“วิสนุ ปราสาททองโอสถ” จเร ตำรวจแห่งชาติ ฉุนขาด หลังนำ คณะตรวจสอบคดีสติกเกอร์ส่วยรถบรรทุก ออกสุ่มตรวจหน่วยงานที่ถูกร้องเรียน พบ กก.2 บก.ทล. มีตำรวจชั้นประทวนปฏิบัติงานเพียง 3 นายที่เหลือหายตัวหมดตั้งแต่ ผกก.-สว. สั่งเขียนรายงานด่วน เจ้าตัวเผยสั่งตรวจสอบตำรวจทั่วประเทศที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ภายใน 15 วันต้องรู้เรื่อง ขณะที่ “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” หอบข้อมูลส่วยน้ำมันเถื่อนมามอบให้ “รองโจ๊ก” พบเป็น ขบวนการใหญ่ทำมานานกว่า 5 ปี มีความเชื่อมโยง กับตำรวจ บช.ภ.1 ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี

ที่สำนักงานจเรตำรวจ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 มิ.ย. พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงขั้นตอนการตรวจสอบตำรวจที่เกี่ยวข้องส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก หลังนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เดินทางเข้ายื่นเบาะแสเป็นข้อมูลเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ว่าในส่วนของจเรตำรวจได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ฏิษพจน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร.รักษาราชการแทนรองจเรตำรวจ เป็นประธานคณะทำงานในเรื่องนี้ โดยมุ่งเน้นตรวจสอบตำรวจภูธรในสังกัดต่างๆที่ปรากฏข้อมูลมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อาทิ บก.ภ.จ.นครปฐม ส่วนกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) จะเป็นผู้ดำเนินการลงโทษตามขั้นตอนทางวินัย ซึ่งการทำงานของจเรตำรวจจะทำแบบคู่ขนานกันไปเพื่อความรวดเร็ว

“นอกจากนี้ยังต้องหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ เช่น กรมการขนส่งทางบก เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะยาว เพราะมีเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องข้อกฎหมายหรือเรื่องของเครื่องชั่งน้ำหนักในแต่ละพื้นที่อาจจะมีความ คลาดเคลื่อนกันเล็กน้อย 1-200 กิโลกรัม ซึ่งต้องมาหารือกันอีกครั้ง ยืนยันต่อจากนี้ผู้ประกอบการขนส่งรถบรรทุกที่ปฏิบัติถูกต้องจะได้รับความสะดวกสบายในการขนส่งตามกฎหมาย ไม่มีการกลั่นแกล้งหรือการขัดขวางในการขนส่ง ภายใน 15 วันจะมีความชัดเจนว่ามีตำรวจนายใดบ้างที่ถูกลงโทษทางวินัย” พล.ต.อ.วิสนุกล่าว

...

ด้าน พล.ต.ท.ฏิษพจน์กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลที่นายวิโรจน์นำมาให้ พบไม่ได้ระบุตัวพยาน ทำให้คณะทำงานต้องสืบสวนข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อระบุตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือบุคคลที่สามารถให้ข้อมูลในฐานะพยานได้ สั่งการให้กระจายไปตรวจสอบตามเบาะแส คาดใช้เวลาไม่นานแต่เบื้องต้นพบสติกเกอร์กว่า 46 รูปแบบที่เข้าข่ายเรื่องนี้

ต่อมาเวลาประมาณ 10.30 น. พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ฏิษพจณ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมคณะเดินทางไปที่ จ.นครปฐม เพื่อตรวจสอบประเด็นกล่าวหารอง ผบก.ภ.จ.นครปฐม มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการส่วยสติกเกอร์ โดยเรียก รอง ผบก.นายดังกล่าว พร้อมผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดเข้าพบเพื่อให้ถ้อยคำและข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามที่ถูกกล่าวหา จากนั้น พล.ต.อ.วิสนุนำคณะสุ่มตรวจสถานีตำรวจในสังกัด บก.ภ.จ.นครปฐม และ กก. 2 บก.ทล. โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ผลการสุ่มตรวจเฉพาะที่ กก.2 บก.ทล. ไม่พบตัวทั้ง ผกก. รอง ผกก. และ สว. พบตำรวจชั้นประทวนปฏิบัติหน้าที่อยู่เพียง 3 นาย พล.ต.อ.วิสนุกล่าวว่า การสุ่มตรวจครั้งนี้ เพื่อหาข้อมูลและดูความพร้อมของตำรวจทางหลวง ที่ถูกเพ่งเล็งอยู่ในขณะนี้ แต่กลับไม่มีผู้บังคับบัญชาหรือนายตำรวจปฏิบัติหน้าที่อยู่ แสดงให้เห็นถึงการขาดความรับผิดชอบของหัวหน้าหน่วย สะท้อนถึงความไม่ใส่ใจขาดความตื่นตัวที่จะดูแลรับใช้ประชาชน

“ผมสั่งการให้ ผู้กำกับการ 2 ตำรวจทางหลวง จ.นครปฐม ทำรายงานชี้แจงเหตุผลในเหตุครั้งนี้ เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาโทษตามความเหมาะสม” พล.ต.อ.วิสนุกล่าว

ที่สโมสรตำรวจ เมื่อเวลา 12.00 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำข้อมูลกรณีตำรวจทางหลวงจับกุมรถขนน้ำมันเถื่อนได้ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้น ไม่นานมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กรมสรรพสามิตโทรศัพท์ สั่งการให้ชุดจับกุมปล่อยแต่ถูกปฏิเสธ มามอบให้กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.

นายอัจฉริยะเปิดเผยว่า รวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าของเรือ เจ้าของคลังน้ำมันที่เก็บซ่อนน้ำมันเถื่อนปลายทาง รวมทั้งหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน เพื่อให้ตำรวจได้ดำเนินการทลายขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนกว่า 3 ล้านลิตรนี้ให้หมด เชื่อว่าขบวนการนี้ดำเนินการมาแล้วกว่า 5 ปี ทั้งยังมีความเชื่อมโยงกับตำรวจบช.ภ. 1 ด้วย เชื่อว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการทลายขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ และใน จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ของบช.ภ. 1 ด้วย

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้รับในวันนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และจะนำข้อมูลที่ได้ไปขยายผล ขณะนี้ตำรวจเร่งรัดปราบปรามการส่งออกน้ำมันเถื่อนที่ไม่เสียภาษี ทำให้ผู้ประกอบการที่ดำเนินการตามกฎหมายต้องเสียเปรียบ ก่อนหน้านี้จับกุมตัวการใหญ่ในธุรกิจค้าน้ำมันเขียวซึ่งเป็นน้ำมันที่รัฐยกเว้นการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อช่วยเหลือเรือประมง แต่มีการลักลอบมาจำหน่ายในกิจการขนส่งสินค้าทางบก ขอยืนยันหลังจากนี้จะดำเนินการปราบปรามการค้าน้ำมันเถื่อนอย่างเด็ดขาด