กรณีกลุ่มทำทาง และเครือข่ายสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม ยื่นหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ขอให้เร่งรัดให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 28) พ.ศ.2564 และขอให้ลงนามเรื่องงบส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคในการยุติตั้งครรภ์อย่างปลอดภัยทั้งบัตรทอง ประกันสังคม และสิทธิข้าราชการนั้น นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า สปสช.ได้บรรจุการบริการป้องกันการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัยให้เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อดูแลความปลอดภัยกับหญิงไทยทุกอายุที่จำเป็นต้องยุติการตั้งครรภ์จากภาวะการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับแพทยสภา ปัจจุบันมีหน่วยบริการรัฐ 70 แห่ง และภาคเอกชนมีอีก 14 แห่ง ปัญหาคือ หน่วยบริการบางแห่งอาจไม่มั่นใจให้บริการก็สามารถส่งต่อไปยังหน่วยบริการสังกัด สธ.ได้ หรือโทรสายด่วน สปสช. 1330

นพ.จเด็จกล่าวว่า การจัดสรรงบประมาณให้บริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยแก่ รพ.ต่างๆ มีทั้งงบประมาณส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค หรืองบ PP และงบประมาณบริการผู้ป่วยใน ไม่ต้องกังวลการเบิกจ่ายงบ เพราะอยู่ระหว่างจัดทำกฎหมายเพื่อให้มั่นใจในการดำเนินการเบิกจ่ายทุกสิทธิการรักษา สตรีที่ตรงตามเงื่อนไขยุติการตั้งครรภ์สามารถรับบริการได้ทุกสิทธิ ไม่มีผลกระทบ.