ผ่านเวลาปีกว่ายังไม่มีความคืบหน้าของคดี

สาวผู้เสียหายรายหนึ่งเดินทางไปแจ้งความพนักงานสอบสวนโรงพักท้องที่ บก.น.5 เอาผิดคู่กรณีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตั้งแต่เดือน พ.ค.2565

ถูกโพสต์ข้อความด่าในสังคมออนไลน์ประณามเป็นคนติดผู้ชาย ติดยาเสพติด ทิ้งลูก สร้างปัญหาให้ทางบ้านและคนอื่น พร้อมแนบภาพหนังสือเดินทางที่มีชื่อ นามสกุล และเลขบัตรประจำตัวประชาชนไปประจานจนได้รับความเสียหาย ถูกเกลียดชัง

ชนวนเหตุ “บล็อกการติดต่อ” คู่กรณีที่เบี้ยวนัดเดินทางไปทำงานต่างประเทศ

ตอนแรกเธอรู้สึกอุ่นใจ เมื่อพนักงานสอบสวนยศ พ.ต.ท. เจ้าของคดีดูเหมือนกระตือรือร้นจะติดตามออกหมายเรียกคู่กรณีมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยการส่งเอกสารไปยังภูมิลำเนาที่บ้านเกิดภาคอีสาน

แต่พอนานวันคดีกลับไปไม่ถึงไหน

ด้วยความร้อนใจเธอพยายามทวงถามสารวัตรเจ้าของเรื่องบ่ายเบี่ยง ให้ไปหาบุคคลที่สามมาเป็นพยาน เล่นเอาผู้เสียหายไม่เข้าใจ เพราะพยานหลักฐานแน่นหนา แล้วยังแจ้งด้วยว่า ออกหมายเรียกไป 2 ครั้งแล้ว

ทำไมยังไม่ออกหมายจับ

พอไลน์ซักมากเริ่มอารมณ์ขุ่นมัว

“ทำตามที่ผมบอกแหละครับ ผมไม่ใช่ผู้ต้องหาไม่ต้องมีประเด็นกับผม” นายตำรวจออกอาการไม่พอใจเจ้าทุกข์

เธอเกรงใจ แต่ต้องไล่จี้ความคืบหน้า

สุดท้ายคำตอบที่ได้จากไลน์ของพนักงานสอบสวนชวนให้เธอท้อแท้สิ้นหวัง

“อยากเร็วต้องฟ้องเองครับ”.

สหบาท