สังคมไทยในช่วงปี 2563-2565 ได้ซ้อมรับมือ “โควิด–19” ด้วยสมุนไพร “ฟ้าทะลายโจร” กันมาแล้ว และในอนาคตอันใกล้ อาจจะยังมี “พายุใหญ่” อีกหลายลูกที่ถาโถมเข้ามาไม่ว่าจะเป็นสภาวะโลกร้อน โรคอุบัติใหม่ โรคระบาด ฝุ่นพีเอ็ม 2.5

สมุนไพรต้นเล็กๆซึ่งเป็นทรัพย์ของแผ่นดินอาจเป็นคำตอบในการต่อสู้กับวิกฤติที่รออยู่เบื้องหน้า ดังนั้น การวิจัยพัฒนาต่อยอดของดีที่เรามีอยู่จึงเป็นงานเร่งด่วนที่ต้องเตรียมเรือไว้ให้พร้อมก่อนพายุใหญ่ การแพร่ระบาดโควิดช่วงสามปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า...สังคมไทยจำเป็นต้องมีการพึ่งพาตนเองด้านยา

ในสถานการณ์ที่รอตรวจ รอเตียง รอตาย สมุนไพรที่ชื่อ ฟ้าทะลายโจร ถูกค้นหาทุกซอกทุกมุมของแผ่นดินในยามที่วัคซีนยังไม่มา...ยาแผนใหม่ก็เข้าไม่ถึง โชคดีที่ฟ้าทะลายโจรขึ้นกระจายอยู่ทุกภาคประเทศไทย คนในหลายชุมชนจึงได้อาศัยเรือน้อยที่ชื่อฟ้าทะลายโจรและสมุนไพรอื่นๆฝ่าคลื่นลมรักษาชีวิตรอดมาได้

ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร ประธานกรรมการบริหารฝ่ายพัฒนาภูมิปัญญาไทย มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ผู้มีประสบการณ์ในการศึกษาและวิจัยสมุนไพรฟ้าทะลายโจร มาตั้งแต่ปี 2530 เท้าความถึงเส้นทางการใช้สมุนไพรรสขม แก้ไข้ ไอ หวัด เจ็บคอ ท้องเสีย ให้ฟังว่า

...

ตั้งแต่ปี 2529 ภก.สุพจน์ อัศวพันธุ์ธนกุล โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเอง ได้เก็บรวบรวมองค์ความรู้ของชาวบ้านในการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจร นำมาตีพิมพ์เป็นหนังสือ ต่อมาก็ได้นำมาใช้ในโรงพยาบาล และมีการผลักดันให้เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ ในปี 2542

ทำให้ฟ้าทะลายโจรเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น และมีประสบการณ์การใช้อย่างแพร่หลายไปทั่ว

ช่วงปี 2564-2565 ภญ.สุภาภรณ์ ได้เร่งสำรวจสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในทุกภูมิภาคพบว่าเมืองไทยเป็นแหล่งสำคัญของฟ้าทะลายโจร พบได้ทั่วไปตามสองข้างทางและตามป่าในเขาหินปูน ความหลากหลายของสายพันธุ์ที่พบทำให้เกิดความคิดว่าต้องเตรียมจดทะเบียนสายพันธุ์ฟ้าทะลายโจร

เพื่อมิให้เกิดกรณีที่บริษัทยาต่างประเทศเข้ามาแอบจดทะเบียนสายพันธุ์ว่าเป็นพันธุ์ใหม่ที่เขาพัฒนาขึ้น เกษตรกรหรือบริษัทที่ผลิตขายต้องจ่ายเงินให้เขา โดยเฉพาะเมื่อประเทศไทยเข้าสู่ “ข้อตกลงความเข้าใจและความคืบหน้าเพื่อหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิก” (ข้อตกลงซีพีทีพีพี–CPTPP)

พร้อมกันนั้นยังได้ทำวิจัย โดยได้ใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ขั้นสูงที่ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยมหิดลและคณะเภสัชศาสตร์ มหา วิทยาลัยมหิดล

ภายใต้การจัดตั้งหน่วยวิจัยชีวเภสัชศาสตร์เพื่อสุขภาวะวัยชรา ในการศึกษาโปรติโอมิกส์และเมตาบอโลมิกส์ ในพลาสมาของผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการน้อย (ไม่มีปอดอักเสบแรกรับ) เพื่อเปรียบเทียบผลของการได้รับยาฟ้าทะลายโจรที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 5 วัน พบว่า...

การได้รับยาฟ้าทะลายโจรในปริมาณดังกล่าว มีผลเปลี่ยนแปลงปริมาณโปรตีนใน Coagulation cascade ที่ชี้ให้เห็นว่า ยาฟ้าทะลายโจรน่าจะลดการเกิดลิ่มเลือดในผู้ป่วยโควิด–19 กลุ่มนี้ได้

โดยลิ่มเลือดดังกล่าวเป็นสาเหตุของการเกิดอาการที่รุนแรงในผู้ป่วยโควิด รวมถึงเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการลองโควิด (Long Covid) ทั้งนี้ยังต้องทำการศึกษาด้วยเทคนิคอื่นควบคู่กันไป เพื่อยืนยันผลดังกล่าว

ภญ.สุภาภรณ์ ย้ำว่า ยาเป็นปัจจัย 4 เป็นสิ่งที่ประเทศไทยไม่สามารถพึ่งตนเองได้เลยแม้แต่ยารักษาโรคพื้นฐานที่ผลิตเองก็เป็นการนำสารเคมีจากต่างประเทศมาแปรรูป แต่ละปีมีมูลค่านับแสนล้าน (ราคาหน้าโรงงาน) สิ่งนี้เป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่จุดประกายให้เกิดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติในปี พ.ศ.2547

ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อการพัฒนาองค์ความรู้ การส่งเสริมให้ประชาชนพึ่งพาตนเอง การเสริมศักยภาพชุมชน การสร้างเครือข่ายและการสร้างเศรษฐกิจให้ชุมชน

ภายในงานมหกรรมสมุนไพรมีกิจกรรมทั้งการประชุมวิชาการ งานนิทรรศการ การออกร้าน ลานวัฒนธรรม ที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือก

ในงานนี้จะเห็นมิติสุขภาพของคนไทยทั้ง 4 ภาค ทั้งด้านอาหารพื้นบ้าน สมุนไพรที่ไม่เคยรู้จักมีทั้งแจกและโชว์ ผู้เข้าชมงานมีโอกาสได้พบการแพทย์หลากหลายแผน ซึ่งมีทั้งหมอแผนไทย หมอพื้นบ้าน หมอแผนจีน หมอนวด และนวัตกรรมที่เติบโตขึ้นทุกปี

ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา งานมหกรรมสมุนไพรได้เชื่อมต่อชนบทกับเมือง การแพทย์ดั้งเดิมกับสังคมสมัยใหม่ สมุนไพรกับการศึกษาวิจัย ลดความแปลกแยกของคนไทยกับยาจากต้นไม้ใบหญ้าซึ่งรูปธรรมที่ชัดเจนคือ คนไทยส่วนหนึ่งไม่ลังเลที่จะใช้ฟ้าทะลายโจร สู้กับโควิด-19 เป็นทางเลือกแรก

...

ในส่วนของ “อภัยภูเบศร” ปีนี้จัดเต็มในการพัฒนาฟ้าทะลายโจร มีผลิตภัณฑ์ใหม่และงานวิจัยฟ้าทะลายโจรที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งยังมีการแจกต้นไม้ วันละ 300 ต้น แจกหนังสือวันละ 200 เล่มเช่นเคย

นับรวมไปถึงการต่อยอดผลิตภัณฑ์จากฟ้าทะลายโจรในปีนี้ มีทั้ง อภัยเฮิร์บการ์ด ซึ่งเป็นสบู่ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ทั้งในรูปแบบสบู่ก้อนและสบู่เหลว มีความอ่อนโยน มีสารสกัดฟ้าทะลายโจรปริมาณสูง เหมาะกับผู้ที่ผิวมีปัญหา ผิวแห้งคัน เป็นขุย และเหมาะกับผู้เป็นโรคสะเก็ดเงิน

ส่วน อภัยเม้าท์สเปรย์ มีส่วนผสมของสารสกัดฟ้าทะลายโจรสมุนไพรที่ดูแลช่องปากและระบบทางเดินหายใจ มีการศึกษาทางคลินิก (ศึกษาในมนุษย์) ว่าสามารถลดอาการเจ็บคอ ไอ กลืนลำบาก ได้ดีกว่าสเปรย์พ่นคอสมุนไพรที่นำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งยังช่วยให้ชุ่มคอ และทางเดินหายใจสดชื่น

และ...ที่คาดไม่ถึงอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งคือ ฟ้าทะลายยุง มีส่วนผสมของสารสกัดฟ้าทะลายโจร ช่วยไล่ยุง ผ่านการทดสอบการกันยุงได้ถึง 2.7 ชั่วโมง สูงกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ 2 ชั่วโมง ผ่านการทดสอบการระคายเคือง และไม่มีกลิ่นฉุนแบบตะไคร้หอม ใช้ได้กับผิวบอบบาง และสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข และแมว

...

ย้ำว่างานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 20 ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน-2 กรกฎาคม 2566 ที่อิมแพ็คเมืองทองธานี ฮอลล์ 11-12 ชวนให้ติดตามการพึ่งของสังคมไทยด้านสุขภาพต่อไปอย่างยั่งยืน

ประธานกรรมการบริหารฝ่ายพัฒนาภูมิปัญญาไทย มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร บอกอีกว่า จากบทเรียนของโควิด-19 คนไทย ควรตระหนักถึงพายุลูกต่อไปที่อาจเกิดขึ้น สถานการณ์ของโลกปัจจุบันแทบจะหาความแน่นอนไม่ได้ ทั้งสงคราม ทั้งสภาวะโลกร้อน โรคระบาด โรคอุบัติใหม่

เหตุเหล่านี้...สามารถเกิดขึ้นได้ทุกขณะ ในสถานการณ์ที่ขาดแคลนยา เราจะอยู่กันอย่างไร ทั้งโรคเรื้อรังและโรคเฉียบพลันให้หวนนึกถึงกระถางยาหน้าบ้าน ป่าชุมชนที่เคยเป็นปัจจัย 4 ความรู้ของผู้คนต่อโรคและการใช้สมุนไพรในการรับมือกับพายุที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

“อย่างไรก็ตาม กระแสลมที่พัดมาก็ใช่จะเป็นพายุร้ายเสียทั้งหมด ความต้องการการแพทย์แนวธรรมชาติที่มีความปลอดภัยกว่าของสังคมโลกที่เติบโตขึ้น ถ้าเราเกาะกระแสลมนี้ให้เรือแล่นไปจากทรัพย์แผ่นดินและภูมิปัญญาที่เรามี เราก็จะเป็นผู้นำด้านการบริการสุขภาพและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องในสังคมโลก”

...

ที่สุดแล้ว...จะเป็นการสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนให้กับประเทศชาติได้อีกมิติหนึ่ง.