MEA เดินหน้า โครงการ MEA Energy Awards 2023 หรือ โครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร พ.ศ. 2566 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 หลังจากประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมามีอาคารเข้าร่วมแล้วมากกว่า 500 แห่ง จนถึงปัจจุบันมีอาคารผ่านเกณฑ์ประเมินมาตรฐานอาคารประหยัดพลังงานของ MEA ไปแล้วทั้งสิ้น 313 แห่ง และปีที่ 7 เริ่มเปิดรับสมัครอาคารเข้าร่วมโครงการฯ แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า MEA ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบด้านระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการนั้น เน้นการขับเคลื่อน "พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร (Energy for City Life Energize Smart Living)" ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่ให้บริการ ให้มีความทันสมัย มั่นคง ปลอดภัย เป็นพลังงานสำหรับเมืองหลวง หรือ เมืองมหานคร และขับเคลื่อนองค์กรให้สอดคล้องกับภารกิจ "สร้างสรรค์นวัตกรรม ขับเคลื่อนระบบพลังงานอัจฉริยะเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร" ผ่านค่านิยม "CHANGE" เน้นการปรับเปลี่ยนให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยได้จัด โครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร หรือ MEA Energy Awards นี้มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2556 จนถึงปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร ทำให้เจ้าของอาคารเกิดแรงจูงใจในการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างมาตรฐานการใช้พลังงานที่เหมาะสม สำหรับอาคารกลุ่มเป้าหมายในแต่ละประเภท โดยจัดให้มีการประเมินมาตรฐานอาคารประหยัดพลังงาน เพื่อมอบรางวัลตราสัญลักษณ์ MEA Energy Awards ให้กับอาคาร ภายใต้แนวคิด "การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและคุณภาพอากาศได้มาตรฐาน" ซึ่งอาคารต้องผ่านเกณฑ์ประเมินด้านการใช้พลังงานไฟฟ้า (MEA Index) และเกณฑ์การประเมินด้านคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ)

สำหรับการดำเนินโครงการ MEA Energy Awards 2023 ซึ่งจัดเป็นปีที่ 7 แล้ว เมื่ออาคารได้รับตราสัญลักษณ์ MEA Energy Awards แล้ว อาคารจะได้รับสิทธิประโยชน์ เป็นส่วนลดค่าบริการมูลค่าสูงสุด 30,000 บาท จาก 1) งานบริการล้างเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน (Split type) 2) งานบริการติดตั้ง EV Charger และ 3) งานบริการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า (PM Preventive Maintenance) และมีสิทธิ์ขอรับเงินสนับสนุนการลงทุนปรับปรุงการใช้พลังงานในอาคารให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ตามเงื่อนไขที่กำหนด โดย MEA ได้ให้การสนับสนุนสูงสุดถึงอาคารละ 1,000,000 บาท ซึ่งจะเปิดรับ ข้อเสนอในการปรับปรุงฯ รวม 3 รอบ โดยมีงบประมาณสนับสนุนการลงทุนปรับปรุงการใช้พลังงานในอาคารให้มีประสิทธิภาพ จำนวน 15 ลบ. และมีระยะเวลาดำเนินการ ถึงปี พ.ศ. 2567 ซึ่งจะทำให้เกิดผลประหยัดด้านพลังงานไฟฟ้าในระดับประเทศและช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของอาคารลงได้เป็นจำนวนมาก

นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ MEA ได้ต่อยอดโครงการ โดยได้เพิ่มประเภทอาคารกลุ่มเป้าหมายใหม่ ในการเปิดรับสมัครอาคารเข้าร่วมโครงการในปีที่ 7 คือ อาคารประเภทร้านกาแฟ ซึ่งเป็นอาคารที่มีจำนวนมาก ประชนทั่วไปเข้าถึงการใช้บริการได้ง่าย ส่งเสริมการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมกับ MEA ในการลดใช้พลังงานได้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น และได้ปรับปรุงเกณฑ์มาตรฐานของ MEA เพื่อใช้ประเมินประสิทธิภาพพลังงานซึ่งได้จัดทำขึ้นใหม่ โดยไม่ซ้ำซ้อนกับเกณฑ์ที่มีใช้อยู่ในประเทศไทย และพัฒนาปรับปรุงให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีปัจจุบัน โดยใช้เกณฑ์มาตรฐานใน ด้าน MEA Index (Management of Energy Achievement Index) เป็นตัวชี้วัดระดับการใช้พลังงานที่ MEA ได้พัฒนาขึ้นใหม่ และให้ความสำคัญกับด้านคุณภาพของอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality : IAQ) ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของผู้ใช้งานอาคาร MEA ใช้เกณฑ์ประเมิน IAQ ที่มีความเหมาะสมต่อผู้ใช้อาคารตามหลักสากลเป็นที่ยอมรับ โดยให้ความสำคัญในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพารามิเตอร์ต่างๆ ประกอบด้วย CO, CO2, PM 2.5, PM 10, TVOCs, Formaldehyde อ้างอิงกับค่ามาตรฐานของทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้ทั้ง 2 เงื่อนไข เป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับพิจารณาตัดสินในการมอบตรา MEA Energy Awards ให้กับอาคารที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามที่กำหนด

