นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานพิธีเปิดงาน “วันป่าชุมชนแห่งชาติ” 24 พ.ค. 2566 กรมป่าไม้จัดกิจกรรมเดินรณรงค์ และนิทรรศการโชว์ความสำเร็จ พาไทยมีป่าชุมชนแล้ว 11,985 แห่ง เนื้อที่ 6.57 ล้านไร่ ลั่นปี 70 ถึงเป้า 15,000 แห่ง รวมเนื้อที่ 10 ล้านไร่

วันนี้ (24 พ.ค. 66) เวลา 10.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เป็นประธานพิธีเปิดงาน “วันป่าชุมชนแห่งชาติ” พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานเครือข่ายป่าชุมชน 68 จังหวัด เข้าร่วม โดยมี นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวรายงานและวัตถุประสงค์ของการจัดงาน ณ ห้องไดมอนด์ฮอลล์ โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ท จังหวัดปทุมธานี

ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยกรมป่าไม้ ได้กำหนดจัดงาน “วันป่าชุมชนแห่งชาติ” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ขึ้นระหว่างวันที่ 23 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 โดยมีกิจกรรมที่สำคัญประกอบด้วย วันที่ 23 พฤษภาคม เวลา 13.00 – 17.00 น. เป็นการจัดกิจกรรมการเดินรณรงค์กระตุ้นจิตสำนึก สร้างการรับรู้ “24 พฤษภาคม วันป่าชุมชนแห่งชาติ” บริเวณลานรอบศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต จังหวัดปทุมธานี และวันที่ 24 พฤษภาคม เป็นพิธีเปิดงาน “วันป่าชุมชนแห่งชาติ” ในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการ พระราชปณิธาน ด้านการสืบสาน รักษา ต่อยอด, นิทรรศการจากหน่วยงานภาคีสนับสนุนการพัฒนาป่าชุมชน, นิทรรศการสร้างความรู้ความเข้าใจด้านป่าชุมชน ตามพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562, นิทรรศการผลผลิต ผลิตภัณฑ์จากป่าชุมชน, คลินิกรับคำปรึกษา แนวทางปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ป่าชุมชน พ.ศ. 2562 พร้อมทั้งมีการมอบโล่สำหรับผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน, การมอบถ้วยรางวัลเครือข่ายป่าชุมชนต้นแบบ ประจำปี พ.ศ. 2566, การมอบโล่ให้แก่ภาคีเครือข่าย หน่วยงาน องค์กร ที่สนับสนุนการพัฒนาป่าชุมชน ประจำปี พ.ศ. 2566 และการมอบเกียรติบัตรให้กับหน่วยงานที่ร่วมสนับสนุนการจัดนิทรรศการเนื่องในงานวันป่าชุมชนแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2566

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ในวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเห็นชอบให้วันที่ 24 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันป่าชุมชนแห่งชาติ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้ พระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 เป็นกฎหมายเพื่อส่งเสริมให้ชุมชนได้ร่วมกับรัฐในการอนุรักษ์ ฟื้นฟูจัดการ บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพ อย่างสมดุลและยั่งยืนในรูปแบบของป่าชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถจัดการป่าชุมชนและได้ประโยชน์จากป่าชุมชน อันจะส่งผลให้ชุมชนดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศให้มีความสมบูรณ์และยั่งยืน

“จากการดำเนินการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยกรมป่าไม้ ได้ดำเนินการบริหารจัดการป่าอย่างมีส่วนร่วมตามแนวทางป่าชุมชน มาตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปัจจุบัน มีป่าชุมชนที่ได้รับการส่งเสริมให้จัดตั้งตาม พ.ร.บ.ป่าชุมชน พ.ศ. 2562 รวมแล้วเป็นจำนวนถึง 11,985 แห่ง รวมเนื้อที่ประมาณ 6.57 ล้านไร่ ซึ่งเป้าหมายการดำเนินการต่อไปนั้น ภายในปี พ.ศ. 2570 จะต้องจัดตั้งป่าชุมชนให้ได้จำนวน 15,000 แห่ง และชุมชนที่มีส่วนร่วม 18,000 หมู่บ้าน รวมเนื้อที่ 10 ล้านไร่”

ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การดำเนินการของกรมป่าไม้ ได้เน้นส่งเสริมให้ชุมชนที่อยู่อาศัยรอบเขตป่า รวมถึงชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง เข้ามาช่วยเหลือดูแลจัดการทรัพยากรป่าไม้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ สร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนภายใต้ข้อกฎหมาย และระเบียบที่กำหนด โดยน้อมนำพระราชดำริและพระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงให้ความสำคัญต่อป่าไม้ และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลรักษาป่า ส่งผลให้รัฐบาล หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และประชาชน ได้ร่วมกันปลูกและพื้นฟูป่า รวมทั้งมีการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลรักษาป่า ในรูปแบบของป่าชุมชน

นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึงการจัดงานวันป่าชุมชนแห่งชาติ วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 กรมป่าไม้ ได้มุ่งเน้นถึงการแสดงออกถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ในด้านการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ ฟื้นฟูและใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าไม้อย่างเหมาะสม และยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์เผยแพร่สร้างการรับรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ให้กับประชาชนทั่วไป หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้มีความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของป่าชุมชนและทรัพยากรป่าไม้ของชาติ รวมถึงส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการจัดการและใช้ประโยชน์ป่าชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน พร้อมกันนี้ ยังช่วยส่งเสริมให้สมาชิกเครือข่ายป่าชุมชนและประชาชนทั่วไป ได้มีโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการป่าชุมชนเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาป่าชุมชนเพื่อสร้างรายได้ อันเป็นการสร้างแรงจูงใจให้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการป่าชุมชน ซึ่งสอดคล้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562