หากแม่พุดตานนำพาออเจ้าสู่จักรวาลพรหมลิขิต และ แครอล แดนเวอร์ นำทุกคนทะยานสู่จักรวาลมาร์เวลในฐานะกัปตัน แน่นอนว่าผู้ที่จะเชื่อมโยงจักรวาลความสุขเข้าด้วยกัน จะเป็นใครไปไม่ได้หากไม่ใช่ “ไปรษณีย์ไทย” เราขอพาท่านย้อนเวลากลับไปเมื่อ 140 ปีที่แล้ว นับตั้งแต่กรมไปรษณีย์ได้ถือกำเนิดขึ้นใน พ.ศ. 2426 สู่ POSTiverse จักรวาลแห่งความสุข ความทรงจำ ที่ส่งมอบโดยไปรษณีย์ไทย

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ หรือพี่บิ๊ก กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ หรือพี่บิ๊ก กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด


พี่บิ๊ก - ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เล่าถึงภาพรวมของการจัดงาน POSTiverse ส่งสุขไปทุกเวิร์ส 140 ปี ไปรษณีย์ไทย และงานแสดงตราไปรษณียากรโลก 2566 พร้อมรอยยิ้มว่า ครั้งนี้เราจัดงานอย่างยิ่งใหญ่โดยได้จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “เจ้าฟ้านักสะสม” เป็นการจำลองห้องตราไปรษณียากรส่วนพระองค์ ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านสวนปทุมอันเป็นตำหนักส่วนพระองค์ใน จ.ปทุมธานี และยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมพระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์ที่พระองค์ทรงวาดเป็นรูปตู้ไปรษณีย์ ซึ่งเราจะนำไปจัดทำดวงตราไปรษณียากรต่อไปในอนาคต

ห้องจำลองตราไปรษณียากรของ “เจ้าฟ้านักสะสม” ณ บ้านสวนปทุม
ห้องจำลองตราไปรษณียากรของ “เจ้าฟ้านักสะสม” ณ บ้านสวนปทุม

สำหรับการจัดงาน POSTiverse ส่งสุขไปทุกเวิร์สเพื่อฉลองครบรอบ 140 ปีไปรษณีย์ไทยในครั้งนี้ได้ใช้พื้นที่ศูนย์กลางประวัติศาสตร์การสื่อสารของชาตินั่นก็คือไปรษณีย์กลาง บางรัก ที่เนรมิตพื้นที่บริเวณโถงชั้น 1 และลานด้านนอกให้เป็นจักรวาลที่รวมเอาความทรงจำจากอดีต สู่ปัจจุบัน และในอนาคตของไปรษณีย์ไทยมาไว้ในงานเดียว ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 พ.ย.-3 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา

แสตมป์บริติชกีอานาที่แพงที่สุดในโลกมูลค่า 300 ล้านบาท
แสตมป์บริติชกีอานาที่แพงที่สุดในโลกมูลค่า 300 ล้านบาท

พี่บิ๊กเล่าให้ฟังต่อว่า ไฮไลต์ที่เราภูมิใจนำเสนอคือ นิทรรศการ POST Gallery 140 เรื่องดีต่อใจโดยมีเวิร์สต่างๆ ของ POST ให้เยี่ยมชม ซึ่งจะเห็นว่าประวัติศาสตร์ของไปรษณีย์ไทยตั้งแต่เริ่มต้นมาจนถึงปัจจุบัน มีการพัฒนาขึ้นมาอย่างไรบ้าง มีความเปลี่ยนแปลงในรูปแบบใดบ้าง และปัจจุบันมีอะไรที่พร้อมให้บริการกับประชาชนชาวไทย และอะไรจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตก็จะมีสิ่งที่แสดงอยู่ในงานนี้

แสตมป์มังกร 500 Mon ที่แพงที่สุดในเอเชียเพราะพิมพ์ตัวหนังสือกลับหัวมูลค่า 200 ล้านบาท
แสตมป์มังกร 500 Mon ที่แพงที่สุดในเอเชียเพราะพิมพ์ตัวหนังสือกลับหัวมูลค่า 200 ล้านบาท

ความพิเศษของงานที่ทำให้ผู้เข้าร่วมชมงานทุกคนไม่ว่าจะไทยจะเทศเพศใดก็ตามต้องทึ่งกันหมด

