” ที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อเกิดขึ้นนอกสมองและระบบประสาท
แต่ “สมอง” รับรู้โดยตอบโต้กับโมเลกุลชิ้นส่วนเล็กๆของอนุภาคการอักเสบเหล่านี้ในเลือด และอาจเป็นไปได้ที่มีการส่งผ่านโมเลกุลเหล่านี้ผ่านผนังเส้นเลือดเข้าไปในสมอง ทั้งจากการนำพาเข้าไปหรือซึมผ่านเข้าสมองโดยตรงในบริเวณที่ผนังกั้นไม่แข็งแรง
นอกจากนั้นโมเลกุลของการอักเสบเหล่านี้ยังพบได้ในเส้นประสาทเวกัส หรือเส้นประสาทสมอง เบอร์ 10 ที่ทอดยาวลงมายังลำไส้และสามารถส่งผ่านการอักเสบเหล่านี้ขึ้นไปจนกระทั่งถึงก้านสมองในวงจรของ NTS (nucleus tractus solitarius) ที่ควบคุมการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติรวมทั้งเส้นเลือดและหัวใจ
และ...น่าจะมีผลตามติดต่อเนื่องไปถึงกระบวนการควบคุมการทำงานของฮอร์โมนต่างๆที่มีการควบคุมจากสมองตั้งแต่ในส่วนของไฮโปธาลามัส ต่อมใต้สมอง และต่อเนื่องมาถึงระบบควบคุมฮอร์โมนต่างๆในร่างกายจนกระทั่งถึงต่อมหมวกไต ปรากฏการณ์...โควิดฉบับยาวจะกลายเป็นภาระสำคัญของระบบสาธารณสุข
เนื่องจากคนที่ถูกกระทบจะมีได้ทุกอายุไม่จำกัดเพศและเกิดจากการติดเชื้อโควิดแบบรุนแรงและไม่รุนแรง ด้วยอาการที่เกิดขึ้นจะบั่นทอนคุณภาพชีวิต ประสิทธิภาพของการทำงานกระบวนการของความคิด
“แม้กระทั่งสมาธิ สติปัญญา ความจำจะถดถอย และรุนแรงถึงขนาดที่ต้องมีการปรึกษาหรือได้รับการรักษาจากแพทย์ในแทบทุกแขนง รวมกระทั่งถึงจิตแพทย์เพราะมีความรู้สึกหดหู่ ปฏิเสธสิ่งรอบข้างจนกลายเป็นก้าวร้าวหรือมีปัญหาทางสังคมแบบในปรากฏการณ์หลังจากที่มีภาวะเครียดอย่างรุนแรง”
...
ยิ่งไปกว่านั้น...ยังมีปรากฏการณ์ของผลกระทบของ “วัคซีนโควิด” ซึ่งในเวลาที่ผ่านมาหลังจากฉีดไปแล้วเกิดความ “เจ็บป่วย” และ “เสียชีวิต” รูปแบบเช่นเดียวกับโควิดแทบทุกประการ ในแบบสั้น...ซีรีส์สั้นหรือแบบยาวทอดเวลาเป็นปี เหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องมองและเตรียมตัวไปพร้อมๆกัน
แถลงการณ์ร่วมต่อสถานการณ์อาการลองโควิด-19 และผลกระทบจากวัคซีนเนื่องในโอกาสที่ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ลงนามความร่วมมือทางด้านวิชาการและการวิจัยร่วมกับวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออกมหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อไม่นานมานี้...
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ บอกว่า จากการที่มีประชาชนชาวไทยและทั่วโลกกำลังได้รับผลกระทบจากภาวะต่อเนื่องหลังการติดเชื้อโรคโควิด-19 หรือได้รับผลกระทบจากการได้รับวัคซีนในหลายมิติ เป็นผลทำให้มีประชาชนกลุ่มดังกล่าวเสียชีวิต หรือมีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอลง
หรือ...ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตแย่ลง เป็นเรื่องที่เป็นความจริงทั้งสิ้น
น่าสนใจว่า...อาการที่เกิดขึ้นที่ทอดยาวเป็นเวลานานเกินกว่าสามเดือนหลังจากติดเชื้อโควิดที่เรียกว่าลองโควิด (long covid) โดยมีทั้งอาการทางระบบหัวใจและปอด ระบบสมองประสาทและกล้ามเนื้อ ภาวะที่มีการอักเสบของผิวหนัง เส้นเอ็นพังผืด กล้ามเนื้อ ข้อต่างๆ ตลอดจนการปะทุขึ้นของโรคที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
...
