ผัวเมียเจ้าของโกดังพลุมรณะ บึมเบี้ยวนัดไม่ยอมมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ตำรวจจ่อออกหมายจับนำตัวมาดำเนินคดี สส. “วิโรจน์” ลากไส้ขบวนการส่วยพลุ ต้นตอทำระเบิดตลาดมูโนะ แฉตัวละครเก็บส่งนายเป็นทอดๆ ระบุปี 59 เจ้าของเคยโดนจับมาแล้ว แต่อัยการสั่งไม่ฟ้อง เส้นทางดอกไม้ไฟมหาศาลลักลอบนำเข้าจากจีนผ่านชายแดนภาคเหนือมาเก็บใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนถูกซื้อมากักตุนในชุมชนรอส่งขายฝั่งมาเลย์ ด้าน มท.1 ปัดมหาดไทยไม่เกี่ยวสินบน ขณะที่ สธ.เตือนอันตรายจุดเกิดเหตุ หลังพบฝุ่นเคมีพิษดินปืนฟุ้ง ห้ามใช้น้ำ
จากเหตุสยองขวัญกรณีโกดังเก็บพลุและดอกไม้ไฟไม่ต่ำกว่า 5 ตันในตลาดมูโนะ หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เกิดระเบิดสนั่นหวั่นไหวเมื่อเย็นวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 12 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 120 คน ร้านค้าและบ้านพังพินาศหลายร้อยหลัง แทบกลายเป็นเมืองร้าง หลังเกิดเหตุตำรวจบุกยึดพลุซุกซ่อนอยู่ในบ้านเจ้าของโกดังอีกหลายตัน ก่อนขนย้ายออกนอกพื้นที่ หวั่นเกิดระเบิดซ้ำ ล่าสุดพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกมาสอบสวนรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว หลังหายเงียบตั้งแต่วันเกิดเหตุ
ผัวเมียโกดังมรณะเบี้ยวพบ ตร.
ความคืบหน้าการสอบสวนดำเนินคดีกับเจ้าของโกดังมรณะ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 1 ส.ค.พล.ต.ต.อนุรุธ อาบอิ่ม ผบก.ภ.จ.นราธิวาส สั่งการให้ พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส เป็นหัวหน้านำพนักงานสอบสวนโรงพักต่างๆใน จ.นราธิวาส ไปสอบปากคำผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากเหตุโกดังพลุระเบิดที่ทยอยมาให้การที่ สภ.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก พร้อมนำพนักงานสอบสวนอีกส่วนหนึ่งเตรียมรับนายสมปอง ณะกุล และ น.ส.ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ สองสามีภรรยาเจ้าของโกดังพลุระเบิด หลังตำรวจออกหมายเรียกให้มาพบและนัดหมายจะเข้าให้ปากคำเวลา 10.00 น. ของวันนี้ แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายทั้งสองยังไม่ยอมเดินทางมาตามนัด
...
