อ.ธรณ์ อธิบายการเกิด "แพลงก์ตอนบลูม" ในอ่าวไทย จากข้อมูลดาวเทียม ชี้โลกร้อนแรงขึ้น ทะเลใกล้เดือด มนุษย์คงเหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว

วันที่ 31 กรกฎาคม 2566 ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้อธิบายเรื่องการเกิดแพลงก์ตอนบลูม ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ขออธิบายเหตุการณ์ แพลงก์ตอนบลูมในอ่าวไทยเพิ่มเติม ด้วยข้อมูลดาวเทียม จาก GISTDA เป็นภาพวัดคลอโรฟิลล์ในน้ำ ที่เกี่ยวข้องโดยตรง กับปริมาณแพลงก์ตอนพืชบลูม

สีดำคือน้ำทะเลปกติ สีเขียวคือเริ่มเกิดแพลงก์ตอนบลูม สีแดง/น้ำตาลเข้มคือบลูมเต็มที่ ปกติแพลงก์ตอนบลูม จะเริ่มจากทะเลห่างฝั่ง จากนั้นพอเข้าใกล้ฝั่ง ด้วยกระแสน้ำ/คลื่นลม ปริมาณแพลงก์ตอนเพิ่มขึ้น เมื่อเจอธาตุอาหารสมบูรณ์ ประจวบกับแดดจ้า ปกติเกิดที่ทะเลความลึก 8-10 เมตรหรือมากกว่า

ในภาพจะเห็นในเขตสีเหลืองและสีแดง สุดท้ายจะเข้ามาจนถึงชายฝั่ง เป็นพัฒนาการขั้นเกือบสุดท้าย เป็นขั้นตอนที่เรียกว่า aggregation เกิดจากกระแสน้ำ/ลมพัดพาเซลล์แพลงก์ตอน มากองรวมกัน แล้วเคลื่อนที่เข้ามา

น้ำเปลี่ยนสี ที่เข้าใกล้ฝั่งแล้ว ไม่นานจะสลายตัวไป ด้วยสาเหตุต่างๆ แล้วแต่พื้นที่ เป็นขั้นตอนสุดท้ายของพัฒนาการ การเกิดน้ำเปลี่ยนสี เรียกว่าขั้นตอนการยุติปรากฏการณ์ ภาพจาก GISTDA แสดงให้เห็นชัดว่าแพลงก์ตอนบลูมในอ่าวไทย มากองรวมกันที่ชายฝั่ง EEC เพราะช่วงนี้ เป็นมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ลมพัดน้ำมารวมอยู่บริเวณนั้น ยังมีแพลงก์ตอนบลูมอีกแบบ ที่เกิดจากกระบวนการบริเวณปากแม่น้ำ

ขอบคุณข้อมูลจาก ดร.ไทยถาวร พี่หวอยของผม ผู้เชี่ยวชาญด้านแพลงก์ตอนบลูม/แพลงก์ตอนพืชของไทย ความรู้เหล่านี้มีประโยชน์มาก แสดงให้เห็นว่าเราต้องใช้ทั้งเทคโนโลยี ทั้งการศึกษาวิจัยเข้ามารวมกัน เพื่อตอบคำถามต่างๆ หวังว่าในอนาคต เราจะเริ่มสร้างระบบที่สามารถแจ้งเตือนสิ่งที่กำลังจะเกิด

...

และจะมีส่วนช่วยเป็นอย่างยิ่งในการดูแลปกป้องกิจการของผู้คน ทั้งประมง ทั้งเพาะเลี้ยง ทั้งท่องเที่ยว ซึ่งทั้งหมดนั้น จำเป็นต้องได้รับความสนับสนุนอย่างจริงจังจากรัฐบาล/ภาครัฐ/ภาคเอกชน เพื่อระดมสรรพกำลัง ในการสร้างและดำเนินการ โลกร้อนแรงขึ้น ทะเลใกล้เดือด เราคงเหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว.

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat