วันที่ 8 ก.ย. 66 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ความเดือดร้อนของประชาชนผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรชาวสวนผลไม้ที่กำลังประสบปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ อันเป็นสภาพปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญในการบรรเทาปัญหาเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข และทำให้พี่น้องประชาชนมีความสมบูรณ์พูนสุขกันถ้วนหน้าอย่างยั่งยืน
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้ประสานสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นำโดย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ได้ช่วยซื้อผลผลิต “สละ” ที่พบว่าปีนี้มีจำนวนผลผลิตออกมาเป็นจำนวนมากจนเกิดภาวะสินค้าล้นตลาด ส่งผลทำให้พ่อค้าคนกลางกดราคา ที่จากเดิมเกษตรกรเคยขายได้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 500 บาท แต่เมื่อพ่อค้าคนกลางกดราคาจึงขายได้เพียงกิโลกรัมละ 200-250 บาท ซึ่งหลังจากนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยได้ช่วยซื้อสละจากเกษตรกรผู้ปลูกจากในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ราคากิโลกรัมละ 300 บาท จำนวน 500 กิโลกรัม คิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 150,000 บาท ส่งผลทำให้ราคาสละกระเตื้องขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 350-400 บาท นอกจากนี้ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ยังได้ช่วยซื้อเงาะและมังคุดจากเกษตรกรอีกด้วย ทำให้ราคาผลไม้สูงขึ้น พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์จากการขายผลไม้ มีรายได้ที่เหมาะสม ส่งผลให้ครอบครัวได้มีเงินในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
“นอกจากนี้ จังหวัดลำปาง โดยนายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้ทำการส่งมอบผลผลิต “ลองกอง” จากจังหวัดยะลา และผลผลิต “มังคุด” จากจังหวัดพัทลุงให้แก่ผู้ที่สั่งซื้อ ซึ่งจังหวัดลำปางได้นำแนวทางของกระทรวงมหาดไทยที่มุ่งมั่นในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเกษตรกรชาวสวนผลไม้พื้นที่ภาคใต้เพื่อกระจายผลผลิตมังคุดจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ระนอง และพัทลุง จำนวนรวม 17.10 ตัน มูลค่า 580,500 บาท ลองกองจากจังหวัดยะลา ปริมาณ 2.576 ตัน มูลค่า 115,920 บาท อีกด้วย” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ตลอดจนส่วนราชการในส่วนกลาง และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ให้ความสำคัญในการดูแลคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย เพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในทุกเรื่อง ครอบคลุมทั้งมิติสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งในเรื่องผลผลิตทางการเกษตรที่ล้นตลาดนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ได้ช่วยประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดพื้นที่ที่เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน ด้วยการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ประชาชนผู้สนใจในพื้นที่ได้ซื้อผลผลิต อันเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทยด้วยกัน ซึ่งเป็นการลดผลกระทบจากภาวะสินค้าล้นตลาด และเป็นการหนุนเสริมเศรษฐกิจฐานรากอีกด้วย ทั้งนี้ ด้วยเพราะหน้าที่ของคนมหาดไทย คือ “การบำบัดทุกข์ บำรุงสุข และทำให้พี่น้องประชาชนมีความสมบูรณ์พูนสุขกันถ้วนหน้าอย่างยั่งยืน”