“มวยไทย”...เป็นศิลปะการต่อสู้ ป้องกันตัวของคนไทยมาตั้งแต่โบราณ เป็นการใช้อาวุธของร่างกาย 9 อย่าง หรือที่ เรียกว่า “นวอาวุธ” ได้แก่ มือ 2...เท้า 2...เข่า 2...ศอก 2 และศีรษะ 1 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับเป็นศิลปะการต่อสู้ที่เก่าแก่ประเภทหนึ่งของโลก

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ประกาศขึ้นทะเบียนมวยไทย เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2553 ซึ่งจะเป็นมาตรการสำคัญในการส่งเสริมให้เกิดความตระหนักในคุณค่าการยกย่ององค์ความรู้และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ

ทั้งยังมีมติเป็นเอกฉันท์ในการร่วมกันผลักดันให้มีการสถาปนาวันมวยไทยขึ้น โดยให้วันขึ้นเสวยราชสมบัติของสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (สมเด็จพระเจ้าเสือ) คือวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เป็น “วันมวยไทย”

เนื่องจากมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ปรากฏชัดเจน สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถด้านมวยไทยเป็นที่ประจักษ์ คือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 เป็นพระมหากษัตริย์เพียงพระองค์เดียวที่เสด็จออกไปชกมวยกับสามัญชน

...

“สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8” เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีความสามารถเกี่ยวกับมวยไทยมาก ทรงคิดท่าแม่ไม้ ไม้กลมวยไทยขึ้นมาเป็นแบบฉบับเฉพาะพระองค์ เรียกว่า “มวยไทยตำรับพระเจ้าเสือ” และได้รับการถ่ายทอดเป็นตำรามวยไทยให้แก่คนรุ่นหลังจนถึงทุกวันนี้

สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 เป็นพระมหากษัตริย์ที่ใช้ศิลปะมวยไทยในการปกป้องราชอาณาจักรให้รอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของชาวต่างชาติ

เพื่อตอกย้ำความสำคัญของศิลปะป้องกันตัวแต่โบราณ สู่การเป็น ซอฟต์เพาเวอร์ (Soft Power) ประจำชาติ

กระแสร้อนในโลกออนไลน์ไม่นานมานี้ บัวขาว บัญชาเมฆ นักชก มหาชนขวัญใจชาวไทย หรือ ร้อยโทสมบัติ บัญชาเมฆ ได้นำศิลปะแม่ไม้มวยไทย ซึ่งถือเป็น 1 ใน 5 ซอฟต์เพาเวอร์วัฒนธรรมไทย มาสาธิต และฝึกสอนให้กับเพื่อนทหารสหรัฐฯ ภายใต้รหัสการฝึกร่วมผสม คอบร้า โกลด์ 2023

ภาวี โพธิ์ยี่ รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปะ หัตถกรรมไทย บอกว่า เมื่อ “บัวขาว บัญชาเมฆ” นักชกแชมป์โลกขวัญใจชาวไทยและโด่งดังไปทั่วโลก เราจึงนำมาถ่ายทอดพลัง “Craft Power” ผ่าน “กางเกงมวยผ้าไหมไทย” และไม่พลาดที่จะสร้างความ ฮือฮา เป็นที่กล่าวขวัญถึงของผู้มาร่วมงาน

เพราะเป็นกางเกงมวยที่งดงามและวิจิตรมาก สร้างสรรค์ขึ้นด้วย ผ้าไหมสีดำนิลของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ผสมผสานการปักสะดึงกรึงไหมแบบโบราณฝีมือชั้นครูเป็นงานที่ประณีตบรรจงปักดิ้นทองอย่างละเอียด ให้ความรู้สึกหรูหราสง่างาม

ที่สำคัญ...เป็นงานหัตถศิลป์ชั้นสูงที่ใกล้สูญหายหาชมได้ยากยิ่ง

พลังเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นนี้เกิดขึ้นในงาน “Andaman Craft Festival” เป็นการผสานความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่ คือ จังหวัดภูเก็ต องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และเทศบาลเมืองภูเก็ต ภายใต้แนวคิด “Hand on the smile with Thai Craft”

มอบรอยยิ้ม ความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนด้วยงานศิลปหัตถกรรมไทยและความเป็นมิตรของคนไทย

แน่นอนว่านักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจ “กางเกงมวยไทย...ผ้าทอไทย” เป็นพิเศษ จับจ่ายซื้อหาเป็นของฝาก โดยให้เหตุผลว่าชื่นชอบและรู้จักศิลปะแม่ไม้มวยไทยมาก่อนหน้านี้แล้ว

