ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติหรือ กสทช. ได้จัดแถลงข่าวมาตรการเยียวยาผู้บริโภค เรื่องอัตราค่าบริการคุณภาพสัญญาณ และแพ็กเกจบริการหลังการควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทค โดยมี พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประจำประธาน กสทช. (นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์) และนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช. เป็นผู้นำการแถลงข่าว

นายไตรรัตน์ กล่าวว่า หลังจากที่ทรูและดีแทคควบรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2566 สำนักงาน กสทช.ได้ติดตามการให้บริการให้เป็นไปตามมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง พบว่า 1.ได้มีการปรับลดค่าบริการ (จากการคำนวณค่าเฉลี่ยใหม่และให้น้ำหนักแพ็กเกจที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก) ลง 12% ตามเงื่อนไข 2.คุณภาพสัญญาณ จากการสุ่มตรวจสอบซึ่งเป็นภารกิจปกติ พบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่ดีขึ้นหรือเลวลง

อย่างไรก็ตาม พบว่าการควบรวมทำให้เกิดการรวมและยุบเสาสัญญาณของทรูและดีแทค แต่ไม่ได้ปรับลดตัวส่งสัญญาณหรือ Cell site ซึ่งกระทบต่อคุณภาพเครือข่าย อย่างไรก็ตาม ได้ตอกย้ำกับทรูและดีแทคว่า หากมีการรวมหรือโยกเสาสัญญาณต้องแจ้งมาล่วงหน้า “เมื่อพิจารณาจากข้อร้องเรียนเรื่องบริการมือถือทั้งระบบ พบว่าจากข้อร้องเรียนกว่า 600 ข้อหลังทรูควบรวมดีแทค มีกรณีร้องเรียนเรื่องสัญญาณ 17 เรื่อง ที่เหลือเป็นเรื่องอื่น เช่น เอสเอ็มเอสกวนใจ การคิดค่าบริการไม่ถูกต้อง และการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล” โดยในการประชุมบอร์ดวันที่ 20 ธ.ค.2566 นี้ บอร์ด กสทช.จะมีการหารือเรื่องราคาค่าบริการและนวัตกรรมต่างๆ ที่ทรูและดีแทคได้ดำเนินการไปหลังควบรวม.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่

...