ยันไม่มาโดนหมายจับแน่นอน
พล.ต.ต.อนุรุธ อาบอิ่ม ผบก.ภ.จ.นราธิวาส เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ รวมถึงสอบปากคำชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ส่วนเจ้าของโกดังที่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศทราบว่ากลับมาแล้วและได้นัดหมายจะมาให้ปากคำรับทราบข้อกล่าวหา แต่ได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวนว่ายังไม่ยอมเดินทางมาตามหมายเรียก เจ้าหน้าที่จะให้เวลาตลอดทั้งวัน หากไม่มาจะพิจารณาในการออกหมายจับต่อไป ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้นก็ต้องพิจารณารายละเอียดอย่างรอบคอบอีกครั้ง ยืนยันตำรวจทำงานอย่างเต็มที่เพื่อเร่งรัดให้คดีเดินหน้าไปได้อย่างเร็วที่สุด และต้องสาวไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้ได้รับโทษตามกฎหมาย
กักตุนพลุส่งขายลูกค้ามาเลย์
มีรายงานจากแหล่งข่าวความมั่นคงในพื้นที่เปิดเผยว่า พลุและดอกไม้ไฟในโกดังที่เกิดเหตุระเบิดในครั้งนี้ ส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศจีนผ่านทางชายแดนภาคเหนือและอีสาน เจ้าของโกดังสั่งซื้อมาจากซัพพลายเออร์จากแหล่งใหญ่ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีการทยอยซื้อไว้เพื่อกักตุนเตรียมส่งออกไปประเทศมาเลเซียผ่านช่องทางธรรมชาติตามริมแม่น้ำสุไหงโก-ลกในพื้นที่ ต.มูโนะ เนื่องจากพลุและดอกไม้ไฟเป็นที่ต้องการของชาวมาเลเซียมาก ทำให้ขายได้ราคาสูง โดยเฉพาะในเดือนหน้าจะมีเทศกาลวันชาติของมาเลเซีย ทำให้เจ้าของโกดังสั่งซื้อมากักตุนไว้ล่วงหน้าหลายตัน นำไปแยกเก็บไว้โกดัง ร้านค้าและอาคารต่างๆหลายแห่งเพื่อเก็งกำไร
ชาวบ้านร้อง-จนท.รัฐทำเฉย
มีรายงานว่า สำหรับเจ้าของโกดังพลุที่เกิดเหตุถือเป็นรายใหม่ เพิ่งสร้างโกดังแห่งนี้เมื่อปีที่ผ่านมา แต่มีลูกค้าสั่งซื้อมาก ตอนสร้างโกดังใหม่ๆ ชาวบ้านเข้าใจว่าใช้เป็นที่เก็บสินค้าต่างๆ เพราะเจ้าของโกดังทำธุรกิจก่อสร้าง ไม่รู้ว่าเป็นที่เก็บดอกไม้ไฟและประทัดจำนวนมาก ต่อมาชาวบ้านเริ่มสงสัยจนมาทราบความจริงว่าในโกดังมีพลุอยู่หลายตัน หลายคนเกิดความกลัวเพราะรอบโกดังมีบ้านเรือนอยู่หลายร้อยหลังคาเรือน บางหลังอยู่ติดกำแพงโกดัง ก่อนหน้านี้เคยขอให้เจ้าของนำพลุทั้งหมดย้ายไปเก็บไว้ที่อื่น แต่ไม่มีย้ายออกไป เคยร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่เพิกเฉย ไม่มีการดำเนินการใดๆ
แฉจ่ายส่วยเดือนละเป็นแสน
แหล่งข่าวความมั่นคงกล่าวอีกว่า ธุรกิจส่งออกพลุและดอกไม้ไฟบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซียในพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก มีมูลค่ามหาศาล เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ใกล้ชายแดน ทำให้ง่ายต่อการขนส่งข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีความต้องการสูง ต่างจากตลาดชายแดน อ.ตากใบและตลาดชายแดนบูเกะตา อ.แว้ง ทำให้มีนักธุรกิจหันไปจำหน่ายพลุในตลาดมูโนะหลายราย เพราะสามารถทำเงินได้มหาศาล ยิ่งรายไหนมีทุนสูงก็จะลักลอบซื้อมากักตุนเป็นจำนวนมากและแอบนำไปเก็บไว้ในย่านชุมชน ที่ผ่านมาถึงแม้ชาวบ้านจะเคยร้องเรียนเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ แต่ไม่เป็นผล เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้จ่ายค่ารายเดือนให้เจ้าหน้าที่รัฐแทบทุกหน่วย ตั้งแต่หลัก 2 หมื่นบาทไปถึงหลักแสนบาท มีการส่งต่อเป็นทอดๆ ถึงผู้บังคับบัญชา
