5 องค์กรธุรกิจยักษ์ใหญ่จับมือเปิดมหกรรมความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน “Sustainability Expo 2023” ภายใต้แนวคิด “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” พร้อมนำเสนอนิทรรศการโลกแห่งอนาคตที่ยั่งยืนในทุกมิติ กระตุ้นคนไทยร่วมกันสร้างโลกให้ดีกว่าเดิม ด้านเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนาย้ำเป็นหน้าที่ของคนทุกคน เพื่อรักษาทรัพยากรส่งต่อให้ลูกหลานในอนาคต

ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 5 องค์กรธุรกิจต้นแบบด้านความยั่งยืนระดับโลก ได้แก่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เอสซีจี, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จับมือกับเครือข่ายความร่วมมือไปยังองค์กรเอกชนที่มีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับประเทศและระดับโลก จัดงานมหกรรมความยั่งยืน ประจำปี 2023 (Sustainability Expo 2023) นำเสนอนิทรรศการโลกแห่งอนาคตที่ยั่งยืน ทั้งเรื่องอาหาร สุขภาพ การใช้ชีวิตประจำวัน ไปจนถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ พลังงาน ความหลากหลายทางชีวภาพ บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ฯลฯ และโมเดลต้นแบบด้านความยั่งยืนมิติต่างๆของภาคธุรกิจทั้งในภูมิภาคอาเซียน และนานาชาติทั่วโลก ซึ่งได้รับความสนใจจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนนักเรียนนักศึกษา และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมชมงานเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวปาฐกถาเปิดงานว่า การที่โลกทุกวันนี้ มีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดี เพราะสามารถทำให้ผู้คนในโลกใช้ชีวิตด้วยความสะดวกสบายกันมากขึ้น แต่ถึงเวลาที่เราต้องมานั่งคิดกันว่าเราควรทำอะไรให้โลกใบนี้ดีกว่าเดิม เพราะในความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนี้ พวกเราได้ทำลายทรัพยากรดินน้ำลมไฟ ที่เป็นปัจจัยแห่งชีวิตสำหรับคนในอนาคตไปจนหมด เห็นได้จากในปีนี้ หลายพื้นที่ในโลกไม่สามารถบริหารจัดการรับมือกับภัยธรรมชาติได้เลย ทั้งไฟป่า น้ำท่วม แผ่นดินไหว หรือแม้แต่ประเทศไทย ที่จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นจาก 17 ล้านคน เป็น 70 ล้านคน ในเวลาไม่กี่สิบปี ขณะพื้นที่ประเทศไทยยังเท่าเดิม ทรัพยากรน้อยลงไม่เพียงพอกับความต้องการในประเทศทุกคนต่างแย่งกันใช้ ถึงเวลาแล้วที่พวกเราทุกคนต้องร่วมกันบริหารจัดการความยั่งยืนบนโลกอย่างถูกต้องและจริงจัง ไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่งอีกต่อไป เพื่อรักษาโลกใบนี้ เพื่อส่งต่อให้ลูกหลานในอนาคต

...

ด้านนายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานอำนวยการจัดงาน กล่าวว่า ในปีนี้งาน SX 2023 ได้รับความสนใจเข้าร่วมงานจากภาคีเครือข่ายที่ขยายวงกว้างขึ้น ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาคประชาสังคม ตลอดจนองค์กรระหว่างประเทศ โดยมีองค์กรที่มาร่วมจัดแสดงงานกว่า 200 องค์กรและมีวิทยากรที่จะมาร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนกว่า 400 คน นอกจากนั้น เรายังได้รับความสนับสนุนจากกรุงเทพมหานครที่ได้อนุญาตให้งาน SX 2023 จัดกิจกรรมในพื้นที่สวนเบญจกิติอีกด้วย นับเป็นความภาคภูมิใจของคณะผู้จัดงานที่ได้เห็นเครือข่ายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ขยายวงกว้างขึ้นเป็นลำดับ ในปีนี้เรามีความมุ่งหวังที่จะกระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ประกอบการและผู้บริโภคสู่การลงมือทำ ทั้งในมิติของสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมต่างๆมากมาย รวมถึงการจัดทำ application สะสมแต้ม เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับผู้เข้าชมงานในการร่วมทำกิจกรรมด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์งานด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกันต่อไปในอนาคต

เช่นเดียวกับกลุ่มผู้บริหารภาคธุรกิจต่างๆ อาทิ นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่
บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี และ นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ต่างกล่าวตรงกันว่า งาน Sustainability Expo ที่ได้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ด้วยความมุ่งมั่น และให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจบนหลักการความยั่งยืนมาโดยตลอด การมีส่วนร่วมกันทุกภาคส่วน ตั้งแต่ชุมชน โรงเรียน เอกชน ภาครัฐ จะสร้างสมดุลระหว่างด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนต้องตระหนักกับวิกฤติโลกเดือด และเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ด้วยการช่วยลดขยะ ใช้พลาสติกรีไซเคิล ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการใช้ทรัพยากร เพื่อให้ธรรมชาติมีสมดุลที่ดีเพื่อโลกที่ดีกว่า

สำหรับงานมหกรรมความยั่งยืน ประจำปี 2023 หรือ SX 2023 เป็นหนึ่งในนิทรรศการความยั่งยืน ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน มีภาคเอกชนชั้นนำต่างนำสุดยอดนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของมนุษย์ มาจัดแสดงในรูปแบบของนิทรรศการมัลติมีเดีย อาทิ ตัวอย่างธุรกิจยั่งยืนโลก แสดงกระบวนการผลิตใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ พร้อมความพยายามเพื่อกอบกู้ฟื้นฟูสภาพภูมิอากาศเพื่อบรรลุเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ นวัตกรรมรักษ์โลก ระบบบ้านอัจฉริยะ Smart Home ควบคุมทุกอย่างโดยผ่าน IoT (Internet of Tings) เปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่อยู่บ้าน ช่วยในการประหยัดพลังงาน ระบบ แพทย์ดิจิทัลทางไกล ช่วยคนไข้ที่อยู่ห่างไกล นวัตวิถีเพื่อชีวิตเท่าเทียม น่าอยู่ ปลอดภัย และยั่งยืน พบกับแบบบ้านพอเพียงเพื่อผู้ขาดแคลน แบบโครงสร้างเมืองใหม่เชื่อมถึงกันเต็มระบบ เป็นต้น มาจัดแสดงทุกวันที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างเวลา 10.00-20.00 น. จนถึงวันที่ 8 ต.ค.นี้

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่