สำหรับ โครงการ MEA Energy Awards 2023 ในปีที่ 7 นี้ MEA มุ่งเน้นการส่งเสริมให้ตราสัญลักษณ์ MEA Energy Awards ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งจะเป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้ใช้อาคารช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของอาคารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ฯ โดยมีกลุ่มอาคารเป้าหมายที่เปิดรับสมัคร รวม 9 ประเภท ประกอบด้วย
1) ประเภทอาคารโรงพยาบาล
2) ประเภทอาคารโรงแรม
3) ประเภทอาคารสำนักงาน
4) ประเภทอาคารศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า
5) ประเภทอาคารไฮเปอร์มาร์เก็ต
6) ประเภทอาคารมหาวิทยาลัย
7) ประเภทอาคารโรงเรียน
8) ประเภทร้านค้าขนาดเล็ก/ร้านสะดวกซื้อ
9) ประเภทร้านกาแฟ

ผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า MEA Energy Awards จะเป็นต้นแบบการประเมินมาตรฐานอาคารประหยัดพลังงาน ที่ทุกท่านภาคภูมิใจ และสร้างกระแสให้สังคมหันมา ใส่ใจกับการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างจริงจังมากขึ้น ถือเป็นการช่วยให้ประเทศของเราลดใช้พลังงาน เพื่อให้เรามีพลังงานใช้ได้อย่างเพียงพอในอนาคต และมุ่งหวังที่จะได้เห็นการร่วมมือกันของทุกภาคประชาสัมพันธ์ส่งเสริมสนับสนุนให้อาคารต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์พลังงานในระยะยาว จากผลความสำเร็จโครงการ ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันมีอาคารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ อาคารประหยัดพลังงานของ MEA ทั้งสิ้น 313 แห่ง มีจำนวนอาคารเข้าร่วม 512 แห่ง สรุปผลดำเนินโครงการ รวม 6 ปี อาคารดำเนินมาตรการปรับปรุงรวม 374 มาตรการ ทำให้มีผลประหยัดพลังงานไฟฟ้ารวม 46.33 ล้านหน่วย คิดเป็นเงินค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้ 180.93 ล้านบาท ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ 26,589 ตัน

โครงการ MEA Energy Awards 2023 จะดำเนินการระหว่างเดือนมิถุนายน 2566 ถึง เดือนกรกฎาคม 2567 และมีกำหนดเปิดรับสมัครอาคารเข้าร่วมตามเป้าหมาย จำนวน 120 แห่ง ในเขตพื้นที่ให้บริการของ MEA คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ตั้งแต่วันนี้ (27 มิถุนายน 2566) ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2567

MEA ขอเชิญอาคารที่สนใจ สมัครเข้าร่วมโครงการ MEA Energy Awards 2023 เพื่อขอรับการประเมิน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ อาคารสามารถส่งใบสมัคร พร้อมลงนามรับรองข้อมูลได้ที่อีเมล meaaward@gmail.com และดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.meaenergyawards.info สอบถามข้อมูล ติดต่อที่ปรึกษาโครงการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) หมายเลข 0-2470-9604-6 ต่อ 1202, 1302 หรือ 09-5775-7972 , 08-4011-3888 (วันและเวลาราชการ) หรือติดตามโครงการ ได้ที่ @meaenergyawards และ www.facebook.com/MEAAward

#เปิดโครงการ #ปีที่7
#MEAENERGYAWARDS
#อาคารประหยัดพลังงาน
#การไฟฟ้านครหลวง #MEA
#พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร