ปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุมขับเคลื่อนโครงการ "หมู่บ้านรักษาศีล 5" ประจำปี 2566 มุ่งเน้นการส่งเสริมพัฒนาจิตใจประชาชน โดยนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา มาประยุกต์สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อให้ทุกพื้นที่เป็น "หมู่บ้านยั่งยืน"
วันที่ 3 ก.ค. 2566 ที่หอประชุมพุทธมณฑล อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร เป็นองค์ประธานการประชุม มอบนโยบายการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา "หมู่บ้านรักษาศีล 5" ประจำปี 2566 พร้อมนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
โดยสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร ได้กล่าวให้โอวาท และมอบนโยบายในโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา "หมู่บ้านรักษาศีล 5" ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งจากคณะสงฆ์ ในการดำเนินโครงการมาตั้งแต่ต้น ที่สามารถสร้างประโยชน์ ต่อการสร้างสังคมให้มีความสุข ด้วยหลักพุทธธรรม การดำรงชีวิต โดยการนำหลักศีล 5 ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคมและพัฒนาขับเคลื่อนโครงการจวบจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งในปี 2566 ได้มีการจัดทำระเบียบและแต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการร่วมกัน ทั้งในส่วนของคณะสงฆ์ ภาครัฐ และภาคเอกชน ด้วยการกำหนดกรอบ ทิศทาง แนวนโยบาย และยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาทางด้านจิตใจให้มากขึ้น โดยยึดหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เป็นหัวใจสำคัญ คือ หลักไตรสิกขา ประกอบด้วย
- อธิศีลสิกขา คือ ศีลอันยิ่ง ศีล เป็นอาภรณ์ เป็นเครื่องประดับอันประเสริฐ เป็นหลักการพัฒนาระดับความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมทางสังคม ให้ครอบครัว สังคม ชุมชน สามารถ มั่นคงตั้งมั่นอยู่ในศีล มีศีล 5 เป็นเบื้องต้นนั้น สังคมก็จะเป็นสุข และยั่งยืน
- อธิจิตตสิกขา คือ จิตอันยิ่ง กล่าวคือ สมาธิ อันเป็นหลักในการพัฒนาจิตใจให้มี สมรรถภาพ ประสิทธิภาพในการคิด พิจารณา ไตร่ตรอง ให้ทราบถึงเหตุและผลอันสมควร ให้ส่งเสริมการเจริญวิปัสสนากรรมฐานเบื้องต้น อันเป็นการธรรมที่ควรเจริญ ให้จิตใจเกิดความสงบสุข เกิดความสมดุลในชีวิต
- อธิปัญญาสิกขา คือ ปัญญาอันยิ่ง เป็นหลักพัฒนาความรู้ความเข้าใจสามารถคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ แยกแยะสิ่งทั้งหลายให้เกิดความแจ่มแจ้ง โดยอาศัยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เป็นเครื่องเสริมสติปัญญาให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น ศีล สมาธิ ปัญญา จึงเป็นหลักสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการให้เกิดคุณภาพในด้านจิตใจ
...
ทั้งนี้ ต้องบูรณาการร่วมกันกับศิลปวัฒธรรม อันเป็นอัตลักษณ์ของชุมชน ความเป็นตัวตนของชุมชน การประกอบสัมมาชีพ ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อให้การพระพุทธศาสนาดำเนินควบคู่ไปกับศิลปวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติให้คงอยู่สืบไป เพื่อประโยชน์ให้พุทธศาสนิกชน ตลอดจนประชาชนทั้งหลายมีศีล มีธรรม มีสุข ได้อย่างเป็นรูปธรรม"
สำหรับในการพัฒนาที่ยั่งยืน คือ ให้พระเถรานุเถระ ผู้นำในทุกจังหวัด ใช้สำนักปฏิบัติธรรมที่มีในทุกจังหวัดเป็นศูนย์กลาง ในการดำเนินงานโครงการดังกล่าวในแต่ละภูมิภาค สันติสุขจึงจะเกิดขึ้นได้ โดยประชาชนต้องมีปัญญา ดังนั้น เราใช้สถานปฏิบัติธรรมผนวกรวมกับวัฒนธรรมของชุมชนในแต่ละถิ่น นำเข้ามาเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ควบคู่กับอนุรักษ์ศาสนา เพื่อให้การปฏิบัติธรรมรักษาศีลยั่งยืนสืบไป นำไปสู่ประชาชนมีความสุขและความสันติสุข
และขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เชื่อมโยงโครงการกล่าวกับยุทธศาสตร์ 6 ด้าน พร้อมทั้งต้องติดตาม ประเมิน และสรุปผลการดำเนินงานเชิงสถิติ เพื่อนำจุดอ่อน-จุดแข็งมาพัฒนาให้ครอบคลุมในทุกด้านให้สอดคล้องกับบริบทสังคมที่เกิดขึ้นในระดับประเทศ ซึ่งจะทำให้หมู่บ้าน ชุมชน รู้เท่าทัน และประสบพบเจอแต่ความสุข
จึงเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ ในการช่วยกันขับเคลื่อนโครงการสำคัญ โดยคณะกรรมการบริหารกลาง โดยกำหนดเป้าหมายในระยะเริ่มต้น และการรายงานผล สรุปผลการดำเนินโครงการในรอบปีที่ผ่านมา โดยผู้แทนแต่ละภูมิภาค สรุปปัญหาและอุปสรรค พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา และขอให้การขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา "หมู่บ้านรักษาศีล 5" เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สำเร็จประโยชน์ และมีความมั่นคงยั่งยืนสืบไป
