เปิดปากทั้งน้ำตา "ป้าพร" เล่านาที ถูกสรรพสามิตยัด "บุหรี่ปลอม" บอกกลัวจนไม่อยากขายของแล้ว ขณะที่ "โฆษกกรมสรรพสามิต" สั่งพักงาน 5 เจ้าหน้าที่ฉาวแล้ว พร้อมแนะวิธีตรวจสอบขั้นตอนที่ถูกต้อง

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ในรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้พูดคุยกับ "ป้าพร" เจ้าของร้านของชำ ถูกเจ้าหน้าที่สรรพสามิต 5 นาย ยัดบุหรี่ปลอมและรีดไถเงิน ทางด้าน อธิบดีกรมสรรพสามิต สั่งพักงาน 5 เจ้าหน้าที่ฉาวแล้ว

ป้าพร เจ้าของร้านขายของชำ เผยว่า ที่ร้านขายบุหรี่ ขายเหล้า ขายของจิปาถะทุกอย่าง โดยเหตุเกิดวันที่ 13 ก.พ. 2566 วันนั้นกำลังขายของอยู่ พวกเขาบอกมาขอตรวจใบภาษี เหล้า บุหรี่ พอเราให้ดูเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ขอเข้าไปดูข้างใน เราจึงตามเข้าไป เพราะกลัวจะโดนยัดของตามที่เคยเห็นในข่าว

หลังจากนั้น เขาให้เราตามไปที่รถตู้ ซึ่งในรถมีคนอยู่แล้ว 2 คน พอขึ้นไปเขาเอาบุหรี่วางตรงหน้าป้า บอกรู้ไหมมีบุหรี่ปลอม เราบอกไม่รู้ เขาเลยบอกว่า "เอาเงินมาเลย 2 หมื่น" เราก็บอกไม่มีเพราะหาเช้ากินค่ำ ซึ่งอีกคนถาม "มีเท่าไร" เราเลยบอกมีประมาณ 5 พัน ซึ่งก็แอบเก็บไว้ 200 เพราะจะเก็บไว้ให้หลานไว้ไปโรงเรียน ก่อนลงรถเขาก็สั่งว่า "ห้ามพูดนะ ไม่งั้นจะเอาให้หนักกว่านี้" ซึ่งก่อนหน้าก็ยกมือไหว้แล้ว ว่าอย่าทำป้าเลย เราไม่มีเงิน ถ้าเอาไปก็ไม่มีเงินซื้อของมาขาย แต่เขาก็ไม่ฟัง

...

กระทั่งวันที่ 15 ก.พ. 2566 ตัดสินใจโทรหาเพื่อน คือ ป้าวัน เพราะกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก ซึ่งตอนนั้นก็ไปซื้อแฟลชไดรฟ์มาเก็บไฟล์ภาพจากวงจรปิดไว้ทั้งหมด

ขณะที่ ป้าวัน เล่าว่า พอทราบเรื่องก็ตกใจ เพราะเรื่องแบบนี้ถ้าเขาขู่แล้วเราให้ เดียวเขาก็จะมาอีก หลังจากป้าพรบอกมีภาพวงจรปิด ก็คุยกันว่าไปปรึกษา คุณเอกภพ เพจสายไหมต้องรอด 

ทางด้าน คุณเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เล่าว่า วันนั้นป้าพรโทรมาปรึกษา แต่แกกลัว พูดไปก็เสียงสั่น หลังคุยกันว่าที่บ้านมีภาพวงจรปิด จึงให้ป้าวันไปเอาวงจรปิดมาเช็ก พอเห็นแล้วหลักฐานครบองค์ประกอบหมดเลย

สำหรับเคสแบบนี้ ป้าพรไม่ใช่คนแรกที่โทรหาตน ก่อนหน้านี้ก็มีชาวบ้านโทรมาบอกว่าสรรพสามิตเข้ามาทำแบบนี้ แต่ไม่มีหลักฐาน ครั้งนี้จึงประจวบเหมาะ จึงประสานผู้กำกับ สน.บางเขน ว่ามีเคสแบบนี้ในพื้นที่จะเอาเข้าแจ้งความ และจะเรื่องนี้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดด้วย

