นายกฤษฎา บุญราช ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ลงพื้นที่จังหวัดยะลา ได้เป็นประธานประชาสัมพันธ์ โครงการปรับปรุงคุณภาพและปริมาณเพื่อเพิ่มมูลค่าทุเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าจังหวัดปัตตานี นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนสมาชิกเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนทุเรียนคุณภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้แทนสภาเกษตรกรกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ เข้าร่วม
สำหรับจุดเริ่มต้น โครงการปรับปรุงคุณภาพและปริมาณเพื่อเพิ่มมูลค่าทุเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เกษตรกรชาวสวนทุเรียนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ประสบปัญหาการถูกกดราคาทำให้จำหน่ายทุเรียนได้ในราคาต่ำมาเป็นเวลานาน จนเมื่อสถาบันปิดทองหลังพระฯ เข้าไปดำเนินงานพัฒนาในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในปี 2561 จึงมีเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนจำนวนมากร้องขอให้ช่วยเหลือ
กระบวนการดำเนินงานของสถาบันปิดทองหลังพระฯ ภายใต้ความร่วมมือบูรณาการจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนโดยเฉพาะส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดปัตตานี นราธิวาสและยะลา โดยได้น้อมนำแนวพระราชดำริและหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เริ่มต้นจากการทำความ “เข้าใจ” พบว่าสาเหตุของปัญหามาจากคุณภาพของทุเรียนที่ขาดการดูแลที่ดีในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การดูแลการบำรุงต้นไปจนถึงการเก็บเกี่ยว รวมทั้งสภาพภูมิอากาศที่ทำให้มีหนอนเจาะเมล็ด ผลมีหนามแดงต้องจำหน่ายแบบเหมาสวน จากนั้นจึง “เข้าถึง” เกษตรกรโดยการคัดเลือกเกษตรกรที่มีความขยันหมั่นเพียรใจสู้และมีความพร้อมที่จะพัฒนาคุณภาพทุเรียนมาเรียนรู้การดูแลบำรุงรักษาสวนทุเรียนโดยเข้าร่วมกับโครงการก่อนตามขั้นตอนในคู่มือการผลิตทุเรียนให้มีคุณภาพของสถาบันปิดทองฯ และจัดทำขั้นตอนในการดำเนินงานโครงการตั้งแต่ต้นทางกลางทางและปลายทาง เพื่อเข้าสู่กระบวนการ “พัฒนา” เริ่มจากต้นทางคือการให้ความรู้ในการพัฒนาคุณภาพทุเรียน ตั้งแต่การจัดการบำรุงรักษาดินและน้ำในแปลงการดูแลตามระยะการเจริญเติบโต การบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กลางทางคือการติดตามความก้าวหน้าและให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอนจนถึงการเก็บเกี่ยวให้ได้คุณภาพตามที่ตลาดต้องการ คือ ทุเรียนต้องไม่อ่อน มีปริมาณแป้งไม่ต่ำกว่าร้อยละ 32 และปลายทางคือเชื่อมโยงตลาดพันธมิตรที่ให้การสนับสนุนในการรับซื้อทุเรียน เพื่อสร้างมาตรฐานการรับซื้อ การคัดคุณภาพ และการรวบรวมผลผลิตเพื่อส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศทำให้ในปัจจุบันเกษตรกรชาวสวนทุเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุเรียนคุณภาพมีรายได้เพิ่มขึ้น จากเดิมที่เกษตรกรมีสวนทุเรียน 5 ไร่เคยมีรายได้ประมาณ 5-6 หมื่นบาทต่อมาเมื่อได้ทำตามขั้นตอนคำแนะนำในการดูแลสวนทุเรียนสถาบันปิดทองหลังพระฯ แล้วในปัจจุบันมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 5-6 แสนบาทต่อฤดูการผลิตทุเรียน
นายกฤษฎา บุญราช ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระฯ เผยว่า ขณะนี้ทุเรียนในโครงการฯ ไม่มีปัญหา ทุเรียนอ่อน ทุเรียนมีหนอนรู แล้ว ดังนั้นสถาบันฯ เริ่มส่งเสริมเกษตรกรให้เป็นทั้งผู้ผลิตและผู้จำหน่าย เข้าไปมีส่วนร่วมกับล้งรับซื้อทุเรียนในตลาดกลางจังหวัดยะลา ทำให้เกิดการเรียนรู้ซึ่งกันและกันมีข้อตกลงระหว่างกัน และในปี 2565-2566 สถาบันปิดทองฯ ได้เริ่มแนะนำให้เกษตรกรมีการค้าขายออนไลน์มากขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางในการขายทุเรียนและมีรายได้มากขึ้น ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือทำให้เกษตรเรียนรู้กระบวนการตั้งแต่ เริ่มต้นการปลูก การดูแล การจำหน่าย ค้าขายตามล้งทุเรียนและออนไลน์ ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของเกษตรกรมาก เมื่อเกษตรกรมีความเข้มแข็งและต่อไปทางสถาบัน ก็จะมีการขยับขยายเข้าไปส่งเสริม อาชีพอื่นๆ เช่น การเลี้ยงแพะนม แพะเนื้อ และหาพืชเกษตรกรรมตัวใหม่ อาทิ กาแฟ กล้วย มะพร้าว มาส่งเสริมให้เกษตรกรได้พิจารณาและประการสำคัญพืชชนิดใหม่ที่จะมาแนะนำเกษตรกรนั้น สถาบันปิดทองหลังพระฯ จะหาตลาดไว้รองรับก่อนด้วย
จากนั้นนายกฤษฎา และคณะ ได้เดินทางต่อไปยังล้งทุเรียนพันธมิตรรับซื้อทุเรียน ของนางจันทร์ทิพย์ ลิยะบงค์ เจ้าของรับซื้อทุเรียน บริเวณแยกมลายูบางกอก อ.เมือง จ.ยะลา ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนสมาชิกเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนทุเรียนคุณภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อติดตามกระบวนการรับซื้อทุเรียนคุณภาพของโครงการ พร้อมทั้งเยี่ยมชมกระบวนการรับซื้อ การคัดเกรดคุณภาพทุเรียน และการบรรจุภัณฑ์ เป็นไปตามมาตรฐานของโครงการปรับปรุงคุณภาพและปริมาณเพื่อเพิ่มมูลค่าทุเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้การขับเคลื่อน ของสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระฯ
และประธานกรรมการสถาบันฯ ผู้ว่าราชการการจังหวัดยะลา และหัวหน้าส่วนราชการ ได้ลงพื้นที่และเยี่ยมชมสวนทุเรียนของนายมะรอมือลี เฮงลอโอ๊ะ ตำบลกาลอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา พร้อมให้กำลังใจเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการกับสถาบันปิดทองหลังพระด้วย