ด้าน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เผยถึงความเมตตาที่เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี ได้มีความเต็มใจ และรับเป็นธุระตามที่มหาเถรสมาคมได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการ ให้ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ดำรงตำแหน่งสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อน "หมู่บ้านรักษาศีล 5" เพื่อช่วยกันหาแนวทางและวิธีการขับเคลื่อนสร้างพลเมืองดี ให้เกิดขึ้นกับประเทศชาติ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ "การพัฒนาประชาชนและประเทศชาติไปสู่ความยั่งยืน"
กระทรวงมหาดไทย ได้รับเมตตาจากคณะสงฆ์ เป็นหลักชัยการบูรณาการขับเคลื่อนงานโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง ตามที่ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการ วัด ประชา รัฐ สร้างสุข และ MOU บทบาทในการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน และอีกหนึ่งโครงการที่สำคัญ คือ "หมู่บ้านรักษาศีล 5" และรับมอบหมายเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว มีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการ ในการปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัด ดังนั้น ภารกิจทุกงานของทุกกระทรวง ทบวง กรม จึงเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะเป็นแม่ทัพใหญ่ที่จะต้องขับเคลื่อนงานในพื้นที่เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (ผอ.พศจ.) ผู้เป็นฝ่ายเลขานุการงานด้านกิจการคณะสงฆ์ของผู้ว่าราชการจังหวัด จึงเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนงานของผู้ว่าราชการจังหวัด ในการสนองงานคณะสงฆ์ให้ดีได้ ซึ่งงานจะดีได้ขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งของทุกท่านในการที่จะใช้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ทำงาน ซึ่งคำว่า "ใช้" หมายความว่า หน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดี คือ ผอ.พศจ. ต้องทำให้ผู้บังคับบัญชาทำในสิ่งที่ดีตามที่ตนเสนออยากให้ทำได้ เช่นเดียวกันกับหน้าที่ในการขับเคลื่อน "หมู่บ้านรักษาศีล 5"
ซึ่งปัจจุบันได้น้อมนำพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา "โครงการหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)" คือ การสร้างความสุข ทำให้ประชาชนมีความรักสามัคคี ด้วยการรักษาสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดี ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของ "หมู่บ้านรักษาศีล 5" ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด สามารถนำไปร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการงานไปสู่การเป็นหมู่บ้านยั่งยืน
โดยทำให้ยุทธศาสตร์และนโยบายของหมู่บ้านรักษาศีล 5 นี้ บรรจุอยู่ในเนื้องานของหมู่บ้านยั่งยืนด้วย เพื่อทำให้ทุกภาคีเครือข่าย ร่วมกันขับเคลื่อนงาน "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดยจะสนองงานคณะสงฆ์ด้วยการดำเนินการขับเคลื่อนงานอย่างต่อเนื่อง โดยจัดตั้งคณะอนุกรรมการในการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว ได้แก่
...
- การประเมินผลของการขับเคลื่อนการดำเนินการที่ผ่านมาภายใต้กระทรวงมหาดไทย เพื่อวิเคราะห์หาจุดอ่อน-จุดแข็ง
- ยกร่างแผนปฏิบัติการ 2566 ของกระทรวงมหาดไทย ให้สอดคล้องกับแนวทางมหาเถรสมาคม ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
- การช่วยกันไปให้กำลังใจ เร่ง และติดตาม ขยายผลไปสู่สถานปฏิบัติธรรมที่ตั้งอยู่ในทุกจังหวัด
ซึ่งต้องกราบขอความเมตตาจากพระสังฆาธิการและพระเถรานุเถระทุกรูป ณ ที่นี้ และที่ติดตามรับชมทางการถ่ายทอดสด ได้กรุณาเมตตาถวายเรียนแจ้งกับเจ้าอาวาสในทุกวัดของทุกจังหวัด รวมถึงสำนักปฏิบัติธรรมในทุกพื้นที่ ช่วยรับเป็นธุระ เป็นสาขาของสถานปฏิบัติธรรมด้วย และขอให้ทุกท่านได้ช่วยกันเพื่อทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสุขอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ขอฝากความหวังกับผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ในการไปช่วยเป็นธุระทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้เป็นผู้นำและผู้บังคับบัญชาของข้าราชการใน 76 จังหวัด ได้ทำในสิ่งที่ดีตามที่พวกเราได้รับมอบหมาย ทำให้ทุกพื้นที่ของประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็น "หมู่บ้านยั่งยืน" ที่ประชาชนมีความมั่นคงและมีความสุขอย่างยั่งยืน.