ทิ้งการบ้านข้อสำคัญให้ไว้ไปสะสางต่อในตำแหน่งผู้นำคนใหม่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่งไม้อำนาจถึงมือ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีป้ายแดงแสดงบทบาทนั่งหัวโต๊ะฐานะ ประธาน ก.ตร. เพื่อเคาะบัญชีรายชื่อ “เจ้าสำนักปทุมวัน” ตามที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.หยิบเสนอขึ้นมา

หลังจากเบรกการพิจารณาแต่งตั้งไปก่อนหน้าเพื่อรอเงื่อนไขระยะเวลาสุกงอมอีกครั้ง

ทำเอาไพ่สำรับสุดท้ายของ “อดีตนายกฯตู่” สะดุดต้องหยุดภารกิจค้างเติ่งข้ามเดือน

ส่งผลให้ 4 ขุนพลแคนดิเดต ได้รับโอกาสเสนอวิสัยทัศน์ทำผลงานของตัวเองเพื่อเป็นการ “แนะนำตัว” ประกอบเหตุผลการพิจารณานั่งเก้าอี้เจ้าของนามเรียกขาน “พิทักษ์ 1” คนต่อไป

พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ยังคงอยู่บนเส้นทางขับเคี่ยวก่อนถึงโค้งสุดท้าย

ท่ามกลางคลื่นใต้น้ำของขบวนการดิสเครดิตคิดแผนสกปรก “ชกใต้เข็มขัด” เตะสกัดขัดขาคู่แข่งแย่ง “บัลลังก์แม่ทัพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์”

งัด “แผลเก่า” เอามาใช้เป็นโคลน “สาดมลทิน” ให้เลอะเปรอะเปื้อน

คงต้องขึ้นอยู่กับทีม 6 อรหันต์ที่เป็น ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก พล.ต.อ.เอก อังสนา นนท์ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง นายฉัตรชัย พรหมเลิศ รศ.ประทิต สันติประภพ และ ศ.ศุภชัย ยาวะประภาษ ใจต้องนิ่งไม่ไหวติงตามลมชวน “ปั่นป่วนหมาก” คัดตัวแม่ทัพ

ประเดิมงานท้าทายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่ต้องขับเคลื่อนประคับประคอง “นาวากองทัพสีกากี” ไม่ให้เจอมรสุมมะรุมมะตุ้มเกมชิง “ผู้นำสูงสุด” ของ “สำนักโล่เงิน”

...

ดับฝันทางเดิน “ทีมไอ้โม่ง” ที่อยู่เบื้องหลัง “วิชามาร”.

สหบาท

คลิกอ่านคอลัมน์ "ส่องตำรวจ" เพิ่มเติม