หวั่นนำดินปืนพลุป่วนชายแดน
อย่างไรก็ตาม ต.มูโนะ ถือเป็นพื้นที่ควบคุมของหน่วยงานความมั่นคง ที่ผ่านมาหน่วยงานความมั่นคงได้ออกหนังสือและเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่เน้นย้ำห้ามมิให้นำสินค้าหนีภาษีทุกชนิดเข้าออกพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่งชายแดน โดยเฉพาะพลุดอกไม้ไฟ เพราะเกรงว่ากลุ่มก่อความไม่สงบจะนำพลุดอกไม้ไฟที่อัดแน่นไปด้วยดินระเบิดเอาไปก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ แต่เนื่องจากตลาดมูโนะแห่งนี้เป็นแหล่งเงินมหาศาลที่มีผลประโยชน์ทั้งน้ำมันเถื่อน น้ำมันปาล์ม กระเทียม และยาเสพติด รวมถึงพลุดอกไม้ไฟมีเป็นจำนวนมาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับปล่อยปละละเลย เนื่องจากมีผลประโยชน์เข้ามาแอบแฝง ขณะนี้ในพื้นที่มีร้านค้าจดทะเบียนขายพลุดอกไม้ไฟกว่า 50 ร้าน และมีการลอบกักตุนในโกดังอีกหลายแห่ง เพื่อจำหน่ายให้ลูกค้าฝั่งมาเลเซีย
...
มท.1 ตรวจซากโกดัง-หลุมระเบิด
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พร้อมคณะเดินทางไปศาลากลางจังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามสถานการณ์โกดังเก็บดอกไม้เพลิงระเบิดที่ตลาดมูโน อ.สุไหงโก-ลก จากนั้นลงพื้นที่ไปดูศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในพื้นที่พร้อมพบปะพูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ก่อนมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวจำนวนหนึ่ง เสร็จแล้วเข้าไปดูโกดังสถานที่เกิดเหตุและบ้านเรือนละแวกใกล้เคียงที่พังราบแปรสภาพเป็นที่โล่งเตียน และดูหลุมระเบิดลึกขนาดใหญ่ 2 หลุมที่เป็นศูนย์กลางของระเบิด ต่อมา พล.อ.อนุพงษ์นำกระเช้าและเงินบำรุงขวัญไปมอบให้กับผู้บาดเจ็บจากเหยื่อโกดังพลุระเบิดที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลกจำนวน 10 ราย ซึ่งพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระบรม ราชานุเคราะห์
ปัดมหาดไทยไม่เกี่ยวเรื่องสินบน
“ขณะนี้กรมการปกครองมีอำนาจหน้าที่ในการอนุญาต ในสัปดาห์หน้าจะไปสำรวจดูว่าที่ใดบ้างไม่ได้รับอนุญาต และขออนุญาตไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ที่น่าสนใจคือผู้ประสบเหตุบอกกับผมว่ารู้ว่าขาย แต่ไม่รู้ว่าเก็บไว้มากเท่าใดแค่ไหน แต่ถ้าไปซื้อจะมีขาย ส่วนพื้นที่บริเวณตลาดมูโนะจุดเกิดเหตุเดิมมีปัญหาน้ำท่วม เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจข้อมูลประสานงานกับกรมโยธาธิการ เพื่อวางรูปแบบหรือจัดโซนใหม่ แต่ต้องดูว่าชาวบ้านจะร่วมด้วยไหม” รมว.มหาดไทย กล่าวและว่า ส่วนกรณีผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้อาจจะมีนักการเมืองหรือผู้ใหญ่ในพื้นที่รับสินบนนั้นเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่สืบสวน มหาดไทยไม่เกี่ยว
...