ภาวี บอกว่า กางเกงมวยที่จำหน่ายภายในงานมีความพิเศษแตกต่างจากกางเกงมวยที่มีจำหน่ายทั่วไปซึ่งมักผลิตจากผ้าร่มหรือผ้าซาติน เพราะผลิตจากผ้าทอมือย้อมสีธรรมชาติ จากชุมชนผ้าทออู่ทอง และผ้าขาวม้าทอมือจากชุมชนผ้าทอเมืองเหน่อ จ.สุพรรณบุรี

จุดเด่นคือเนื้อผ้าใส่สบายระบายอากาศได้ดีและมีหลากสีสัน ถือเป็นของที่ระลึกที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้อีกความภาคภูมิใจก็คือ แฟชั่นโชว์ชุดฟินาเล่ของ “แอนนา เสืองามเอี่ยม” Miss Universe Thailand 2022 ที่ขึ้นสวมมงกุฎสะบัดผ้าไทยเดินอวดโฉมเรียกเสียงปรบมืออย่างกึกก้อง

ส่วน “ไฮดี้ อมันดา” Miss Grand ภูเก็ต ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เดินนำขบวนพาเหรดสร้างสีสันสุดตระการตา พร้อมนักเรียนนักศึกษาลูกหลานชาวภูเก็ตในชุดพื้นถิ่นน่ารักสดใส นักท่องเที่ยวสนใจกันล้นหลาม

อีกความประทับใจในมุมเล็กๆจากพลังของคนตัวเล็ก “น้องกานพลู” หรือ ด.ญ.อัญช์ณฎา ลักขณา ได้นำเสนอมุมมอง “พลังคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนงานศิลปหัตถกรรมไทยในโลกดิจิทัล” สะท้อนให้คนไทยตระหนักถึงการมีส่วนร่วมสืบสานอนุรักษ์งานศิลปหัตถกรรมไทยให้คงอยู่คู่สังคมไทย

...

สะท้อนซอฟต์เพาเวอร์วัฒนธรรมไทย นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย...ชาวต่างชาติได้ลองเล่นการละเล่นแบบไทยทั้งมวยไทยไชยา การเดินกะลา ทดลองทำงานคราฟต์ในเวิร์กช็อปดีไอวาย ร่วมทำ...ร่วมชิมเมนูอาหารไทย อาทิ ผัดไทย ส้มตำ ขนมครก ชาเย็น...เพลิดเพลินไปกับงานศิลป หัตถกรรมไทย...งานหัตถกรรมพื้นถิ่น

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในพิธีเปิดงานตอกย้ำว่า ประเทศไทยนับว่าเป็น ประเทศที่มีความได้เปรียบและมีจุดแข็งของประเทศในหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยวเพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์

นับรวมไปถึงเรื่องของอาหารที่มีรสชาติอร่อยเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ความสวยงามเสน่ห์ในด้านงานศิลปหัตถกรรมที่สะท้อนภูมิปัญญา...มรดกทางวัฒนธรรม

ความได้เปรียบในทุนทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันนโยบาย “ซอฟต์เพาเวอร์” เพื่อขับเคลื่อน “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” สู่ระดับโลก โดยอาศัยจุดแข็งของประเทศ สร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่าให้สินค้าไทยมีความแตกต่าง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการไทย

...

ในแต่ละปี “สินค้า” “บริการ”...ซอฟต์เพาเวอร์สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ มีมูลค่าทางการค้าจำนวนมหาศาลถึง 1.45 ล้านล้านบาท ครอบคลุมใน 5 ด้าน หรือที่เรียกว่า “5F”

ได้แก่ Food อาหารไทย, Film ภาพยนตร์และละครไทย, Fashion การออกแบบแฟชั่นไทยและผ้าไทย, Fighting ศิลปะการป้องกันตัวมวยไทย และ Festival เทศกาลประเพณีไทย

สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ “sacit” นำทัพงานศิลปหัตถกรรมไทยมาสร้างแบรนดิ้งให้แก่ประเทศ โดยดึงเสน่ห์แห่งภูมิปัญญา ความคิดสร้างสรรค์มาต่อยอดทางการค้าเชื่อมโยงเข้ากับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่จะเป็นแรงหนุนให้สินค้าซอฟต์เพาเวอร์มีความได้เปรียบทางการค้ามากยิ่งขึ้น

นี่คือความคิดสร้างสรรค์...พลัง “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” พัฒนาระบบเศรษฐกิจสร้างแบรนดิ้งให้กับประเทศไทย เพื่อให้ทั่วโลกได้เห็นถึงอัตลักษณ์ คุณค่า ความงดงามของ...“หัตถศิลป์ไทย” ให้ได้เกิดภาพจำของสินค้าหัตถกรรมไทยร่วมสมัย เพิ่มมูลค่าจากคุณค่างานศิลปหัตถกรรมไทย.