“เกร็ดเสด็จเตี่ย” นิตยสารสารคดี ฉบับพฤษภาคม 2566 เรียงลำดับเรื่องใหม่ ง่ายสั้น สนุกกว่าที่เคยอ่าน คุณศรัณย์ ทองปาน เขียนในหนังสือเล่ม...เรื่องที่ 8 ไฟต์หยุดโลก
ศรัณย์ ทองปาน เขียนว่า บทบาทสำคัญอีกด้านของวังนางเลิ้ง กรมหลวงชุมพร ยุคทศวรรษ 2460 ที่ยังคงเล่าขานต่อมา คือการเป็นสำนักมวยไทยมีชื่อเสียง
ทรงเริ่มฝึกหัดอาวุธอย่างไทย ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ วังนางเลิ้งจัดงานไหว้ครูทุกปี นิมนต์พระครูวิมลคุณากร (หลวงปู่ศุข) วัดมะขามเฒ่า มาร่วมพิธี มีงาน 3 วัน 3 คืน
ปี 2464 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้จัดแข่งขันชกมวยเก็บเงินค่าผ่านประตูซื้อปืนให้กองเสือป่า ตอนแรกจัดทุกวันเสาร์ ต่อมาเพิ่มวันอาทิตย์ ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
หนังสือพิมพ์ลงข่าว กรมหลวงชุมพร ทรงเป็นหนึ่งในกรรมการบนเวที นักมวยฝีมือดีในพระนคร ปริมณฑล หัวเมืองตั้งแต่เหนือจดใต้ ถูกเลือกเข้ามาประลองฝีมือ นักมวยผู้ที่มีชื่อเสียงโดดเด่น คือนายยัง หาญทะเล
ข่าวมวยสวนกุหลาบคู่สำคัญ “ควรให้เกียรติกับนายยัง ที่ชกกับนายแจ้ง ก้อนกระสัง เป็นพิเศษ พอลงมือชกได้ครึ่งยก นายยังก็ปล่อยหมัดเด็ดถูกคางและปาก ล้มผึ่งทั้งยืน กรรมการนับ 1 ถึง 10 ก็ไม่ฟื้น เสียงปรบมือกราวทั้งสนาม
เสด็จในกรมทรงพระเมตตา ประทานพระหัตถ์ลูบหลังนายยัง”
“นายยัง หาญทะเล นครราชสีมา อายุ 33 ปี หนัก 128 ปอนด์ สูง 5 ฟิต 6 นิ้วครึ่ง” ทำศึกดวลกำปั้นไฟต์ดุเดือด ชกกับนายจีฉ่าง นักมวยจีน
จีนโนสยามวารศัพท์ ฉบับ 8 ส.ค.2464 รายงานว่า เสาร์ 6 ส.ค.คนดูล้นหลาม ตั๋วผ่านประตูหมด คนดูนอกสนามด้านโรงเรียนเสาวภา ปีนต้นไม้ขึ้นไปเกาะราวนกยาง เสาโทรศัพท์มีคนขึ้นไปหมอบกระแต
...
บนหลังคากันสาดถนนบ้านหม้อก็ยั้วเยี้ยไปด้วยผู้คน เรือนมุงสังกะสี เจ้าของรื้อหลังคาพาพวกป่ายปีนขึ้นไป
เบื้องลึกที่ไทยมุงไม่รู้ นัดมวยไทยจีนนี้ ฝ่ายจีนตั้งใจช่วยงานหาเงินช่วยงานเสือป่า นักมวยจีน ล้วนแต่เป็นเสมียนคนทำงานตามห้างร้านค้า รู้เรื่องมวยบ้าง แต่ไม่มีเจตนาจะชกเอาชนะเอาชื่อเสียง
นายจีฉ่าง นักมวยเอก เป็นคนชราอายุเกินชกมวย แต่ตั้งใจชกโชว์ลีลา โรมรันพันตูกับนายยัง หาญทะเลได้ ชกเรียกเสียงเชียร์กันไป พอหอมปากหอมคอ นายจีฉ่างก็หมดแรง กรรมการยุติการชก
ความจริงของมวยกระชับมิตร จากจีนโนสยามวารศัพท์มีแค่นี้ แต่บางกอกไทม์ ฉบับ 8 ส.ค.รายงานอีกอย่าง “คู่นายจีฉ่าง กับนายยัง หาญทะเล ต่อยกันไปไม่ถึงยก จีนจีฉ่างก็ถูกนายยังเตะยอดอก ล้มทั้งยืน”
มวยการกุศลหาเงินช่วยงานเสือป่า ถูกใส่สีตีไข่ให้กลายเป็นมวยบู๊ล้างผลาญ มัน...ถึงใจ เป็นไฟต์หยุดโลกไป ด้วยประการฉะนี้เอง
ข่าวใส่สีตีไข่ ยังถูกเอามาต้มยำทำแกงต่อ เด็กรุ่นผมฟังจากผู้ใหญ่แฟนมวยพันธุ์แท้
นาทีนั้น นายจีฉ่าง ใช้ฝ่ามือเลียะพะตะปบท้อง ยกตัวนายยังขึ้นเหนือหัว ถาม “เอาเป็น เอาตาย”
นายยังตอบ “เอาตาย” แล้วทิ้งตัวหักศอกกระทุ้งสมองนายจีฉ่าง ล้มตึง ตายคาเวที...นี่ๆ รุ่นพี่เขาเล่ากันมันยกร่องฟักทองแตงไทย อย่างนี้
จากเรื่องจริง กลายเป็นเรื่องเล่าต่อๆกันไป สุดท้ายก็กลายเป็นข่าวลือ
ข่าวมวยไฟต์หยุดโลกตอนนั้น ผมว่าคงเหมือนเรื่องการเมืองไทย...ตอนนี้...พรรคก้าวไกลได้แรงหนุนจริงจังจากพรรคเพื่อไทย...พรรคเล็กพรรคน้อยก็ร่วมด้วยช่วยกัน...พรรคกลางๆที่มีเค้าเป็นฝ่ายค้าน ไปจนถึงท่าน ส.ว.ก็คงยกมือให้
ตามข่าวจริง ไม่ช้าเกินไป! เราจะมีรัฐบาลตามกติกาประชาธิปไตย ฟังข่าวลือให้เสียอารมณ์ทำไม? ตัวอย่างการเมือง
พม่า คนไทยทุกฝ่ายเข้าใจดี ฝีมือทหารทำให้พม่าล้าหลังไทยไป 60 ปี...นี่นา!
กิเลน ประลองเชิง