ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการการศึกษา ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคภูมิใจไทยรับผิดชอบดูแลกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวมทั้งกระทรวงมหาดไทย ว่า ตนมองว่า ภท.กินรวบงานการศึกษา ตั้งแต่การศึกษาระดับท้องถิ่นจนถึงระดับอุดมศึกษา หากมองในแง่ดี จะทำให้การศึกษามีการส่งต่อระหว่างกระทรวง แต่ ภท.ไม่ได้มีนโยบายด้านการศึกษาที่ชัดเจน จึงทำให้มองไม่เห็นทิศทางการศึกษาของชาติ ทั้งการวางตัว พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ซึ่งเป็นอดีตตำรวจมาเป็น รมว.ศึกษาธิการ ทำให้เกิดภาพของการใช้อำนาจ วินัย ความเข้มงวด ขาดอิสระในการแสดงความคิดเห็น และต้องใช้เวลาศึกษางานนานก็ยิ่งทำให้การศึกษาชาติเสียโอกาส
“รมว.ศธ.คนใหม่ ควรเปิดใจรับฟังปัญหาจากครูทุกกลุ่มอายุ เปิดกระทรวงเชิญเด็กๆ เพื่อรับฟังข้อเสนอ ทั้งเร่งผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ และหลักสูตรสมรรถนะที่ค้างอยู่ หรือนำนโยบายการศึกษาของพรรคร่วมรัฐบาลมาสานต่อ เช่น ราชบุรีโมเดล ของ บมจ.แสนสิริ ที่ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและปัญหาการออกกลางคันของเด็กใน จ.ราชบุรี นโยบาย Learn to Earn หรือเรียนรู้มีรายได้ เป็นต้น” ศ.ดร.สมพงษ์กล่าว
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า รัฐมนตรีจะทำหน้าที่เป็นผู้บริหาร โดยจะมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญสายตรงกับหน่วยงานนั้นมาช่วยงาน ส่วนจะมีการนำนโยบายด้านการศึกษาของพรรคร่วมรัฐบาลมาใช้หรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องแน่นอน เพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งมีทั้งเรื่องคุณภาพการศึกษา รวมทั้งเรื่องปลอดดอกเบี้ยเงินกู้ กยศ.ซึ่งตรงกันกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย.