มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 66 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง (ศวอล.) ได้รับแจ้งจากคุณทิพย์อา จันทกุล กลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ดุหยงเกาะลิบง ว่าเวลาประมาณ 04.30 น. พบพะยูนเกยตื้นติดแห้งมีชีวิต บริเวณหน้าเขาบาตูปูเต๊ะ ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ห่างจากฝั่งประมาณ 500 ม. 

กรมทะเลและชายฝั่ง ส่งหน่วยบินสำรวจติดตาม "พะยูน" ที่เกยตื้นบริเวณเกาะลิบง จ.ตรัง เพื่อเฝ้าระวังการเกยตื้นซ้ำ จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้น พบว่าเป็นพะยูนตัวเต็มวัย มีความยาวประมาณ 250 ซม. สภาพอ่อนแรง เนื่องจากติดแห้ง เป็นระยะเวลานาน พบบาดแผลถลอกจากการเกยตื้นเล็กน้อย แต่พะยูนยังมีการตอบสนองดี พยายามตีหางว่ายลงทะเล

ทางเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ร่วมกับชาวบ้าน และกลุ่มอนุรักษ์ในพื้นที่ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากเกยตื้นเบื้องต้น จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทำการช่วยเหลือพะยูนเกยตื้นดังกล่าว โดยการขนย้าย และนำพะยูนปล่อยลงสู่ทะเลได้อย่างปลอดภัย

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ ศวอล. ได้ลงพื้นที่ไปยังเกาะลิบงเพื่อสำรวจ ติดตาม และเฝ้าระวังการเกยตื้นซ้ำของพะยูนตัวดังกล่าว ในระหว่างวันที่ 25-26 พฤศจิกายน 2566 โดยใช้อากาศยานไร้คนขับ (UAV) แบบ Multi-rotor บินสำรวจบริเวณหน้าสะพานหอชมพะยูน และหน้าเขาบาตูปูเต๊ะ ซึ่งใกล้กับจุดที่พบการเกยตื้น

โดยผลการสำรวจพบพะยูนขนาดโตเต็มวัย 1 ตัว กำลังแสดงพฤติกรรมหาอาหาร ว่ายน้ำและทรงตัวปกติ การหายใจปกติ วัดอัตราการหายใจได้ 3 ครั้ง/ 5 นาที ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้าน และเครือข่ายในพื้นที่ คาดว่าเป็นพะยูนตัวเดียวกัน ซึ่งสาเหตุการเกยตื้นนั้น เนื่องจากพะยูนตัวดังกล่าวเข้ามากินหญ้าทะเลใกล้ชายฝั่ง และว่ายน้ำลงทะเลไม่ทันในช่วงน้ำทะเลลง

...

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ศวอล. ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ชุมชนชายฝั่ง และกลุ่มอนุรักษ์ในพื้นที่ให้เฝ้าระวังการกลับมาเกยตื้นซ้ำของพะยูนตัวดังกล่าว นอกจากนี้ หากใครพบเห็นสัตว์ทะเลหายากเกยตื้นให้รีบแจ้งมายังกรม ทช. ที่เป็นหน่วยงานหลัก ในการช่วยเหลือ และฟื้นฟูสัตว์ทะเลเหล่านี้ หรือแจ้งสายด่วนพิทักษ์ป่า และรักษาทะเล โทร.1362

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง