วันที่ 14 ธ.ค.66 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรมเนื่องใน “วันสิ่งแวดล้อมไทยและวันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ ปี 2566” พร้อมชวนคนไทย ช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ด้วยแนวคิด “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด” โดยมีพลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดงาน และพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติด้านสิ่งแวดล้อม ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 2-4 ชั้น 4 โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการ และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ

พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า นับจากจุดเริ่มต้นของวันสิ่งแวดล้อมไทย ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำรัสให้การดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยงานที่ดูแล อนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้น้อมนำตามแนวพระราชดำรัสของพระองค์ท่านมาโดยตลอด ทั้งยังส่งเสริมให้ประชาชนทุกคนมีจิตสำนึกและมีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อดูแลรักษาโลกใบนี้ของพวกเราไว้ให้สืบทอดต่อไปจนถึงอนุชนรุ่นหลัง และนอกจากวันนี้จะเป็นวันสิ่งแวดล้อมไทยแล้วยังเป็นวันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ ซึ่งผมต้องขอขอบคุณพี่น้องเครือข่าย ทสม. ที่มีส่วนร่วมและประสานกลไกในการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชนให้เกิดความเข้มแข็ง โลกใบเดียวของเราส่งสัญญาณแล้วว่า ปี 2566 กำลังจะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ว่า เป็นปีที่ร้อนที่สุด ถึงเวลาแล้วครับที่เราทุกคนจะต้องร่วมกันลงมือทำ เพื่อให้ลูกหลานของเรามีโลกใบนี้ที่อาศัยอยู่ได้ต่อไป โดยประเทศไทยได้ให้คำมั่นสัญญาต่อประชาคมโลกว่า ประเทศไทยได้ทำตามสิ่งที่เราให้คำมั่นไว้อย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องของเราทุกคน รวมถึงประชาชนคนไทยทุกคนที่จะมีส่วนร่วมในการปกป้อง ดูแล รักษาสิ่งแวดล้อมและร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนเรื่องใกล้ตัวให้เป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องมีส่วนรับผิดชอบ ปรับเปลี่ยนทัศนคติและรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งรับ ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ วันนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคน ร่วมมือร่วมใจช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065 ด้วยแนวคิด “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด”

สำหรับในปีนี้ มีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ พิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ โครงการชุมชนปลอดขยะ ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รางวัลชนะเลิศโครงการโรงเรียนปลอดขยะ ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รางวัลโครงการชุมชนปลอดขยะ และโครงการโรงเรียนปลอดขยะ ปี 2566 รอบระดับประเทศ รางวัล ทสม. และเครือข่าย ทสม. ดีเด่นระดับประเทศ ประจำปี 2566 พร้อมการบรรยายในหัวข้อ Talk to Change “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด” โดยผู้แทนจากภาคส่วนต่างๆ ที่ขับเคลื่อนงานด้านสิ่งแวดล้อม และการจัดแสดงนิทรรศการของเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และเครือข่าย ทสม.

ทั้งนี้ การจัดงานครั้งนี้ได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลในเรื่องการเดินทางมาร่วมงานของผู้เข้าร่วมและวิทยากร การใช้พลังงานไฟฟ้าในการจัดประชุม ปริมาณขยะที่เกิดขึ้นจากการจัดงาน การจัดเลี้ยงอาหารและเครื่องดื่ม และนำมาประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการจัดงานแบบอนุมาน พบว่า มีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวม 10 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และได้รับคาร์บอนเครดิตจากโครงการ BSE-BPI Grid Connected Solar PV Project ของ บริษัท บีซีพีจี จำกัด เพื่อนำมาชดเชยกับการปลดปล่อยคาร์บอนของงานนี้ ทำให้การจัดงานครั้งนี้มีการปลดปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์