ข่าวใหญ่ คดีสะเทือนขวัญที่ต้องติดตามขณะนี้หนีไม่พ้น คดี “แอม” นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนด้วยการวางยาพิษ

สังคมพิพากษาไปแล้วว่า เป็นคนลงมือฆ่าจริง สมควรต้องได้รับโทษประหาร!

มีนักกฎหมายและคนในกระบวนการยุติธรรมออกมาแสดงความเห็นมากมาย มาดูความเห็นของ ว่าที่พันตรี ดร.สมบัติ วงศ์กำแหง กรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ มีความเห็นน่าสนใจ?

คดีนี้ท้าทายฝีมือตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ลงมือนำทีมเองเผยว่า พบหลักฐานมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงพยานบุคคลสำคัญที่ยืนยันว่า “แอมตั้งใจฆ่าใครบ้าง”

นอกจากนี้ ตำรวจพบสารไซยาไนด์ในบ้านแอม สอดคล้องกับผลผ่าพิสูจน์ผู้เสียชีวิตที่พบสารนี้ในร่างกาย นอกจากนี้ยังพบสารไซยาไนด์บนคอนโซลรถ “แอม” ถือเป็นหลักฐานเด็ดมัดตัวผู้ต้องหาแน่นหนา!

ฝ่ายแอมปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขอต่อสู้ทางกฎหมาย

ขณะที่การขยายผลพบว่า ยังมีเหยื่อรายอื่นกว่า 10 รายใน 5 จังหวัด เวลาผ่านมาหลายปีมีผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง แต่เรื่องเพิ่งมาแดงขึ้นมา?!

ตำรวจยังมีผู้เสียหายที่ถูกวางยาแต่รอดมาได้เข้าให้ปากคำเชื่อว่า ที่รอดชีวิตเพราะได้รับปริมาณยาน้อย หรือผู้ก่อเหตุยังคำนวณปริมาณยาไม่ชำนาญ อีกทั้งผู้เสียหายพบแพทย์ได้ทันกาล

ที่ผ่านมา เมื่อญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย ตำรวจไม่ส่งศพผ่าชันสูตร ทำให้แอมลอยนวลมาตลอด?

ประเด็นนี้ตำรวจต้องปฏิรูปกระบวนการทำงานใหม่ ต้องชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการตายทุกครั้งที่ตายผิดธรรมชาติ ไม่ควรละเว้นแม้ญาติไม่ติดใจ

มูลเหตุจูงใจน่าจะต้องการทรัพย์สิน เลือกเหยื่อจากคนใกล้ชิดโดยเฉพาะแวดวงตำรวจ!

...

สาเหตุการตายคล้ายกันมีทั้งเสียชีวิตจากกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ หลอดเลือดหัวใจตีบ ระบบไหลเวียนโลหิตและหายใจล้มเหลว เลือดออกในสมอง เลือดเป็นกรด หัวใจวาย แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หรือไม่ทราบสาเหตุ

เป็นการบ้านของตำรวจต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า เกี่ยวโยงเป็นฆาตกรต่อเนื่องหรือไม่?

สหบาท