รองโฆษกสภาทนายความเผยถึงคดี ผอ.ร.ร.ไทยรัฐวิทยา 6 ถูกฟ้องพาบุคคลต่างด้าวเข้าประเทศและให้ที่พักพิงเด็กพม่า 126 คน คดีนี้ส่งทนายไปซักค้านแล้วเด็กส่วนใหญ่เรียนที่เชียงราย ผู้ปกครองเป็นคนพามาเรียน ครูไม่ได้ลอบพาเด็กเข้ามาในประเทศ ชั้นอัยการจะนำเสนอพยานหลักฐานสนับสนุนว่าครูไทยรัฐทำไปตามระเบียบคู่มือปฏิบัติของคณะรัฐมนตรีปี 2548 ที่ปรับปรุงให้รับตัวเด็กต่างด้าวชายขอบประเทศมารับการศึกษา ขณะที่นายกสภาทนายความตั้งคณะทำงานลงพื้นที่

กรณีตำรวจ สภ.ป่าโมก จ.อ่างทอง จับกุม น.ส.กัลยา ทาสม ผอ.ร.ร.ไทยรัฐวิทยา ๖ อ่างทอง กับพวกเป็นครู ผู้ใหญ่บ้าน ภารโรงของโรงเรียนกล่าวหาว่าพาบุคคลต่างด้าวเข้าในราชอาณาจักร และให้ที่พักพิง รูปสำนวน มีความเห็นฟ้องส่งพนักงานอัยการ จน น.ส.กัลยาต้องร้องสภาทนายความช่วยนั้น

ความคืบหน้าในคดีที่เกี่ยวกับมนุษยธรรมและจิตวิญญาณความเป็นครู เมื่อวันที่ 5 ส.ค.นายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฯ และรองโฆษกสภาทนายความ เผยถึงกรณีนี้ว่า ล่าสุดคดีนี้อัยการฟ้องศาลว่าพยานจะต้องเดินทางออกนอกประเทศเพราะถูกผลักดัน ขอสืบพยานล่วงหน้าก่อนฟ้องไป 10ปากเป็นเด็กต่างด้าวทั้งหมด สภาทนายมีนายกวี เจริญเศรษฐี เป็นทนายผู้ต้องหาซักค้าน มีประเด็นสรุปว่า เด็กส่วนใหญ่เรียนที่เชียงราย ผู้ปกครองพามาเรียน ต่อมามีครูจากอ่างทองรับช่วงต่อมาเรียนที่ ร.ร.ไทยรัฐวิทยา 6 รวม 126 คน ดังนั้นครูที่อ่างทองไม่ได้ลักลอบพาเด็กเข้ามาในประเทศ

นายวีรศักดิ์กล่าวต่อว่า ในชั้นอัยการ สภาทนายจะนำเสนอพยานหลักฐานสนับสนุนว่าครูไทยรัฐ ทำไปตามระเบียบคู่มือปฏิบัติของคณะรัฐมนตรีปี 2548 ที่ปรับปรุงให้รับตัวเด็กต่างด้าวชายขอบประเทศมารับการศึกษา ทั้งนี้เพื่อสอดคล้องกับอนุสัญญาที่ไทยเป็นภาคี และเสนอข้อมูลตามสนธิสัญญาต่างๆเพื่อประกอบการพิจารณาของอัยการ เด็กเหล่านี้เข้ามาทางชายแดน แม้อาจจะกระทบด้านความมั่นคง แต่มีคนที่เข้าได้แล้วอยากรับการศึกษา มีอนุสัญญาในเรื่องนี้ ดังนั้นแม้เด็กที่เข้ามาไม่มีเอกสารอะไรเลย แต่เราต้องให้การศึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ประชากรที่อยู่ร่วมกัน

...

“ไม่อยากปรักปรำตำรวจ แต่เมื่อเรื่องนี้ ครม.มีมติและรัฐบาลเคยแก้แล้วให้รับเด็กต่างด้าวมาเรียนได้ ทำไมตำรวจยังกลับมากงล้อเดิม เหมือนตำรวจถือกฎหมายมือเดียว อีกมือไม่ถือกฎหมายอื่นหรืออนุสัญญาอื่นมาดู” นายวีรศักดิ์กล่าว

ด้านนายสัญญาภัชระ สามารถ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการเผยว่า ดร.วิเชียร ชุปไธสง นายกสภา ทนายความ สั่งการให้ตั้งคณะทำงาน 5 คน ลงพื้นที่ อ.ป่าโมก อ่างทอง เพื่อซักถามข้อเท็จจริงจากชาวบ้านในพื้นที่ ให้ตกผลึกเสียก่อน มีนายกวี ทนายความต้นเรื่อง และ ผอ.โรงเรียนไปพบชาวบ้านด้วยกัน