นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขอรับรองการยุติการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวี ซิฟิลิส และไวรัสตับอักเสบบีจากแม่สู่ลูก ครั้งที่ 4 ว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้วันที่ 1 ธ.ค.ของทุกปี เป็นวันเอดส์โลก เพื่อให้ทุกประเทศทั่วโลกร่วมรณรงค์สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเอดส์ และย้ำเตือนว่าเอชไอวียังคงอยู่ ประเทศไทยได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ ปี 2560-2573 มีเป้าหมาย คือไม่ติด ไม่ตาย ไม่ตีตรา โดยจะลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ไม่เกิน 1,000 คนต่อปี ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเอชไอวีไม่เกิน 4,000 รายต่อปี และลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวีและเพศภาวะลงเหลือไม่เกินร้อยละ 10 ทั้งนี้ ที่ผ่านมา

กรมอนามัยให้ความสำคัญกับการดำเนินงานป้องกันการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูก โดยได้รับรางวัลจากองค์การอนามัยโลกในเวทีการประชุม Global Validation Advisory Committee ณ นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งไทยเป็นประเทศที่ 2 ของโลกในการประกาศความสำเร็จดังกล่าวเป็นครั้งที่ 3 ในปี 2565 นับจากครั้งที่ 1 ปี 2559 ครั้งที่ 2 ปี 2561 ทั้งนี้ ประเทศไทยยังคงรักษาคุณภาพในการดำเนินงานเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในทารกแรกเกิดที่เกิดจากหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวีให้ต่ำกว่าร้อยละ 2 สามารถป้องกันเด็กที่เกิดจากหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวีขณะตั้งครรภ์ได้ปีละ 3,500 คน ทำให้มีเด็กทารกที่ติดเชื้อเอชไอวีต่ำกว่า 50 รายต่อปี เนื่องจากไทยมีความเข้มแข็งของระบบบริการสาธารณสุข โดยเฉพาะงานอนามัยแม่และเด็ก

นพ.เอกชัยกล่าวด้วยว่า การลดการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกต้องอาศัยความร่วมมือครอบครัว ชุมชน สังคม และสร้างความเท่าเทียม โดยสนับสนุนหญิงตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอด รวมทั้งลูกและครอบครัวที่ติดเชื้อเอชไอวีให้ได้รับการดูแลอย่างครอบคลุมและต่อเนื่อง ดังนี้ 1.ฝากครรภ์โดยเร็วก่อน 12 สัปดาห์ เพื่อได้รับการดูแลสุขภาพตนเองและลูกในครรภ์ 2.รับการปรึกษาพร้อมสามี เพื่อตรวจหาโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม และตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี 3.หากหญิงตั้งครรภ์และคู่มีผลการตรวจเลือดเอชไอวีเป็นบวก จะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมโดยหญิงตั้งครรภ์จะได้รับยาต้านไวรัสที่มีฤทธิ์ประสิทธิภาพสูง (HAART) เพื่อป้องกันการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก และ 4.เด็กที่เกิดจากแม่ที่ติดเชื้อเอชไอวีจะได้รับยาต้านไวรัสที่มีฤทธิ์ประสิทธิภาพสูง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และได้รับนมผสมเพื่อทดแทนนมแม่นานถึง 18 เดือน.

...

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่