ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ รองคณบดีฝ่ายพันธกิจบริการทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล เปิดเผยว่า ปี 2566 ประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมีมากกว่า 20% แล้ว โดยเฉพาะบางจังหวัดเช่น แพร่ สมุทรสาครที่มีผู้สูง อายุกว่า 30% ทั้งอายุขัยคนก็เพิ่มขึ้น หากเราไม่เตรียมความพร้อมรับมือสังคมผู้สูงอายุจะเกิดภาวะวิกฤติในอนาคต คณะได้ศึกษาและเตรียมความพร้อมมาเป็นระยะ รวมถึงรองรับผู้ป่วยสูงอายุที่เข้ามารักษาที่ รพ.ศิริราช ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้น อย่างเช่น แผนกอายุรเวชพบกว่า 60% เป็นผู้สูงอายุ ทั้งยังพบว่าเมื่อคนไข้รักษาผ่านพ้นวิกฤติออกไปพักรักษาตัวที่บ้าน มีถึง 30% ต้องกลับเข้ามา รพ.ซ้ำอีกภายใน 2-3 สัปดาห์ งานวิจัยชี้ผู้สูงอายุกลุ่มนี้มีโอกาสเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 3 เท่า สาเหตุหลักๆมาจากทานยา ทานอาหารไม่ได้ กลืนลำบากเกิดการสำลักนำมาสู่การติดเชื้อ หรือหลังผ่าตัดแล้วกลับไปบ้านไม่ได้ฟื้นฟู เกิดล้มกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง

ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์กล่าวด้วยว่า การดูแลผู้สูงอายุระยะกลาง ถือเป็นช่วงสำคัญในการฟื้นฟูผู้ป่วยสูงวัยให้มีความพร้อมในการกลับสู่บ้านและสังคม ป้องกันการกลับมา รพ.ซ้ำ จึงเป็นที่มาที่ศิริราชได้ริเริ่มโครงการก่อสร้าง “ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช” บนถนนเลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร บนพื้นที่กว่า 24 ไร่ เพื่อเป็นศูนย์ต้นแบบในการฟื้นฟูดูแลผู้สูงอายุระยะกลางที่ครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย รองรับการดูแลฟื้นฟูคนไข้ระยะกลาง เชื่อมการรักษาที่ผ่านพ้นวิกฤติจาก รพ.ศิริราชแล้วมารักษาระยะกลางที่ศูนย์นี้ เน้นดูแลส่งเสริมให้สามารถดูแลตนเองได้ ซึ่งผู้ที่จะดูแลผู้สูงอายุได้ดีที่สุดคือ 1.ตัวผู้สูงอายุเอง 2.ครอบครัว คนใกล้ชิด และ 3.สังคม รวมถึงชุมชน เพื่อนบ้าน ทั้งหมดนี้ต้องมีองค์ความรู้ที่จะไปดูแล ศูนย์จึงเป็นแหล่งอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับ 3 หน่วยที่ว่า รวมถึงเป็นศูนย์ศึกษาวิจัย ขณะนี้การก่อสร้างเฟสแรกแล้วเสร็จจะเปิดทดลองระบบวันที่ 4 ม.ค.2567 เฟสสองจะเริ่มดำเนินการกลางปี 2567 และจะสมบูรณ์ในอีก 2 ปี.

...

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่