กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับภาวะลองโควิด-19 และผลกระทบจากวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนนั้น สถาบันวัคซีนแห่งชาติได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงเบื้องต้นว่า ภาวะลองโควิด-19 เป็นภาวะที่พบได้จริงหลังการป่วยด้วยโรคโควิด-19 แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน สาเหตุของการเกิดต้องติดตามอย่างเป็นระบบอย่างต่อเนื่อง อาการที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ เหนื่อยล้า หายใจถี่หรือลำบาก ปัญหาด้านความจำ สมาธิ การนอนหลับ ไอถาวร เจ็บหน้าอก ปัญหาการพูด ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ สูญเสียการรับกลิ่นหรือรส ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล เป็นไข้ แต่ส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ทั้งนี้ มีการศึกษาจำนวนมากที่พบว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะลองโควิดได้

สำหรับประเด็นการปกปิดข้อมูลของผู้ที่ได้รับผลกระทบและเสียชีวิตจากวัคซีนนั้นไม่เป็นความจริง ข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด-19 ของไทย มีการเก็บข้อมูลและเผยแพร่อย่างเป็นระบบในเว็บไซต์ของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้มีการปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด กรณีการกล่าวอ้างว่า การฉีดวัคซีนหลังเข็มที่ 3 ว่าอาจจะทำให้ภูมิคุ้มกันชนิด T-Cell หมดแรงนั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สถาบันวัคซีนแห่งชาติได้มีการประสานไปยังนักวิจัยเจ้าของข้อมูลดังกล่าว พบว่า ประเด็นหลักที่นักวิจัยต้องการสื่อสาร คือการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นควรมีการวางแผน และกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคได้ดีที่สุด ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกมีคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนเพิ่มเติมหลังจากฉีดเข็มแรก แล้ว 6 เดือนถึง 1 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เหมาะสม.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่

...