ยังไร้วี่แววนักท่องเที่ยวหญิงอังกฤษกับแม่ครัวประจำเรือคนไทยสูญหายจากเรือสวรรค์ทัวร์อับปางที่ทะเลพังงา หลัง ศรชล.ภ.3 ส่งทีมค้นหาตลอดวัน ลูกสาวแม่ครัวคาดแม่อาจติดอยู่ใต้ท้องเรือ ขณะที่คลื่นลมทะเลอันดามันยังโหมกระหน่ำซัดท้องเรือสปีดโบ๊ต “บันดาหยา19” ทะลุจนล่มในเขตน่านน้ำ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล ศรชล.สตูล ส่งเรือช่วยเหลือ 73 นักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมลูกเรืออีก 4 ชีวิตขึ้นฝั่งปลอดภัย ส่วนฝั่งอ่าวไทยก็ใช่ย่อย คลื่นลมแรงจนไม่สามารถนำนักท่องเที่ยวล่องเรือสำราญจากสิงคโปร์ขึ้นฝั่งเที่ยวเกาะสมุยได้ ขณะที่ภาคใต้ตอนล่างฝนเทกระหน่ำทำบางพื้นที่ใน “นราธิวาส-ยะลา” จมน้ำ กรมอุตุนิยมวิทยาชี้ใต้ฝนยังหนัก ลมแรง ทะเลคลื่นสูงไปถึงสิ้นปี ส่วนประเทศไทยตอนบนจะเริ่มอุ่นขึ้นหลัง 27 ธ.ค. แต่เหนืออีสานยังหนาวเย็นอยู่

จากเหตุการณ์เรือนำเที่ยวแบบดำน้ำลึก (Scuba diving) ชื่อเรือสวรรค์ทัวร์ ประสบเหตุจมในทะเลบริเวณเกาะตอรินลา ห่างจากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ทางทิศใต้ 4 ไมล์ทะเล พื้นที่ ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา โดยเรือดังกล่าวนำนักท่องเที่ยวแบบดำน้ำลึกพร้อมลูกเรือ จำนวน 18 คน ออกจากท่าเรือทับละมุ เมื่อเช้าวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อไปดำน้ำในบริเวณดังกล่าว และเกิดเหตุอับปางลงเมื่อคืนวันที่ 23 ธ.ค.ดีที่เรือประมงพรสุปราณี 9 เข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและลูกเรือไว้ได้ 16 คนและส่งขึ้นฝั่งที่ท่าเรือคุระบุรีเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันยังสูญหาย 2 คน เป็นชาวต่างชาติ 1 คน ชื่อ MISS YOUNG MILLICENT MARGARET AMANDA JANE อายุ 56 ปี ชาวอังกฤษ กับหญิงไทย 1 คน ชื่อนางสำเนียง ชัยชนะ อายุ 67 ปี พนักงานประจำเรือ

...

ทั้งนี้ ตลอดวันที่ 24 ธ.ค. ศรชล.ภาค 3 โดย พล.ร.ท.สุชาติ ธรรมพิทักษ์เวช ผอ.ศรชล.ภ.3 และ ผบ.ทหารเรือภาค 3 แจ้งการค้นหาผู้สูญหาย 2 คน บริเวณเกาะสุรินทร์ ดังนี้ เวลา 07.45 น. ให้เรือ ต.995 ค้นหาและช่วยเหลือ ตามพื้นที่การค้นหาจากโปรแกรม SAR Map ที่มีผลการพยากรณ์ในชั่วโมงที่ 24-48 คือพื้นที่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจุดเรือจม จากนั้นเวลา 09.00 น. บ.ลว.1 (DO-228) ออกเดินทางจาก มวบ.กปก.ทรภ.3 เข้าพื้นที่ค้นหาและให้การสนับสนุนกับเรือ ต.995 ขณะที่ หน่วยรักษาความปลอดภัยหมู่เกาะสุรินทร์ค้นหาบริเวณเกาะสุรินทร์ร่วมกับทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ โดยใช้เรือยาง 2 ลำ เข้าค้นหาพร้อมประสานเรือประมงและเรือทุกลำในพื้นที่เข้าติดตามค้นหาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสภาพอากาศมีเมฆบางส่วนทัศนวิสัย 5-7 กม.แต่ยังไม่พบผู้สูญหาย

ด้านนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า สาเหตุเรืออับปาง เบื้องต้นรับรายงานว่า เกิดจากคลื่นลมแรง จังหวัดพังงาร่วมกับ ศรชล.ภ.3 ฐานทัพเรือพังงา ตำรวจภูธรจังหวัดพังงา ตำรวจน้ำ อุทยานแห่งชาติในพื้นที่ บูรณาการค้นหาทั้งทางเรือและทางอากาศ และให้การช่วยเหลือดูแลอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประสบเหตุที่ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ส่วนผู้สูญหายเป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษ อายุ 56 ปี และคนไทย 1 คน