ตามที่พี่บิ๊กบอกก็คือ ไปรษณีย์ไทยได้นำแสตมป์ซึ่งมีมูลค่าสูงสุดในโลกคือ แสตมป์บริติชกีอานามูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ที่เหลือเพียงดวงเดียวในโลก ส่งตรงจากประเทศอังกฤษ ซึ่งมาพร้อมกับแสตมป์อีกดวง ซึ่งมูลค่าสูงสุดในเอเชียคือ แสตมป์มังกร 500 Mon พิมพ์กลับหัวมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแสตมป์ทั้งสองดวงนี้ไม่เคยจัดแสดงพร้อมกันในนิทรรศการใดๆ มาก่อน ตลอดจนพันธบัตรทองคำ เงินกู้เพื่อชาติ พ.ศ. 2485 ที่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 2 แท่งในโลก มูลค่า 50 ล้านบาท และที่สำคัญยังมีแสตมป์ที่เป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย คือ แสตมป์ชุดโสฬศ ซึ่งเป็นแสตมป์ดวงแรกของไทย และแม่พิมพ์ไปรษณียบัตรแผ่นแรกของไทย อายุ 140 ปี มาจัดแสดงพร้อมๆ กันให้ได้ว้าวตลอดกันทั้งงาน

“Verse of Love” 140 ปีที่อยู่ใกล้เธอ
“Verse of Love” 140 ปีที่อยู่ใกล้เธอ

...เมื่อพื้นที่แห่งนี้คือจักรวาลแห่งความสุข “Verse of Love” 140 ปีที่อยู่ใกล้เธอ จึงเป็นอีกหนึ่งเวิร์สถูกนำมาถ่ายทอดให้เห็นมวลของความสุขที่ขับเคลื่อนโดยผ่านตู้ไปรษณีย์ไทยและพี่ไปรฯ ของทุกคน เพราะไม่ว่าคุณจะจ่าหน้าจดหมายหรือพัสดุได้สุดโต่งขนาดไหน ส่งของที่แปลกประหลาดอย่างไรก็ยังไม่เกินความสามารถของพี่ไปรฯ หรือแม้กระทั่งคุณประสบปัญหาต้องการความช่วยเหลือเมื่อพี่ไปรฯ อยู่หน้าบ้าน เขาก็จะแปลงร่างกลายเป็นช่างสามัญประจำบ้านของคุณท่านทันที อย่างที่พี่บิ๊กบอกไว้สำหรับการเป็น Companionship Navigator ที่จะมาตอกย้ำภาพลักษณ์และตัวตนของไปรษณีย์ไทยให้อยู่คู่กับคนไทยตลอดไป

ผู้คนต่างร่วมชมงานและทำกิจกรรมกันอย่างคึกคัก
ผู้คนต่างร่วมชมงานและทำกิจกรรมกันอย่างคึกคัก

“การเป็น Companionship มันคือความเป็นเพื่อน แต่การเป็นเพื่อนอย่างเดียวแล้วไม่ทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้นมันก็ไม่ค่อยดี ดังนั้น เราจึงต้องเป็นทั้งเพื่อนและเป็น Navigator ด้วย ซึ่งหมายถึงคนที่นำทางไปสู่ความสำเร็จ อย่างที่ผมบอกว่าหน้าที่เราคือการส่งมอบการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านโครงข่ายไปรษณีย์ นั่นคือความเป็นผู้นำทางและการเป็นเพื่อนก็เกิดจากการเอาใจใส่ต่อผู้อื่น (Human Touch) ซึ่งเรามีกับชุมชนมาเป็นเวลานาน และความคุ้นเคยนี้เป็นจุดแข็งและแตกต่างของไปรษณีย์ไทย”

โซนร้านจำหน่ายตราไปรษณียากรต่างประเทศ
โซนร้านจำหน่ายตราไปรษณียากรต่างประเทศ

พี่บิ๊ก ให้เหตุผลที่ต้องตอกย้ำความเป็น Companionship Navigator ด้วยว่า เมื่อเราพิจารณาระบบการดูแลลูกค้า (Customer Retention Management : CRM) ก็จะทำให้เราดูแลลูกค้าคนนี้ได้ดีขึ้น แต่ไม่ได้ทำให้เกิดความเป็นเพื่อนรู้เพียงแต่ว่าเขาชอบอะไร แต่เขากลับไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเรา และเราเป็นใครถึงกลับไปบอกเขาว่าชีวิตของคนคนนี้ชอบแบบนี้ โดยไม่ได้มีความลึกซึ้งในเรื่องความสัมพันธ์ แต่ไปรษณีย์ไทยมีตรงนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ CRM ไม่สามารถที่จะเติมเต็มได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าไปรษณีย์ไทยไม่ได้มี CRM แต่ไปรษณีย์ไทยของเราทำเหนือขึ้นไปกว่านั้น