ผู้นำศาสนานำสวดดุอาอ์ขอพร
เช้าวันเดียวกัน ผู้นำศาสนานำชาวบ้านร่วมกันประกอบพิธีดุอาอ์ขอพรละหมาดฮายัดให้กับดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตทั้ง 12 ศพบริเวณจุดเกิดเหตุโกดังเก็บพลุและดอกไม้เพลิงระเบิดเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับครอบครัวผู้ประสบภัยที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปในเหตุการณ์ดังกล่าว อีกทั้งให้สถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ปลอดภัย เนื่องจากส่วนใหญ่ยังคงหวาดผวาและทำใจรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ มีชาวบ้านมาร่วมประกอบพิธีจำนวนมาก ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายลงมาเป็นระยะ
ทหารจัดชุดจิตอาสาช่วย 24 ชม.
ส่วนความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุโกดังพลุระเบิด พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส นำกำลังพลจิตอาสาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุโกดังระเบิด พล.ต.เฉลิมพร กล่าวว่า ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกรมทหารราบที่ 151 จัดรถครัวสนามพระราชทาน 1 คัน ประกอบเลี้ยงอาหารให้แก่ผู้ประสบภัย, รถยนต์ FTS 3 คันเป็นรถยนต์ขนาดใหญ่เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ขนย้ายชาวบ้านพร้อมทรัพย์สินเข้ามายังศูนย์พักพิง, จัดชุดปฏิบัติการจิตอาสา 50 นายคอยอำนวยความสะดวกประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่เกิดเหตุ หากต้องการความช่วยเหลือสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ตลาดมูโนะอันตราย-ฝุ่นเคมีฟุ้ง
ด้านนายแพทย์มาหะมา เมาะมูลา ผอ.โรงพยาบาลเจาะไอร้อง ที่ได้รับมอบหมายจากสำนักงานสาธารณสุข จ.นราธิวาส นำแพทย์และพยาบาลตรวจสุขภาพชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า บริเวณตลาดมูโนะเป็นพื้นที่ไม่ปลอดภัย มีฝุ่นละอองสารเคมีอันเกี่ยวเนื่องกับดอกไม้เพลิงระเบิดฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ไม่ควรนำเด็กเล็กหรือคนชราเข้าพื้นที่ ล่าสุดจากการออกหน่วยเคลื่อนที่ในบริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่มีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ และมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น รองลงมาคือ เรื่องของนอนไม่หลับที่เป็นผลพวงจากเสียงดังจากเหตุระเบิดและเกิดจากการตกใจที่มีอาการรุนแรง หรือจิตหลอน
...
“ตรีนุช” รุดเยี่ยม ร.ร.พลุระเบิด
ที่โรงเรียนบ้านมูโนะ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายจากเหตุโกดังเก็บพลุระเบิด จากนั้นเปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อครู นักเรียน และโรงเรียนหลายแห่ง ในส่วนของโรงเรียนบ้านมูโนะ มีเด็กนักเรียนบาดเจ็บ 25 คน และโรงเรียนเอกชนอีก 3 แห่ง คือ โรงเรียนนะห์ฎอฏลอิสลาฮียะห์ บาดเจ็บ 8 คน โรงเรียนดารุลฮุสนา นักเรียนบาดเจ็บ 1 คน และเสียชีวิต 1 คน และโรงเรียนดารุลฟุรกอน นักเรียนบาดเจ็บ 57 คน ครูบาดเจ็บ 13 คน เบื้องต้นสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) มอบเงินช่วยเหลือโรงเรียนและครอบครัวนักเรียนที่บาดเจ็บและเสียชีวิตไปบางส่วนแล้ว
ส่งนักจิตวิทยาปลอบเด็กนักเรียน