ส่วนว่าที่ร้อยตรีกิตติภูมิ สมัยกลาง ผอ.เจ้าท่าภูมิภาค 5 สาขาพังงา ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวที่ประสบเหตุห้ามใช้เรือสวรรค์ทัวร์ ที่จมในระดับน้ำลึก 56 เมตร พร้อมกับให้มีการวางแผนกู้เรือ ช่วงนี้ในที่เกิดเหตุยังมีสภาพคลื่นลมแรง ทำให้ต้องรอให้สภาพอากาศดีขึ้น เพื่อเก็บกู้ต่อไปและได้ประสานเจ้าของเรือ และนายท้ายเข้าร่วมประชุมกับนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่า ราชการจังหวัดพังงา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้นที่ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดพังงา ในวันที่ 25 ธ.ค. เบื้องต้นทราบว่า เรือที่ประสบเหตุ ขึ้นทะเบียนถูกต้องมีประกันความเสียหาย โดยทางบริษัทนำเที่ยวทำประกันคุ้มครองครอบคลุมถึงผู้บาดเจ็บ และสูญเสียชีวิตด้วย

นางสุนีย์ ปานเพ็ง อายุ 43 ปี ลูกสาวนางสำเนียง ชัยชนะ อายุ 67 ปี เป็นแม่ครัวพนักงานประจำเรือ ที่ยังสูญหาย พร้อมญาติๆจากตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง ได้เดินทางมารอฟังข่าวการค้นหานางสำเนียงด้วยความเป็นห่วง โดยมีนายวิชญุตม์ ทองแป้น นายอำเภอคุระบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอ คุระบุรี มาเยี่ยมให้กำลังใจ ซึ่งทางญาติได้แต่ภาวนาขอให้พบนางสำเนียงโดยเร็ว ทั้งนี้ นางสุนีย์กล่าวว่าหวังว่าเจ้าหน้าที่จะค้นหาพบคุณแม่โดยเร็ว และอยากให้เจ้าหน้าที่เข้าไปค้นหาใต้ท้องเรือที่จม เพราะกลัวว่าจะติดอยู่ในเรือ ขณะเกิดเหตุแม่อยู่ข้างห้องกัปตันชั้น 3 และเรือจมอย่างรวดเร็ว ซึ่งครั้งนี้คุณแม่ออกไปทำงานบนเรือเป็นเที่ยวแรกของฤดูกาลท่องเที่ยวในฤดูกาลนี้

อีกด้านหนึ่งที่ จ.สตูล เวลา 10.30 น. น.อ.แสนย์ไท บัวเนียม รอง.ผอ.ศรชล.จังหวัดสตูล รับแจ้งเรือสปีดโบ๊ต ชื่อ “บันดาหยา 19” อับปาง บริเวณเกาะบูบู หรือเกาะซาวัง ทางทิศตะวันออกของเกาะอาดัง ทางใต้เกาะบัสซี่ (เกาะเหล็ก) และอยู่ห่างจากเกาะหลีเป๊ะ ประมาณ 3 กม.ในเขตน่านน้ำ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล ประมาณ 3 กม.จึงประสาน น.ท.น้ำน่าน บุญนาค ผบ.นป.สอ.รฝ.491 จัดเรือยางท้องแข็ง (LIB) ออกให้ความช่วยเหลือ เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 73 คน เป็นผู้ใหญ่ 70 คน เด็ก 3 คน พร้อมลูกเรือ 4 คน ได้อย่างปลอดภัย โดยมีผู้บาดเจ็บจากการสำลักน้ำ 5 คน ต้องเย็บแผล 1 คน และบาดเจ็บเล็กน้อย 10 คน ไปรักษาตัวที่ รพ.เกาะหลีเป๊ะ ขณะนี้แพทย์อนุญาตให้กลับที่พักได้

...

ทั้งนี้ เรือลำดังกล่าวเดินทางออกจากเกาะหลีเป๊ะ มุ่งหน้าไปเกาะลันตา จ.กระบี่ แต่ด้วยสภาพทะเลมีคลื่นสูง คลื่นซัดกระแทกตัวเรือทำให้ท้องเรือทะลุ เป็นรูโหว่ น้ำไหลทะลักเข้าอย่างรวดเร็ว คนขับเรือได้ประคองเรือให้เข้าไปใกล้เกาะเหล็ก แล้วให้นักท่องเที่ยว ซึ่งมีเสื้อชูชีพทุกคนลอยคอรอการช่วยเหลือ จากนั้นมีการนำลูกเรือ 4 คนและนักท่องเที่ยวทั้ง 73 คน ขึ้นเรือสปีดโบ๊ต “พลอยสยาม 559” และขนถ่ายสัมภาระนักท่องเที่ยวขึ้นเรือสปีดโบ๊ต “ฟาเซียฮาน่า 9” โดยปลอดภัย ส่วนเรือสปีดโบ๊ต “บันดาหยา 19” ได้ทิ้งสมอและเรือจมอยู่ในลักษณะตั้งแท่นบนแนวหินบริเวณแนวหินหน้าเกาะบูบู (เกาะซาวัง) และต่อมามีการนำเรือสปีดโบ๊ต 2 ลำ ไปรับนักท่องเที่ยวที่ประสบภัยจากเกาะหลีเป๊ะ มาส่งที่ท่าเรือปากบารา รวม 48 คน ซึ่งมีรถนำส่งไปจังหวัดภูเก็ต 2 คันและไปเกาะลันตา จ.กระบี่ อีก 5 คัน