คุณเอกภพ เผยต่อว่า จริงๆ เข้าขั้นปล้นทรัพย์ เพราะคนก่อนเหตุมี 3 คนขึ้นไป ซึ่งนอกจากเข้าไปค้นร้านเขาแล้ว ยังบังคับให้ป้าเข้าไปในห้องนอน เป็นเรื่องของการบุกรุก และถ้าบริสุทธิ์ใจถ้าเห็นของผิดปกติ ต้องทำบันทึกตรงนั้น และเอาไปโรงพัก ซึ่งวันนั้นป้าพรบอกถ้ามันผิดก็เอาฉันไปที่โรงพัก แต่ก็ไม่พาไปแล้วยังมาทำพฤติกรรมแบบนี้ สังคมรับไม่ได้ พร้อมฝากถึงเจ้าหน้าที่ว่า เรือนจำหรือคุก เขาไม่ได้มีไว้ขังประชาชนเท่านั้น เจ้าหน้าที่ ข้าราชการ ที่ทำอะไรแบบนี้ ก็ติดคุกได้

"ทุกวันนี้กลัวจนไม่อยากขายของแล้ว ลูกก็ให้ปิด แต่ตำรวจร้อยเวรก็บอกให้เปิดเลยไม่ต้องกลัว แต่วันนี้ก็เปิดเพราะมีเพื่อนมานั่งเป็นเพื่อน และเงินก็ไม่มีแล้ว จึงต้องเปิดขายไป สิ่งที่อยากได้ที่สุดตอนนี้ คือ อยากให้เจ้าหน้าที่จัดการให้ด้วย เพราะป้าก็ไม่ได้อยากแจ้งความ เป็นชาวบ้านธรรมดา กลัวพูดไปเขาก็ไม่ฟัง กลัวจะอยู่ยาก" ป้าพร กล่าว

ทางด้าน นายณัฐกร อุเทนสุต โฆษกกรมสรรพสามิต เผยว่า ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 5 นาย คือ ข้าราชการ, พนักงานราชการ และ พนักงานขับรถ ของกรมสรรพสามิต ตอนนี้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงให้เสร็จโดยเร็ว ซึ่งตอนนี้ให้หยุดทำหน้านี้ป้องกันและปราบปรามไปก่อน

ตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ถ้าเจอสินค้าที่ต้องสงสัยว่าเป็นสินค้าที่ไม่ได้ชำระภาษี หรือ เป็นสินค้าปลอม ต้องนำสินค้าดังกล่าวไปสรรพสามิตพื้นที่เพื่อตรวจสอบ ซึ่งจริงๆ ไม่จำเป็นต้องเอาเจ้าตัวไปก็ได้ อายัดของที่คิดว่าไม่ถูกต้อง แล้วตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งถ้าไม่ถูกต้องจริง จะเชิญผู้ต้องสงสัยไปสรรพสามิตในพื้นที่เพื่อแจ้งข้อหา

ทั้งนี้ อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้สั่งการแล้ว ว่าเจ้าหน้าที่ที่ออกตรวจในพื้นที่ต่างๆ ต้องแต่งเครื่องแบบเท่านั้น ซึ่งเป็นชุดสีน้ำเงินกางเกงน้ำเงินติดเครื่องหมายอย่างถูกต้อง และต้องโชว์บัตรเจ้าหน้าที่ ส่วนการตรวจค้นถ้ามีใบอนุญาตขายสุรา, ยาสูบ สามารถเข้าไปขออนุญาตตรวจค้นได้ เพราะดูจากใบอนุญาตได้ แต่การบุกไปถึงด้านในแบบนี้ไม่ควร ไม่ถูกต้อง ถ้าสืบค้นก่อนว่ามีสินค้าผิดกฎหมายจริงๆ ต้องมีหมายค้น แต่กรณีเราเห็นความผิดซึ่งหน้า หรือ โชว์อยู่หน้าร้าน สามารถตรวจสอบได้

...

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยู่ในช่วงของการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ภายใน 3-5 วัน โดยตอนนี้ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว จากนั้นจะตั้งกรรมการสอบวินัย ถ้าผิดให้หยุดข้าราชการเลย ส่วนเรื่องการเยียวยาคุณป้า ต้องประสานพื้นที่อีกครั้ง.


อย่างไรก็ตาม สามารถติดตามรายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" พร้อมกันได้ ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป ได้ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32.