กรมอนามัยออกโรงเตือนคนกรุงเทพฯและปริมณฑล ฝุ่นพิษเข้าขั้นวิกฤติเป็นระดับ 4 สีส้ม เหตุเพราะอากาศนิ่ง เผยเป็นระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ กลุ่มเสี่ยงควรลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น แนะติดตามสถานการณ์ผ่านเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ Life Dee รวมทั้งสายด่วนกรมอนามัย 1478 ขณะที่ กทม.ระบุฝุ่นเกินมาตรฐานแล้ว 37 พื้นที่
เตือนคนกรุงเทพฯและปริมณฑลรับภัยฝุ่นพิษ วันที่ 21 ต.ค. พญ.อัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล รักษาราชการ แทนอธิบดีกรมอนามัย เผยว่า ขณะนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝนและจะเข้าฤดูหนาว มีแนวโน้มความกดอากาศที่สูงขึ้น อากาศไม่ถ่ายเทจะทำให้ฝุ่นละอองสะสมและเพิ่มสูงขึ้น จากรายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศของศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ พบว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลพบค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน จากการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 จะอยู่ในระดับสีส้มอีก 1-2 วัน เนื่องจากสภาพอากาศนิ่ง
พญ.อัจฉรากล่าวต่อว่า ปัจจุบันประเทศไทยปรับปรุงค่ามาตรฐานฝุ่นละออง PM2.5 ในบรรยากาศ เฉลี่ย 24 ชั่วโมง จากเดิม 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็น 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รวมถึงปรับระดับการแจ้งเตือนความเสี่ยงต่อสุขภาพ ส่งผลให้การเฝ้าระวังและการแจ้งเตือนรวมถึงการดูแลสุขภาพประชาชนมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคำแนะนำในการปฏิบัติตนในแต่ละระดับสีของฝุ่น PM2.5 ดังนี้ 1.สีฟ้า ระดับดีมาก (0-15 มคก./ลบ.ม.) ประชาชนทุกคนทำกิจกรรมได้ตามปกติ 2.สีเขียว ระดับดี (15.1-25 มคก./ลบ.ม.) ประชาชนทั่วไปยังทำกิจกรรมได้ตามปกติ สำหรับกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง และเฝ้าระวังสุขภาพตนเอง
รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัยกล่าวต่อว่า 3. สีเหลือง ระดับปานกลาง (25.1-37.5 มคก./ลบ.ม.) ประชาชนทั่วไปควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และเฝ้าระวังสุขภาพตนเอง กลุ่มเสี่ยงควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นทุกครั้งเมื่ออยู่กลางแจ้ง ผู้มีโรคประจำตัวควรเฝ้าระวังสุขภาพตนเอง หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ 4.สีส้ม ระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (37.6-75 มคก./ลบ.ม.) ประชาชนทั่วไป ควรลดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นทุกครั้งเมื่ออยู่กลางแจ้ง กลุ่มเสี่ยงควรลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น และสังเกตตนเอง หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ และผู้มีโรคประจำตัว ควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม และ5.สีแดง ระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (75.1 มคก./ลบ.ม.ขึ้นไป) ประชาชนทุกคนงดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง อยู่ในห้องปลอดฝุ่น สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นทุกครั้งเมื่ออยู่กลางแจ้ง หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ Life Dee และสายด่วนกรมอนามัย 1478
...
ต่อมาช่วงเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล สารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐาน ได้แก่ ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจพบค่าระหว่าง 16-54 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) เกินมาตรฐานที่บริเวณแขวงหิรัญรูจี เขตธนบุรี, ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด, สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา, สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด, ริมถนนกรุงเกษม เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย, ริมถนนตรีมิตร วงเวียนโอเดียน เขตสัมพันธวงศ์, ริมถนนพระรามที่ 4 หน้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน, ริมถนนนราธิวาส เขตบางรัก, ริมถนนพระราม 3 เขตยานนาวา, ริมถนนบางนา-ตราด เขตบางนา, ริมถนนพหลโยธิน แยก ม.เกษตรศาสตร์ เขตจตุจักร, ริมถนนรัชดาภิเษก-ท่าพระ เขตธนบุรี, ริมถนนเจริญนคร เขตคลองสาน, ริมถนนแยกท่าพระ เขตบางกอกใหญ่, ริมถนนซอยนิคมบ้านพักรถไฟธนบุรี 5 เขตบางกอกน้อย, ริมถนนพุทธมณฑล 1 เขตตลิ่งชัน, ริมถนนคลองทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา, ริมถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ, ริมถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม, ริมถนนเอกชัย เขตบางบอน, ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร, ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ, ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร
เช่นเดียวกับศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร สรุปผลการตรวจวัด PM2.5 ณ เวลา 07.00 น. ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ได้ในช่วง 25.8-57.8 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับเมื่อวานในช่วงเวลาเดียวกัน และพบว่าเกินมาตรฐาน (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) อยู่ในระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 37 พื้นที่ อาทิ 1.เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า มีค่าเท่ากับ 57.8 มคก./ลบ.ม. 2.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 มีค่าเท่ากับ 56.9 มคก./ลบ.ม. 3.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 มีค่าเท่ากับ 56.9 มคก./ลบ.ม. 4.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา มีค่าเท่ากับ 55.8 มคก./ลบ.ม. 5.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย มีค่าเท่ากับ 52.6 มคก./ลบ.ม.
6.เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอยถนนเซนต์หลุยส์ มีค่าเท่ากับ 52.0 มคก./ลบ.ม. 7.เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ มีค่าเท่ากับ 50.3 มคก./ลบ.ม. 8.เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีค่าเท่ากับ 49.5 มคก./ลบ.ม. 9.เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) มีค่าเท่ากับ 48.8 มคก./ลบ.ม. 10.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน มีค่าเท่ากับ 48.3 มคก./ลบ.ม.
11.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ มีค่าเท่ากับ 47.8 มคก./ลบ.ม. 12.เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ มีค่าเท่ากับ 47.6 มคก./ลบ.ม. 13.เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด มีค่าเท่ากับ 47.3 มคก./ลบ.ม. 14.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี มีค่าเท่ากับ 47.0 มคก./ลบ.ม. 15.สวนบางแคภิรมย์ เขตบางแค มีค่าเท่ากับ 46.9 มคก./ลบ.ม. เป็นต้น แนะนำควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่