หรือ...โรคที่สงบไปแล้ว รวมทั้งมะเร็งและการเกิดเริม งูสวัดซึ่งไวรัสเหล่านี้เป็นไวรัสที่ซ่อนอยู่ในร่างกายจากการติดเชื้อเนิ่นนานมาแล้ว และถูกกดไม่ให้แสดงตัวออกมาจากการควบคุมของระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงของร่างกาย และยังรวมถึงการนอนหลับที่ผิดปกติ หลับยาก...หลับกระท่อนกระแท่น
นับรวมไปจนถึงฮอร์โมนแปรปรวนทั้งผู้ชายและผู้หญิง
ประเด็นสำคัญมีอีกว่า...มีขบวนการปกปิดข้อมูลและข้อเท็จจริงของผู้ที่ได้รับผลกระทบและเสียชีวิตจากวัคซีน ทำให้ตัวเลขการรายงานผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนต่ำกว่าความเป็นจริง รวมถึงการปิดกั้นข้อมูลข่าวสารจากโซเชียลมีเดีย แอปพลิเคชันในหลายระบบ
“ทำให้มีประชาชนอีกจำนวนมากยังไม่ทราบว่าตัวเองได้รับผลกระทบจากวัคซีน จึงทำให้ไม่สามารถหาแนวทางการรักษาตัวเองที่ถูกต้องได้”
ในปี 2565 และปี 2566 ทั้งๆที่เป็นช่วงที่โรคโควิด-19 ได้หยุดการระบาดไปแล้ว โดยสถิติอัตราการเสียชีวิตของคนไทยนั้นสูงเพิ่มขึ้นมากกว่า ช่วงก่อนการเกิดโรคระบาดและมากกว่าช่วงการระบาดโรคโควิด-19
...
ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการสืบสวนการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกตินั้น มีสัดส่วนอันเนื่องมาจากผลกระทบของวัคซีนมากเพียงใด...เพราะในรายงานการวิจัยสถิติในต่างประเทศพบว่า มีผู้ที่ เสียชีวิตจากวัคซีนโควิด-19 จริง และในผู้เสียชีวิตเหล่านี้ได้รับความเสียหายต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด
...ระบบทางโลหิตวิทยา ระบบทางเดินหายใจ หรือหลายระบบพร้อมกัน และมีการประเมินว่าการตายจากวัคซีนที่รายงานเข้าในระบบ VAERS ของสหรัฐอเมริกาต่ำกว่าความจริงกว่า 20 เท่าตัว
ถึงตรงนี้...ก่อนที่จะว่าหมอเป็นคนต่อต้านวัคซีนต้องเข้าใจก่อนว่าหมอและคณะเป็นผู้พิสูจน์ว่าวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าแบบเก่ามีอันตรายสมองอักเสบพิการและถึงกับเสียชีวิต เพราะปนเปื้อนด้วยสารโปรตีน MBP และ gangliosides และ...ทำให้องค์การอนามัยโลกยกเลิกวัคซีนชนิดเก่าและยอมรับการใช้วิธีฉีดเข้าชั้นผิวหนัง
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่...ผู้เชี่ยวชาญทุกๆฝ่ายต้องร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อให้ข้อมูลในทางสร้างสรรค์ เพื่อให้มีการยอมรับและปรับปรุงแก้ไข...เพื่อประโยชน์และความปลอดภัยสูงสุดของคนไทย.
คลิกอ่านคอลัมน์ "สกู๊ปหน้า 1" เพิ่มเติม