ขณะที่พรรคการเมืองและนักการเมือง ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านกำลังรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งอย่างเข้มข้นอยู่นี้ มีเสียงเตือนจากนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญเรื่องนํ้าว่า ปีนี้ฝนจะมาช้า ประเทศจะเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการราววันที่ 22 พฤษภาคม จะมีฝนตกหนัก แต่ฝนจะเริ่มทิ้งช่วงในเดือนมิถุนายน

จนถึงเดือนกรกฎาคม เป็นช่วงที่มีฝนตกน้อย แค่นั้นยังไม่พอ ประเทศไทยอาจเผชิญกับปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” มีฝนตกน้อยราว 3 ถึง 5 ปี แต่นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร รายงานว่า เศรษฐกิจการเกษตรในไตรมาส 1/2566 ขยายตัว 5.5% ถือว่าขยายตัวดี

เนื่องจากปริมาณนํ้าฝนปี 2565 มีเพียงพอสำหรับเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ มีนํ้าในอ่างเก็บนํ้าและแหล่งนํ้าธรรมชาติอย่างเพียงพอ ทุกสาขาการผลิตมีแนวโน้มขยายตัว จากปัจจัยสนับสนุนด้านดินฟ้าอากาศที่อำนวย เชื่อว่ารัฐบาลหรือรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบจะได้รับรายงานว่าการเกษตรปีนี้ไปได้สวย

นักการเมืองส่วนใหญ่มุ่งมั่นหาเสียงด้วยนโยบายประชานิยมลดแลกแจกแถมได้ผลดีกว่าปัญหาภัยแล้ง แม้แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเคยคุยว่าที่ใดมี พปชร. ที่นั่นไม่มีภัยแล้ง ไม่มีนํ้าท่วม ขณะนี้ พปชร.ก็ไม่ได้สนใจภัยแล้ง เดินหน้าโฆษณาแจกบัตรคนจนดีกว่า

ฝ่ายที่เป็นห่วงปัญหาภัยแล้ง ไม่ได้มีแค่นักวิชาการนํ้า แม้แต่วงการอุตสาหกรรมและการค้าก็กังวล นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จะยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้เตรียมแผนรับมือภัยแล้งและการขาดแคลนนํ้าที่จะกระทบถึงภาคอุตสาหกรรมและประชาชนทั่วไป

ถ้าเกิดภัยแล้งและเอลนีโญถึง 3–5 ปี อีสานอาจเป็นภาคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะเป็นภาคที่มีพื้นที่มากกว่าภาคอื่นๆ แต่มีระบบชลประทานเข้าถึงน้อยที่สุด ปี 2565 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นปีทองสำหรับชาวนาอีสาน เพราะ ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล แม้ระบบชลประทานจะไม่ทั่วถึง แต่ชาวอีสานมี “เทวดา” เป็นที่พึ่ง

...

นั่นก็คือเทวดาแห่งฝน หรือ “พระพิรุณ” ทำนาปลูกข้าวและการเกษตรอื่นๆ โดยยึดพระพิรุณเป็นที่พึ่ง ด้วยการโปรยปรายนํ้าฝนลงมาจากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน บางปีต้องหันไปพึ่ง “นางแมว” แห่นางแมวขอฟ้าขอฝนในวันที่เทคโนโลยีก้าวกระโดด แต่คนไทยก้าวตามไม่ทัน ใช้เงินหลวงซื้อเสียงดีกว่า.