Dear Future Me ออกแบบโปสการ์ดและเขียนข้อความส่งถึงตัวเองในปี 2024
Dear Future Me ออกแบบโปสการ์ดและเขียนข้อความส่งถึงตัวเองในปี 2024

“ในสิ่งที่เป็นความสัมพันธ์หรือ Companionship เราได้ส่งต่อรุ่นสู่รุ่นจากพ่อสู่ลูก พ่อแม่อยู่ไปรษณีย์ลูกก็มาทำงานไปรษณีย์ เพราะฉะนั้นการถ่ายทอดในเรื่องของการทำงาน เรื่องของวัฒนธรรมองค์กรนี้มันมีมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น อย่างที่ผมบอกว่าเราเติบโตมาจากสังคมไทยที่อยู่ด้วยกันอย่างครอบครัว มีอะไรที่เราสามารถทำให้ได้เรายินดีทำซึ่งในคลิปต่างๆ จะเห็นพี่ไปรฯ ทำหน้าที่หลายอย่างที่ไม่ใช่แค่คนส่งจดหมายเท่านั้น แต่ยังสามารถเป็นช่างซ่อม Router อินเทอร์เน็ตให้ ทำหน้าที่เป็นคนจับงูให้ เพราะบังเอิญว่าพี่ไปรฯ คนนั้นกลางคืนทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครกู้ภัย หรือแม้แต่เอาร่มมากางบนกล่องบรรจุต้นไม้ที่มีคนเขียนบอกไว้ว่าระวังไม่ให้โดนแดด ซึ่งจุดนี้ พี่ไปรฯ เขาคิดของเขาเอง มันคือความใส่ใจที่เรามองว่าของของเขา ก็เหมือนของของเรา ที่ต้องดูแล ดังนั้น เราจึงเป็นมากกว่าคนส่งของ”

ขอส่งโปสการ์ดถึงตัวเองในเดือนพฤษภาคมปี 2024 ก็แล้วกัน
ขอส่งโปสการ์ดถึงตัวเองในเดือนพฤษภาคมปี 2024 ก็แล้วกัน

...ภายในงาน POSTiverse ยังเปิดพื้นที่ให้ผู้เข้าร่วมชมงานได้มีส่วนร่วมตามสโลแกน “ส่งสุขไปทุกเวิร์ส” โดยได้เปิดเวิร์ส Dear Future Me ที่สร้างพื้นที่ให้ผู้คนได้มาเขียนเรื่องราวถึงตนเองในปี 2024 ซึ่งผู้เข้าร่วมงานเมื่อลงทะเบียนแล้วจะได้โปสการ์ดสำหรับเขียนถึงตัวเองคนละ 1 ใบ ซึ่งสามารถส่งได้ทั้ง 12 เดือนตามต้องการ ซึ่งเดือนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือเดือนมกราคม

กระเป๋าผ้าที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก
กระเป๋าผ้าที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก

ขณะเดียวกันก็ยังมีพื้นที่สร้างสรรค์ไอเดียกระเป๋าสุดชิกที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก ผ่านกิจกรรม Workshop Canvas Painting Bag โดยหลังจากเพลิดเพลินกับการออกไอเดียบนกระเป๋าผ้าแล้วผู้เข้าร่วมงานยังสามารถสนุกสนานกับเครื่องดื่ม Mocktail From Mailman ที่สร้างสรรค์รสชาติเฉพาะตัวเพื่อร่วมเฉลิมฉลอง 140 ปี จักรวาลความสุขของไปรษณีย์ไทยให้ได้ลิ้มลองความสุขที่สดชื่นกันใน 3 รสชาติทั้ง Light Up The Party ซึ่งหมายถึง จุดเริ่มต้นของการเฉลิมฉลอง, Crescendo Moments ซึ่งเป็นตัวแทนความสุขที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น และ Timeless Paradise ที่สื่อความหมายของความสนุกความสุขที่ไม่มีวันสิ้นสุดเหมือนกับไปรษณีย์ไทยที่อยู่คู่กับคนไทยมาถึง 140 ปี

Mocktail From Mailman ดื่มด่ำความสุขอย่างไม่จบสิ้น
Mocktail From Mailman ดื่มด่ำความสุขอย่างไม่จบสิ้น

และไม่ใช่เพียงแค่นี้ ไปรษณีย์ไทยยังเอาใจนักสะสมโดยร่วมมือกับศิลปินชื่อดังถึง 13 ท่าน ออกแบบอาร์ตทอยคอลเลกชันไปรษณีย์ไทยครั้งแรกของโลก ซึ่งมีจำหน่ายเฉพาะในงานเท่านั้น โดยผลงานแต่ละชิ้นจะมีคาแรกเตอร์ที่ผสมผสานความเป็นไปรษณีย์ไทยเข้าไป เช่น อัตลักษณ์ของบุรุษไปรษณีย์ หรือบางคาแรกเตอร์ก็จะมาในรูปแบบผู้ส่งของ เป็นต้น

