คุยกันเรื่องนักข่าวตกข่าวใหญ่ ตกงาน ในโต๊ะข่าวตัว T ตึกเก่าไทยรัฐ เมื่อกว่าสามสิบปีที่แล้ว ผมก็นึกถึงงาน “ตกหมึก” อาชีพเก่าตอนอยู่เรืออวนลาก

ช่วงเวลาจำเจอยู่ก้นอ่าว (ตัว ก.) วนเวียนหาปลาหมึก ตอนนั้น “เจ๊ปุ๊ย” แม่ค้าซื้อปลาหาดเจ้า (สำราญ) ให้ราคาดีกว่า รอดักซื้อเรา ก่อนไปขายให้สะพานปลาหัวหิน

เรืออวนลากได้ปลาหมึกมาก ไต้ก๋งเขาก็มักลองซ้ำรอยเก่า... ปลาหมึกยังมากหรือมากกว่า ถ้าหมึกราคาดีไต้ก๋งถือว่าจับทางฝูงปลาหมึกได้...ก็ลากวนไปวนมาอยู่บริเวณนั้น

ถ้าไต้ก๋งหรือนายท้ายมีวิชาหาจุดเรืออยู่ในแผนที่ได้...กู้อวนรอบสุดท้าย “น้ำดำ” เราก็มักหันหัวเรือไปหาฝั่ง...ที่ตั้งใจ เรือไต๋ (ไต้ก๋ง) คิ้ว มักหันไปหาดเจ้า เรือนาคเทวี เฮียวิชัย ก็หันหัวเรือไปหาเกาะสีชัง

แรงฉุดของไต๋เรืออวนลากมักจะอยู่ที่แม่ค้าซื้อปลา เรือแม่กลองรุ่นผม เฮียเอ๊ยวนเวียนอยู่ใกล้เกาะแสมสาร เรือเฮียพรมักลัดเลาะใกล้เกาะเสม็ด เพราะติดใจแม่ค้าปลาบ้านเพ

เช้ามืดไต๋ก็สั่งนายท้ายตั้งเข็มทิศย้อนกลับไปหา “เบาะปลาหมึก” หากันไปจนปลาหมึกหมด จึงเปลี่ยนเข็มไปหาเบาะปลาอื่น หรือได้ข่าวปลาดีขึ้นที่อื่น

แต่มีกรณีที่เจอเบาะปลาหมึกใหญ่ ไต๋เรือมักสั่งทอดสมอ...ลอยเรือนอน เช้าก็ทิ้งอวนหาปลาหมึกต่อ

กลางอ่าวไทยค่อนใกล้ไปทางเกาะสีชัง...คืนหนึ่งเรือผมทอดสมอ...นอน ตื่นขึ้นมากลางดึก ตกใจไฟเรือตกหมึกหลายร้อยลำ สว่างไสวยังกะตลาดโต้รุ่งเปิดกลางทะเล

เรือตกหมึกเป็นเรือลำเล็กๆใช้ไฟเรียกหมึก แล้วใช้สวิงเล็กเบา ตักเอาทีละตัว

ข่าวหมึกขึ้นย่านไหนเมื่อเข้าหูคนเรือตกหมึกด้วยกัน เขาก็ส่งข่าวแล้วก็ชักชวนกันไป

หลายสิบปีผ่านไปไต๋วิชัยขึ้นจากเรืออยู่เกาะสีชัง...ส่งข่าวชวน ให้ไปลงเรือไดร์หมึกกลางทะเล ชื่อใหม่เรือไดร์หมึก ไม่แค่ใช้ไฟสว่างกว่าเรือตกหมึกสมัยเก่า ยังปรับกระบวนท่าเป็นใช้อวนตลบหมึกทีเดียวเป็นฝูงๆ

...

ผมโม้ชวนเจ๊กบ (จินดา นาคประเสริฐ) หาเวลาชวนกันไปดูเขาไดร์หมึกกันสักคืน...ชวนกันแล้วตั้งท่ากันแล้วหลายครั้งหลายปี จนเฮียวิชัยตาย เจ๊กบก็ตาย...จนถึงวันนี้ผมยังไม่ตาย แล้วก็ยังไปไม่ถึงเรือไดร์หมึกเลยสักที

ความรู้ที่ได้จากวิชาหาปลาหมึก...หมึกชอบแสงไฟ คนจึงใช้เป็นแสงไฟล่อปลาหมึก วันนี้ผมเพิ่งได้ความรู้ใหม่ อาจารย์ ส.พลายน้อย เล่าไว้ในคำนำนิทานชาวเกาะ (สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ พ.ศ.2551)

กาลครั้งหนึ่ง นก ปู และหนู ชวนกันลงเรือแคนูออกไปเที่ยวทะเล แต่ไม่ได้ชวนนกกินปลาไปด้วย นกกินปลาโกรธ ตามไปดำน้ำเอาจะงอยปากเจาะท้องเรือแคนูเป็นรูจนเรือจม

นกบินหนีไปได้ ปูยังมีโขดหินให้ไต่ประคองชีวิต เหลือแต่หนูว่ายน้ำไม่เป็น ตะเกียกตะกายด้วยความตกใจ บังเอิญปลาหมึกยักษ์ใจดีตัวหนึ่งผ่านมา จึงให้หนูนั่งบนหัวแล้วพาไปส่ง

พอถึงฝั่ง หนูกระโดดขึ้นแล้ว แทนที่จะขอบใจ มันกลับร้องบอกว่า “ปลาหมึกยักษ์เอ๋ย เจ้ารู้หรือไม่ เราฝากอะไรเป็นที่ระลึกบนหัวเจ้า”

ปลาหมึกยักษ์เพิ่งรู้หนูถ่ายอุจจาระรดหัว ก็แค้นใจ อาฆาตหนูจอมอกตัญญูมานับแต่นั้น

เรื่องนี้เป็นนิทาน เล่าขานกันในหมู่ชาวเกาะตองกา...(แถวๆฟิลิปปินส์ ล่ะกระมัง) ชาวเกาะจึงปั้นรูปหนูเป็นเหยื่อล่อ ลากไปในทะเล พอปลาหมึกยักษ์เห็น มันก็จะปรี่เข้ามาเอาหนวดยาวๆ พันรูปหนูเอาไว้เป็นการล้างแค้น

ชาวเกาะตองกาก็เลยมีวิธีตกปลาหมึกยักษ์ไปขายเป็นอาชีพขึ้นหน้าขึ้นตามาจนบัดนี้

ใครที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นหนู เผลอไปเนรคุณขี้รดหัว (ปลาหมึก) ยักษ์เอาไว้...ควรระมัดระวังตัว การเมืองครั้งนี้เป็นทีของ (ปลาหมึก) ยักษ์จะตามมาเอาคืน ที่เป็นข่าวตอนนี้ ก็แค่ชิมลาง ลงจากชั้น 14 เมื่อไหร่ เจอกันอีกที แบบเต็มไม้เต็มมือ.

กิเลน ประลองเชิง

คลิกอ่านคอลัมน์ "ชักธงรบ" เพิ่มเติม