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า มอบหมายให้นักจิตวิทยาโรงเรียนประจำเขตพื้นที่ได้ลงพบปะพูดคุย ปลอบขวัญนักเรียนสังเกตอาการ ฟื้นฟูสภาพจิตใจ และเยียวยานักเรียนเป็นการเบื้องต้นด้วย พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายอาคารเรียน อาคารอเนกประสงค์ บ้านพักครู หอพักนักเรียน รวมถึงอุปกรณ์การเรียนการสอน เพื่อจัดทำรายละเอียดประมาณค่าซ่อมแซมทั้งหมด และให้เร่งรื้อถอน ปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและสามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามปกติได้เร็วที่สุด ระหว่างนี้ให้จัดการเรียนการสอนแบบ on hand หรือจัดหาพื้นที่สำหรับการเรียนการสอนชั่วคราวไปพลางก่อน นอกจากนี้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดทีมอาชีวะช่วยเหลือประชาชน เพื่อช่วยซ่อมแซมบ้านเรือน ที่พักอาศัย เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานพาหนะให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยอีกด้วย
ปิดเรียนซ่อมอาคาร 2 สัปดาห์
ด้านนางโสรยา อาแซ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านมูโนะ เปิดเผยว่า เหตุโกดังพลุระเบิดในครั้งนี้สร้างความเสียหายให้กับโรงเรียนอย่างมาก ทั้งที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุร่วม 300 เมตร แต่อานุภาพของระเบิดทำอาคารเรียน หอพักเด็ก 5 หลัง และบ้านพักครูอีก 7 หลัง เสียหายไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท โรงเรียนจำเป็นต้องประกาศปิดเรียน 2 สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.เป็นต้นไป เพราะต้องซ่อมแซมสถานที่ให้ปลอดภัยสำหรับนักเรียน เหตุการณ์ในครั้งนี้รุนแรงแทบจะรับไม่ไหว เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่ครูนักเรียนและพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กต่างได้รับผลกระทบกันหมด ทั้งนี้ หลังเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยจะกลับมาเปิดเรียนแบบผสมผสานไปก่อน ให้นักเรียนประถมมาเรียนครึ่งวันเช้า ส่วนครึ่งบ่ายเป็นเด็กมัธยม สำหรับผู้มีจิตศรัทธาจะช่วยโรงเรียนสามารถบริจาคได้ที่ ธ. กรุงไทยชื่อบัญชี รายได้สถานศึกษา โรงเรียนบ้านมูโนะ ช่วยเหลือโรงเรียนบ้านมูโนะ เลขบัญชี 914-3-04320-8 เงินที่ได้รับบริจาคจะแยกเป็น 2 ส่วนคือเยียวยานักเรียนที่ได้รับผลกระทบบ้านเรือนเสียหาย อีกส่วนหนึ่งนำมาปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน
น้ำปนเปื้อนพิษดินปืน-ห้ามใช้
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุโกดังเก็บพลุและดอกไม้ไฟระเบิดตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ว่า เหตุระเบิดครั้งนี้เป็นการเผาไหม้ของดินปืน อาจทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ รวมถึงปนเปื้อนต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในแหล่งน้ำ ล่าสุด นพ.ชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส รายงานความคืบหน้าการตรวจเฝ้าระวังผลกระทบมลพิษในสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขระดับอำเภอ (คปสอ.) ทั้ง 13 อำเภอใน จ.นราธิวาส ศูนย์อนามัยที่ 12 ยะลา และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา ลงพื้นที่ร่วมคัดกรองผลกระทบด้านสุขภาพเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อวิเคราะห์คุณภาพทางกายภาพ เคมี และแบคทีเรีย รวมถึงตรวจวัดคุณภาพอากาศ คุณภาพแหล่งน้ำใช้ โดยเครื่องมือวัดภาคสนามบริเวณจุดเกิดเหตุและรัศมี 500 เมตร โดยรอบ พบว่าไม่มีปัญหาด้านคุณภาพอากาศ ส่วนคุณภาพน้ำยังไม่เหมาะสมทั้งการอุปโภคและบริโภค จึงเสนอให้ใช้แหล่งน้ำจากพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ประปา อบต. และน้ำบาดาลโรงเรียนมูโนะ
ชาวบ้านเครียด-เสี่ยงป่วยจิต
