เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมานี้เอง พาดหัวขนาดกลางในหน้าข่าวเศรษฐกิจของไทยรัฐ ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่าผมมีเรื่องที่อยากจะเขียนถึงอยู่เรื่องหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้เขียนเสียทีและทำท่าจะลืมเสียแล้วด้วยซ้ำถ้าไม่ได้อ่านเจอพาดหัวข่าวที่ว่านี้ละก็

ผมขออนุญาตคัดลอกหัวข่าวที่พาดไว้ในหน้า 9 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ กรอบล่วงหน้าประจำวันอังคารที่ 13 มิถุนายน 2566 มาลงทั้งหมดโดยไม่ตัดทอนเลยดังนี้ครับ

“ยุทธศักดิ์ฝากผู้ว่าการ ททท. คนใหม่สานงานต่อ...เปิด 4 ปัจจัย ฟื้นท่องเที่ยวสู่ปกติ”

คำว่า “ยุทธศักดิ์” ในหัวข่าวนี้ก็คือท่านผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คนปัจจุบัน ยุทธศักดิ์ สุภสร ที่จะต้องลุกจากตำแหน่งในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ หรืออีก 2 เดือนเศษข้างหน้านี้ หลังจากได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาดำรงตำแหน่งครบ 2 สมัย เป็นที่เรียบร้อย

ส่วนท่านผู้ว่าคนใหม่ตามที่คณะกรรมการสรรหาได้เลือกไว้จากผู้สมัครหลายๆคน ก็คือ น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าด้านการตลาดในประเทศของ ททท.ในปัจจุบันนั่นเอง

...

การที่ท่านผู้ว่าฯคนเก่าออกมาส่งไม้ล่วงหน้าแก่ผู้ว่าฯคนใหม่ถึง 2 เดือน เช่นนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดีและเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง

เพราะจะได้มีเวลาพูดคุยมีเวลาอธิบายในรายละเอียด เพื่อให้ผู้ที่จะรับไม้ต่อเกิดความเข้าอกเข้าใจ สามารถรับไม้ไปดำเนินการเหมือนนักวิ่งผลัด 4×100 หรือ 4×400 ที่มีการฝึกซ้อมส่งไม้อย่างดียิ่งทำให้การส่งไม้เป็นไปอย่างราบรื่น...ไม่ทำให้ไม้หล่นทั้ง โดยตั้งใจและไม่ตั้งใจเหมือนนโยบายดีๆหลายเรื่องของบางหน่วยงานในประเทศไทย

จากข่าวที่หน้าเศรษฐกิจไทยรัฐสรุปไว้นโยบายที่ท่านผู้ว่ายุทธศาสตร์ฝากไว้กับว่าที่ผู้ว่าฯฐาปนีย์ ได้แก่ นโยบายท่องเที่ยวทั้งปี, ท่องเที่ยวยั่งยืน และท่องเที่ยวเท่าเทียม เพื่อกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างเป็นธรรม ซึ่งล้วนแต่เป็นนโยบายที่ดีงามควรแก่การรับไปปฏิบัติต่อทั้งสิ้น

รายละเอียดของแต่ละนโยบายเป็นอย่างไร? ผมคงไม่ลงลึกละครับ ขอเชิญท่านที่สนใจกลับไปอ่านข่าวอีกครั้งในหน้าเศรษฐกิจหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับประจำวันอังคารที่ 13 มิ.ย.ตามที่แนะนำไว้ข้างต้น

ประเด็นที่ผมตั้งใจจะเขียนถึงท่านผู้ว่าการ ยุทธศักดิ์ สุภสร ในวันนี้ โดยตรงก็คือจะถือโอกาสขอบคุณท่านและปรบมือให้ท่านด้วยความชื่นชมในผลงานตลอด 8 ปีของท่านน่ะครับ

ที่ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวของเราเจริญเติบโตนำรายได้เข้าสู่ประเทศไทยอย่างมหาศาลในปัจจุบันนี้

ในช่วงที่บูมสุดขีดระยะแรกๆอาจจะมีปัญหาเรื่อง ทัวร์ศูนย์เหรียญ จากจีน เกิดขึ้นจนเป็นรอยด่างพร้อยของการท่องเที่ยวอยู่บ้าง แต่ท่านก็เสนอแนวทางแก้ไขและลงมือแก้ไขจนปัญหาคลี่คลายลงไปมาก

หลังจากยุคทัวร์ศูนย์เหรียญผ่านไปประเทศไทย รวมถึงทุกประเทศในโลกนี้ด้วย ต่างก็ต้องเผชิญกับปัญหาโควิด-19 ทำให้การเดินทางการท่องเที่ยวทั้งโลกสะดุดหยุดลง

ธุรกิจท่องเที่ยวล้มละลายไปตามๆกัน ท่านและองค์กรของท่านก็หันมาสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ และเสนอโครงการต่อลมหายใจหลายๆโครงการ ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวเอาตัวรอดได้ในระดับหนึ่งก่อนจะค่อยๆฟื้นกลับมา หลังประเทศไทยมาเริ่มเปิดประเทศในปัจจุบัน

ผลงานของท่านที่ผมเขียนมานี้ เขียนเท่าที่นึกออก และเท่าที่เนื้อที่อันจำกัด จะนำลงได้เท่านั้น เพราะในความเป็นจริง น่าจะมีเยอะกว่านี้

และในความเป็นจริง ท่านก็ยังอยู่อีกตั้ง 2 เดือนกว่า...ไม่น่าจะต้องรีบขอบคุณกันเสียตั้งแต่ตอนนี้

แต่ก็นั่นแหละครับยุคนี้ทุกอย่างผ่านไปเร็ว และมีข่าวคราว จะให้เขียนถึงเกิดขึ้นมากมายก่ายกองในแต่ละวัน ดังนั้นนึกอะไรออกต้องรีบเขียนไว้ก่อน ไม่งั้นอาจจะลืมเขียนถึงเอาได้จริงๆ

จึงถือโอกาสขอบคุณท่านเสียตั้งแต่วันนี้ที่นึกออกเลยดีกว่า...พร้อมทั้งขออวยพรให้ท่านโชคดีมีงานใหม่ ทำโดยไม่ชักช้าหลัง 31 สิงหาคมนี้

คนมีความสามารถเช่นท่าน คงหางานไม่ยากหรอกครับ...ไม่รู้ซีอีก 2 เดือนข้างหน้า การจัดตั้งรัฐบาลอาจเสร็จสิ้นแล้วกระมัง...ท่านใดจากพรรคไหนจะมาเป็นนายกรัฐมนตรียังไม่รู้? รวมทั้งใครจะมาเป็น รมต.กระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา ก็ยังไม่รู้?

สำหรับตำแหน่งหลังเนี่ยถ้ายังหาไม่ได้ ผมฝากชื่อท่านยุทธศักดิ์ไว้ให้รัฐบาลใหม่พิจารณาด้วยคนก็แล้วกัน...ท่านจะว่างงาน พอดีเลยครับช่วงเวลาที่ว่า!

“ซูม”