ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวตอนหนึ่งบนเวทีการประชุมทางวิชาการครั้งที่ 61 ภายใต้ธีมงาน “เกษตรศาสตร์เพื่อมวลชน : พัฒนาศาสตร์แห่งแผ่นดิน สู่สุขภาวะอย่างยั่งยืน”KASETSART for All : Expanding Knowledge of the Land towards Sustainable well-being” ว่า มก.มีความโดดเด่นระดับประเทศและระดับโลกด้านการเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว ทั้งหลักสูตรการเรียนการสอน งานวิจัย การถ่ายทอดความรู้ อัตลักษณ์ของบุคคล องค์กร และ มก. ซึ่งเน้นความยั่งยืนมาตลอด 80 ปี จึงขอใช้โอกาสนี้แถลงจุดยืนและประกาศทิศทางของ มก.อย่างมีส่วนร่วมของบุคลากร 10,000 คน นิสิต 70,000 คน นิสิตเก่า 350,000 คน และประชาชนไทยที่เป็นเจ้าของ มก. จะช่วยกันขับเคลื่อน มก.ให้เป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ KU Goes Green and Carbon Neutrality ภายในปี ค.ศ.2035

ดร.จงรักกล่าวต่อว่า มก.เป็นองค์กรทางความรู้ มีพื้นที่ 33,000 ไร่ และมีพื้นที่ป่า 13,000 ไร่ ซึ่งป่าเป็นแหล่งเดียวที่สามารถดูดกลับก๊าซคาร์บอนได้ ทั้งนี้ ด้วยความรู้ต่างๆ ทั้งวิชาการป่าไม้ สิ่งมีชีวิต ดิน ปุ๋ย สิ่งแวดล้อม เราจะเพิ่มความสามารถของป่าในการดูดกลับคาร์บอนเพิ่มขึ้น รวมทั้งเพิ่มพื้นที่ป่าให้มากขึ้น ปรับพฤติกรรมนิสิต บุคลากร โดยเฉพาะเรื่องการใช้เครื่องปรับอากาศ ลิฟต์ รถยนต์ มาเป็นเพิ่มการเดิน ใช้จักรยาน เรียนกลางแจ้ง เพื่อลดการใช้พลังงาน ทั้งใช้ความรู้ด้านการเกษตรปรับพื้นที่การเกษตรจากภาคปลดปล่อยก๊าซเป็นภาคการเก็บกักก๊าซอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ตนมั่นใจว่า มก.จะนำความรู้และความร่วมมือของทุกคนใน มก. จะทำให้นโยบายเป็นกลางทางคาร์บอนเป็นจริงได้แน่นอนและช่วยสนับสนุนให้นโยบายรัฐบาลเรื่องเป็นกลางทางคาร์บอน ปี 2050 เป็นจริงได้.

...