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า ส่วนการดูแลเยียวยาจิตใจผู้ได้รับผลกระทบ ทีม MCATT จากศูนย์สุขภาพจิตที่ 12 โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ และ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ลงพื้นที่เยียวยาจิตใจผู้ได้รับผลกระทบ 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวในโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก 10 ราย เป็นผู้ใหญ่ 8 ราย มีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต 7 ราย และเด็ก 2 ราย มีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตทั้ง 2 ราย 2.ครอบครัวผู้เสียชีวิต 1 ครอบครัว มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ประเมินบุตรของผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย มีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตทั้ง 2 ราย และ 3.ผู้ได้รับผลกระทบในหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 5 จำนวน 241 ราย เป็นผู้ใหญ่ 209 ราย มีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต 43 ราย เด็ก 32 ราย มีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต 8 ราย รวมผู้มีความเสี่ยงทางสุขภาพจิตทั้งหมด 62 ราย ทุกรายทีม MCATT ได้ให้การปฐมพยาบาลจิตใจเบื้องต้นแล้ว สำหรับครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังได้รับการดูแลเพิ่มเติมด้วย Crisis intervention หรือการช่วยให้วางแผนรับมือความเครียดรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น และในรายที่พบความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต จะส่งต่อให้ทีม MCATT ในพื้นที่ประเมินตามมาตรฐานการดูแลเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยพิบัติ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือต่อไป
ตั้งศูนย์อาชีวะลงช่วยชาวมูโนะ
ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า จากเหตุการณ์โกดังพลุระเบิดในพื้นที่ตลาดมูโนะ ส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 400 ครัวเรือนไร้ที่อยู่อาศัย มอบหมายให้เรืออากาศโทสมพร ปานดํา รองเลขาฯ และนายราตรีสวัสดิ์ ธนานันต์ ผู้อำนวยการสํานักอำนวยการ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการศึกษาเขต พัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศพต.) ลงพื้นที่เร่งด่วนช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ประสานกับสถานศึกษาอาชีวศึกษาในพื้นที่จัดศูนย์ “อาชีวะ ช่วยประชาชน” (Fix it Center) เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนเบื้องต้นในด้านต่างๆ มีการตั้งโรงครัวประกอบอาหารแจกจ่ายพี่น้องประชาชนผู้ประสบเหตุวันละ 3 มื้อ พร้อมมอบนํ้าดื่มบรรจุขวด 1,000 ขวด มอบถุงยังชีพ 200 ชุด ซ่อมแซมรถ จยย. เครื่องใช้ในครัวเรือนและเครื่องมือประกอบอาชีพที่ได้รับความเสียหาย และซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และรื้อถอนที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหาย
“วิโรจน์” ลากไส้ขบวนการส่วยพลุ