ส่วนที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าด้วยสภาพอากาศตั้งแต่ช่วงเช้า มีกระแสลมพัดแรง ทำให้คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงขึ้น เรือขนาดเล็ก เช่น เรือสปีดโบ๊ต เรือทัวร์นำเที่ยว งดให้บริการทั้งหมด พร้อมกันนี้ที่ทะเลอ่าวบ้านหน้าทอน หมู่ 3 ตำบลอ่างทอง มีเรือสำราญขนาดใหญ่ 2 ลำ พร้อมนักท่องเที่ยว และลูกเรือกว่า 5,000 คน ที่เดินทางมาจากสิงคโปร์ จะนำนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งท่องเที่ยวบนเกาะสมุย ไม่สามารถนำนักท่องเที่ยวลงจากเรือสำราญได้ เนื่องจากคลื่นลมแรง จึงแจ้งยกเลิกนำนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่ง ทำให้รถโดยสารที่ไปรับนักท่องเที่ยวต่างรอเก้อ

นอกจากนี้ จากที่มีฝนตกหนักต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.ถึงวันที่ 24 ธ.ค.ใน จ.นราธิวาสและยะลา ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำหลายแห่งเพิ่มขึ้นอย่าง รวดเร็ว อาทิ ลุ่มน้ำโก-ลก ที่ อ.แว้ง อ.สุไหงโก-ลก อ.ตากใบ และ อ.สุไหงปาดี ส่วนลุ่มน้ำสายบุรี ปริมาณน้ำฝนสะสม 2 วัน ที่ อ.สุคิริน อ.รือเสาะ อ.ศรีสาคร เป็นต้น ทำให้น้ำล้นตลิ่ง รวมถึงเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน ร้านค้า รวมถึงน้ำกัดเซาะเส้นทางสัญจร โดยพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง อาทิ ม.1 เขตเทศบาลตันหยงมัส ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส น้ำสูงราว 50 ซม. เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส มีน้ำท่วมขังราว 15 ซม.

...

ขณะที่บริเวณหมู่ที่ 2 หมู่ 6 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา สะพานเส้นทางเบี่ยงเข้าหมู่บ้าน ทรุดตัว เนื่องจากกระแสน้ำป่าที่ไหลลงมาจากภูเขา ไหลเซาะคอสะพาน เจ้าหน้าที่ อบต.ตลิ่งชัน ได้นำรถแบ็กโฮเข้าถมคอสะพานเพื่อให้รถสัญจรได้ และเส้นทางบ้านสันติ ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา ช่วงบ้านปะตุปุโป๊ะ มีดินสไลด์ปิดทับเส้นทาง นอกจากนี้ พื้นที่ลุ่มต่ำในหมู่ที่ 1 ต.ตลิ่งชัน รอยต่อบ้านปาลอบาตะ ระดับน้ำล้นคลองปาลอบาตะ ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน ส่วน อ.ธารโต น้ำฝนไหลบ่าจากภูเขาทำลายเส้นทางระหว่างเขื่อนบางลาง-บ้านสันติ 2 หมู่ 6 ต.แม่หวาด ทำถนนเสียหาย ยานพาหนะไม่สามารถแล่นผ่านไปมาได้ เบื้องต้นเทศบาลเขื่อนบางลางนำเครื่องจักรกลเข้าไปแก้ไขแล้ว และทางหลวงสาย 410 (ยะลา-เบตง) ห้วงบ้านแหร ต.บ้านแหร อ.ธารโต ถนนถล่มลงมาปิดทับเส้นทาง เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้เข้าไปแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน และทางเข้าบ้านบาตูปูเต๊ะ หมู่ 6 ต.เดียวกัน ไหล่ทางบริเวณทางขึ้นเนินเขาทรุดตัวทลายลงมา จนถนนแหว่ง รถใช้เพียงช่องทางเดียว

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศว่าในช่วงวันที่ 25-30 ธ.ค.2566 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้จะเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกบางในตอนเช้า แต่ยังจะทำให้ประเทศไทยมีอากาศเย็นถึงหนาวต่อเนื่อง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออก เฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขณะที่ภาคใต้ในช่วงวันที่ 26-30 ธ.ค.มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง

...

วันเดียวกัน นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ห่วงใยประชาชน สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลสถานการณ์ เฝ้าสังเกต การณ์ ช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยเฉพาะพังงา-พัทยา และขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม โดยนายกฯสั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สังเกตการณ์ช่วยเหลือ ดูแลประชาชน และนักท่องเที่ยวในพื้นที่ กรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเนื่องจากมีคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่