อาร์ตทอยไปรษณีย์ไทยครั้งแรกของโลกที่คอลแลปกับ 13 ศิลปินดังของเมืองไทย
อาร์ตทอยไปรษณีย์ไทยครั้งแรกของโลกที่คอลแลปกับ 13 ศิลปินดังของเมืองไทย

พี่บิ๊ก บอกต่อว่า ไปรษณีย์ไทยปีนี้มีอายุ 140 ปีแล้ว แต่เราจะกลับมาเป็นเด็กอายุ 14 ปีอีกครั้ง เพื่อให้เข้าถึงคนทุกวัยทุกเจน และจะเป็น 14 ที่มีประสบการณ์ โดยจะเน้นการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ด้วยการปรับการให้บริการที่กระฉับกระเฉงยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันนี้ไปรษณีย์ไทยได้เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุด ตลอดจนมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ อาทิ การผลิตคริปโตแสตมป์เพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ง่ายขึ้น การศึกษาและปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ ที่ตอบโจทย์ตามกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันทั้งกลุ่มอายุ รวมไปถึงกลุ่มอาชีพ เพื่อให้เราสามารถบริหารจัดการกลุ่มลูกค้าได้ดีมากยิ่งขึ้น

ใครๆ ก็ชอบ Workshop กระเป๋าผ้า
ใครๆ ก็ชอบ Workshop กระเป๋าผ้า

ขณะนี้ไปรษณีย์ไทยกำลังก้าวย่างเข้าสู่ปีที่ 141 ภายใต้วิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่ต้องการจะส่งมอบความสุขให้กับทุกคนด้วยความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้ไปรษณีย์ไทยเป็นโครงข่ายที่เชื่อมโยง และส่งมอบการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านโครงข่ายไปรษณีย์ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ซึ่งหมายความว่าคนที่เข้ามามีส่วนร่วมในเครือข่ายนี้ ก็จะได้รับการส่งมอบความยั่งยืนกลับไปด้วย

“พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เวลาที่ธุรกิจเขาจะเติบโต เขาก็ต้องส่งของให้กับผู้ค้า และถ้าของของเขาถูกส่งในระยะเวลาที่สั้นและเร็ว ของไม่แตกหักเสียหาย และปลายทางเก็บเงินได้เร็ว นั่นหมายความว่าธุรกิจของเขาก็จะเติบโตได้เร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไปรษณีย์ไทยให้ความสำคัญในการทำโครงข่ายให้แข็งแกร่ง ให้สามารถส่งมอบความเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับคนที่เข้ามาร่วมกับเราได้”

POST Gallery 140 ปีเรื่องดีต่อใจ
POST Gallery 140 ปีเรื่องดีต่อใจ

พี่บิ๊ก ในฐานะซีอีโอที่กุมโครงข่ายของจักรวาลไปรษณีย์ไทย ยังบอกถึงอนาคตข้างหน้าด้วยว่า ไปรษณีย์ไทยคือโครงข่าย ดังนั้น การส่งมอบการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยภารกิจขนส่งที่เป็นหลักผ่านโครงข่ายนี้ ทำให้เรารู้ Data ในแต่ละพื้นที่เพื่อต่อยอดได้ในอีกหลากหลายธุรกิจ โดยวันนี้ไปรษณีย์ไทยเป็น Logistic Company แต่ในอนาคตไปรษณีย์ไทยกำลังจะก้าวไปสู่ Information Logistic ที่ใช้ข้อมูลในการบริหารจัดการธุรกิจให้ดีขึ้นได้ในทุกภาคส่วน

...แม้ว่างาน POSTivers ส่งสุขไปทุกเวิร์ส 140 ไปรษณีย์ไทยฯ จะจบลงไปแล้ว แต่เราเชื่อแน่ว่ามวลของความสุขที่ผู้เข้าร่วมงานได้รับจากจักรวาลไปรษณีย์ไทยจะยังคงอยู่ และตั้งตารอการเฉลิมฉลองในปีต่อๆ ไปพร้อมกับการเติบโตของโครงข่ายไปรษณีย์ที่พร้อมจะก้าวไปกับทุกคน เคียงข้างกันตลอดไปอย่างยั่งยืน

จักรวาลความสุขที่ส่งมอบโดยไปรษณีย์ไทย
จักรวาลความสุขที่ส่งมอบโดยไปรษณีย์ไทย