วันเดียวกัน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กถึงเหตุการณ์โกดังพลุระเบิดตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ว่า การดำเนินคดีกับเจ้าของโกดังคงต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย แต่จะตัดตอนแค่เจ้าของโกดังไม่ได้ เพราะเรื่องนี้คนใน ต.มูโนะ ทราบดีว่า มีความเกี่ยวพันกับการเรียกรับผลประโยชน์ รีดไถรังแกประชาชน เก็บส่วยส่งนายเป็นทอดๆ ชื่อของ “จ่า ฟ.” กับตัวละครนามสมมติอีก 4 คนที่ชื่อ ว่า ไหว หลิน กิม และแล ประชาชนในละแวกนั้นรู้จักกันดีว่า มีหน้าที่เก็บส่วยธุรกิจสีเทาในมูโนะ ทั้งสินค้าหนีภาษี การค้ามนุษย์ ยาเสพติดและธุรกิจผิดกฎหมายต่างๆ เรื่องนี้ รมว.มหาดไทย และ ผบ.ตร.ตรวจสอบดูก็จะรู้ต้นสายปลายเหตุและลากไส้ทั้งขบวนการออกมาโดยไม่ยาก โกดังพลุ เก็บดินดำเป็นตันๆอยู่ใจกลางชุมชน เป็นไปได้อย่างไรที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย
ซัดเจ้าของโกดังเคยโดนจับปี 59
นายวิโรจน์ระบุในเฟซบุ๊กอีกว่า เจ้าของโกดังที่ระเบิดเคยถูก กอ.รมน.จับกุมมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2559 ตำรวจและฝ่ายมั่นคงจะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ การกดขี่รีดไถรังแกประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีแต่จะทำให้ประชาชนในพื้นที่รู้สึกหวาดระแวง และไม่ไว้วางใจเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ใดมีการกดขี่ การต่อต้านก็ย่อมเป็นหน้าที่ “พลุที่เก็บอยู่ในหัวใจคน ถ้าถูกเหยียบย่ำกดขี่อยู่เรื่อยๆสักวันมันก็ปะทุและระเบิดออกมาได้นะครับ” วันที่ 3 ส.ค.จะอภิปรายเรื่องนี้ในสภา หวังเป็นอย่างยิ่งว่า รมว.มหาดไทย อธิบดีกรมการปกครอง ผบ.ตร.และแม่ทัพภาค 4 จะตระหนักถึงปัญหาส่วยและการรีดไถประชาชนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หวังว่าจะมีการปราบปรามให้หมดไปในเร็ววันนี้
เผยพนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีที่เจ้าของโกดังพลุระเบิดเคยถูกจับกุมเมื่อปี 59 นั้น ทางเพจ Golok Spotlight รายงานหนังสือสั่งคดีจากสำนักงานอัยการจังหวัดนราธิวาส แจ้งไปยัง ผกก.สภ.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มีคำสั่งไม่ฟ้องนายสมปอง ณะกุล เจ้าของโกดังพลุและดอกไม้เพลิง ผู้ต้องหาในความผิดฐานค้าดอกไม้เพลิงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่
ออกหมายจับผัวเมียโกดังมรณะ
ด้าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 ดำเนินการสอบสวนกรณีเกิดเหตุโกดังพลุระเบิดที่ตลาดมูโนะในทุกมิติ ทั้งการช่วยเหลือเยียวยา เร่งรัดการสอบสวนดำเนินคดี ในทางคดีขณะนี้มีการออกหมายจับเจ้าของโกดัง 2 สามีภรรยาที่ขณะนี้หลบหนีอยู่ประเทศมาเลเซีย ผบ.ตร.กำชับให้ประสานไปยังตำรวจมาเลเซียในการช่วยติดตามจับกุม แม้จะหลบหนีไปที่ไหน ก็ต้องนำตัวมาดำเนินคดีให้ได้
เด้ง 4 เสือโรงพักมูโนะเซ่นส่วยพลุ
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นข้อสงสัยของสังคมว่า โกดังเก็บพลุและดอกไม้ไฟมาตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมชนได้อย่างไร มีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ย้ำให้ ผบช.ภ.9 เร่งทำความจริงให้ปรากฏ หากพบว่าตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์รู้เห็นเป็นใจ ปล่อยปละละเลย ให้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง ให้ดำเนินการเด็ดขาดทั้งอาญา วินัย และปกครอง เบื้องต้น พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ. จ.นราธิวาส มีคำสั่งย้ายข้าราชการตำรวจ สภ.มูโนะ จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย พ.ต.อ.สุธาเวชช์ ธารีไทย ผกก.สภ.มูโนะ, พ.ต.ท.อาลี วาเด็ง รอง ผกก.ป, พ.ต.ต.นเชษฐ์ มณีโชติ สว.ป.และ พ.ต.ท.จรัญ อินทรา สว.สส. ส่วนอีก 1 ตำแหน่ง รอง ผกก.สส.ได้เสียชีวิตไปแล้ว เป็นตำแหน่งว่าง โดยให้มาช่วยราชการที่ ศปก.ภ.จ.นราธิวาส