“ผู้การสระบุรี” สั่งให้ออกจากราชการ “สารวัตรสอบสวนแสบ” ขู่รีดเงินสาว 20 เพื่อเคลียร์คดีและขอมีความสัมพันธ์ด้วยแล้ว แถมล่องหนเมินเข้าให้การแก้ต่างให้ตัวเองเพิ่มเติมตามนัด แฉทั้งที่เป็นตำรวจแต่ถูกแจ้งความ 3 คดี ใน 2 โรงพัก ส่วนคดีตั้งต้น ที่เหยื่อสาวถูกหนุ่มหื่นในคราบพลเมืองดีลวงเข้าไปในบ้านแล้วพยายามปลุกปล้ำ จนต้องปีนรั้วหนีไป บ้านข้างๆจนถูกแจ้งข้อหาบุกรุก ตำรวจขออำนาจศาล ออกหมายจับเร็วจี๋ พร้อมส่งชุดสืบสวนไปจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีแล้ว แต่ยังให้การปฏิเสธ

กรณีเหยื่อสาววัย 20 เข้าร้องเรียน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ว่า ถูกนายตำรวจระดับสารวัตรทำหน้าที่พนักงานสอบสวนยศ พ.ต.ท.เรียกรับเงิน 1 แสนบาท เพื่อไม่ดำเนินคดีบุกรุกในเวลากลางคืน ทั้งๆที่ตัวเองตกเป็นเหยื่อถูกหนุ่มหื่นในคราบพลเมืองดีพยายามปลุกปล้ำ จนต้องปีนรั้วบ้านหนีไปบ้านข้างเคียง หลังเจ้าของบ้านรู้ข้อเท็จจริงขอถอนแจ้งความไปแล้ว แต่นายตำรวจคนดังกล่าวกลับอ้างว่า เป็นคดีอาญาถอนแจ้งความไม่ได้ หลังรับเรื่อง “รองโจ๊ก” รีบสั่งการให้ไปพบ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จ.สระบุรี เพื่อดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ และให้ตรวจสอบความผิดทั้งวินัยและอาญากับนายตำรวจคนดังกล่าวอย่างเฉียบขาด

ความคืบหน้าจาก สภ.เสาไห้ จ.สระบุรี เมื่อดึกคืนวันที่ 31 ก.ค. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พา น.ส.เอ (นามสมติ) อายุ 20 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์พนักงานสอบสวน สภ.เสาไห้ ถูกพาขึ้นไปให้การที่ห้องประชุมชั้น 2 ของโรงพัก โดยมี พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จ.สระบุรี ร่วมสอบปากคำหญิงสาวผู้เสียหายด้วย หลังสอบสวน พล.ต.ต.วิชิตเผยว่า นายตำรวจที่ก่อเหตุยศ พ.ต.ท.ปัจจุบันตำแหน่งเป็นสารวัตรธุรการคดีอยู่ที่ สภ.เมืองสระบุรี ก่อนหน้านี้ระหว่างเกิดเหตุ สารวัตรคนดังกล่าวไปช่วยราชการที่ สภ.เสาไห้ ในตำแหน่งสารวัตรสอบสวน

...

“จากการตรวจสอบพฤติกรรมของสารวัตรคนนี้พบว่า มีเรื่องร้องเรียนค้างเก่าอยู่ เป็นคดีเกี่ยวกับฉ้อโกงทรัพย์ คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงสรุปว่า มีความผิดจริง อยู่ระหว่างเสนอให้ออกจากราชการ จนกระทั่งวันนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายที่เป็นหญิงสาว เคยถูกสารวัตรคนดังกล่าวก่อเหตุเรียกรับผลประโยชน์และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เบื้องต้นทราบข้อมูลแล้ว คาดว่ากระทำความผิดจริง วันนี้สั่งให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายพร้อมรวบรวมหลักฐาน ต่อไปจะแจ้งข้อกล่าวหากับสารวัตรผู้ก่อเหตุ แต่วันนี้ออกคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ บก.ภ.จ.สระบุรี ทันที ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายและจะไม่เลี้ยงตำรวจที่ทำให้องค์กรตำรวจเสียหายอย่างแน่นอน” พล.ต.ต.วิชิตกล่าว

ผบก.ภ.จ.สระบุรี กล่าวด้วยว่า ส่วนคดีที่สารวัตรคนดังกล่าวถูกกล่าวหา มีอยู่ที่ สภ.พระพุทธบาท 1 คดี แต่อยู่ชั้นอัยการแล้ว และที่ สภ.เสาไห้ มีอีก 2 คดี อยู่ระหว่างการตั้งกรรมการสอบสวนสืบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินการทางวินัย เบื้องต้นจะดำเนินคดี มาตรา 157 ใช้เวลาในการสอบปากคำ 2 ชม. และวันที่ 1 ส.ค. เวลา 13.00 น. จะเรียกสารวัตรคนดังกล่าวเข้าสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.หน้าพระลาน รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ผู้ใต้บังคับบัญชากระทำพฤติกรรมแบบนี้กับประชาชน ฝากขอโทษประชาชนที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้

ล่าสุด พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จ.สระบุรี เซ็นคำสั่งเลขที่ 236/2566 ให้ พ.ต.ท.ภัฏ ผดุงรัตน์ ตำแหน่ง สว. (สอบสวน) (หัวหน้าคดี) สภ.เมืองสระบุรี ออกจากราชการแล้ว และได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ให้ดูแลคดีอย่างละเอียดรอบคอบ ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

ส่วนความคืบหน้าคดี น.ส.เอ อายุ 20 ปี ถูกหนุ่มหื่นในคราบพลเมืองดีลวงเข้าไปในบ้านพยายามล่วงละเมิด ก่อนหนีไปยังบ้านข้างเคียงจนถูกสารวัตรสอบสวนรายนี้แจ้งข้อหาบุกรุกในเวลากลางคืน เป็นที่มาของการเรียกรับเงินและขอมีความสัมพันธ์ด้วย มีความคืบหน้าเมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 1 ส.ค. พนักงานสอบสวน สภ.เสาไห้ รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายศาลจังหวัดสระบุรีที่ จ.156/ 2566 ออกหมายจับนายสมศักดิ์ อ่อนสำราญ อายุ 34 ปี ข้อหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หลังจากนั้นส่งชุดสืบสวนเดินทางไปจับกุมมาสอบสวนดำเนินคดทันที เบื้องต้นนายสมศักดิ์ อ่อนสำราญ ยังให้การปฏิเสธ

มีรายงานเมื่อเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน จาก สภ.หน้าพระลาน ด้วยว่า หลังจาก พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จ.สระบุรี สั่งการให้ประสานเรียกตัว พ.ต.ท.ภัฏ ผดุงรัตน์ มาสอบปากคำเพิ่มเติม แต่หลังจากถูกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ปรากฏว่า สารวัตรคนดังกล่าวไม่ได้เดินทางมาให้ปากคำแต่อย่างใด